กรุงเทพฯ--25 ก.ค.--BANGKOK AUTUMN
เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จัดทัพทีมวิจัยไฟแรง รวมคนเก่งรุ่นใหม่ และผู้เชี่ยวชาญในแต่ละ Sector ร่วมงาน พร้อมเดินหน้าลุยงานวิจัยเต็มรูปแบบ ภายใต้ 4 ผลิตภัณฑ์ใหม่ ส่งตรงถึงนักลงทุนได้อย่างหลากหลายช่องทาง ที่คัดสรรและกลั่นกรองมาแล้วเป็นอย่างดี เพื่อให้ตอบโจทย์ทุกความต้องการของนักลงทุน พร้อมกันนี้ยังเติมเต็มให้กับนักลงทุนยุคไทยแลนด์ 4.0 ด้วยนวัตกรรมล่าสุด พัฒนาโดยความร่วมมือระหว่าง เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ภูมิภาคและทีมInnovation ของไทยที่จะช่วยเสริมช่องทางในนำเสนอข้อมูลต่างๆ ให้กับนักลงทุนได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ไม่ให้พลาดทุกข่าวสารตลอดทั้งวันทุกที่ทุกเวลา
นายสุกิจ อุดมศิริกุล กรรมการผู้จัดการ และหัวหน้าฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บมจ.หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า เมย์แบงก์ กิมเอ็ง เป็นบริษัทหลักทรัพย์ชั้นแนวหน้าของไทยที่มีความครบครันทั้งผลิตภัณฑ์และการให้บริการ รวมถึงมีทีมวิจัยที่มีความแข็งแกร่งทั้งทีมกลยุทธ์ ปัจจัยพื้นฐาน และเทคนิค เราจะเปิดมิติใหม่ของการวิเคราะห์หุ้นด้วยงานวิจัยในรูปแบบใหม่แบบที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน ให้ตอบโจทย์ความต้องการของนักลงทุนอย่างสูงสุด พลิกโฉมหน้าการนำเสนอข้อมูลด้านการลงทุนต่างๆ ให้ครบถ้วน ครอบคลุม ทันสมัย และรวดเร็ว ผ่านช่องทางการนำเสนอที่หลากหลาย ได้แก่ LINES @MBKET สำหรับลูกค้า และ @maybankfriends สำหรับนักลงทุนทั่วไป, E-mail, Facebook , เว็ปไซต์ และผ่าน Application ที่ทันสมัย เข้าถึงนักลงทุนได้จริง
ทีมวิจัย เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) พร้อมส่ง 4 ผลิตภัณฑ์ใหม่ ที่จะช่วยสรุปและย่อยข่าวสารสำคัญด้านการลงทุนที่ส่งตรงถึงลูกค้าเป็นประจำทุกวัน ได้แก่ 1. ATO หรือ At The Open : เสิร์ฟข่าวเด่น เน้นกลยุทธ์การลงทุน ลึกลงราย sector ครบทุกข้อมูลข่าวสารส่งตรงให้นักลงทุนตลอดวัน โดยมีหัวข้อเด่น อาทิ Market summary, Big issue, Trading idea, สรุปข่าวเด่น, ข้อมูลด้านกลยุทธ์-เทคนิคเคิล, หุ้นเด่นประจำวัน และโปรแกรมเด่นที่นักลงทุนไม่ควรพลาดคือ การถ่ายทอดสดผ่านทาง Face book LIVE : Maybank Kim Eng Thailand นำเสนอข้อมูลจากนักกลยุทธ์การลงทุน และนักวิเคราะห์จากกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ ที่จะมาสรุปภาพรวมการลงทุนและความเคลื่อนไหวในแวดวงตลาดทุนได้อย่างน่าสนใจ ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.30-09.30 น. 2.Portfolio Model โมเดลการลงทุน 3 สไตล์ใหม่แกะกล่อง เปิดตัวเป็นครั้งแรกในวงการหลักทรัพย์ไทย ซึ่งเหมาะกับนักลงทุน 3 สไตล์ กับการแนะนำหุ้นรายวันครั้งละไม่เกิน 10 หุ้น ได้แก่ กลุ่ม Trading Style (สไตล์ใส่ใจ) เหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการกระจายความเสี่ยง ลงทุนอย่างมีวินัย เน้นทำกำไรระยะสั้น (1-2 เดือน) อีกกลุ่มคือ กลุ่ม Momentum Style (สไตล์ไร้ใจ) เหมาะกับนักลงทุนที่ไม่ค่อยมีเวลามาค้นหาข้อมูล โมเดลนี้จะประมวลและคัดสรรหุ้นจากสถิติและข้อมูลในอดีตจนถึงปัจจุบัน (Quantitative Analysis)ซึ่งจะแปรเปลี่ยนไปตามกาลเวลา ทำกำไรระยะปานกลาง-ยาว (6 เดือนขึ้นไป) และกลุ่ม Income Style (สไตล์อุ่นใจ) หุ้นเด่นปันผล เหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการรับเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ รับความเสี่ยงได้น้อยและลงทุนระยะยาว (1 ปี) 3. Small CAP เฟ้นหาหุ้นขนาดเล็กที่ดี มีศักยภาพในการเติบโตสูง โดยพิจารณาจากความถี่ถ้วนในการวิเคราะห์งบการเงิน และโครงสร้างทางธุรกิจ สุดท้ายคือ 4. mai คัดเลือกหุ้นในตลาด mai ที่เป็นดาวเด่นมานำเสนอให้กับผู้ลงทุน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะช่วยสร้างผลตอบแทนที่สูงให้กับพอร์ตการลงทุนในระยะยาว
ด้าน นายธนัท วงษ์ชูแก้ว รองกรรมการผู้จัดการ และหัวหน้าสายงานธุรกิจออนไลน์ กล่าวว่า ปัจจุบันนักลงทุนส่วนใหญ่นิยมใช้อินเทอร์เน็ตเทรดดิ้งกันมากขึ้น ฟินเทค (FinTech) จึงเข้ามามีบทบาทกับนักลงทุนไทยมากขึ้นเรื่อยๆ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ก็เช่นกัน เราให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก เร่งพัฒนาระบบ ผลิตภัณฑ์ และการให้บริการใหม่ๆ เพื่อให้ลูกค้าเมย์แบงก์ กิมเอ็ง มีเครื่องมือใหม่ๆ ในการเข้าถึงข้อมูลและระบบเทรดที่สะดวกรวดเร็วและทันสมัย
พร้อมส่ง 3 ผลิตภัณฑ์ ซึ่งพัฒนาระบบโดยทีมงาน เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ภูมิภาค และทีม Innovation ของ ไทย ได้แก่ 1. โรบอทอัจฉริยะ อิวาน I.V.A.N. (Intelligent Virtual Assistant Network) แห่งแรกและแห่งเดียวในไทย แอพพลิเคชั่นใหม่ล่าสุด ที่เป็น Artificial Intelligence (AI) โรบอทพาร์ทเนอร์คนใหม่ ช่วยให้การทำงานของเจ้าหน้าที่แนะนำการลงทุน (IC) ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ด้วยการนำส่งข้อมูลสำคัญด้านการลงทุน ตั้งเตือนข้อมูลสำคัญๆ ส่งตรงข้อมูลด้านข่าวสาร บทวิเคราะห์ ให้กับเจ้าหน้าที่แนะนำการลงทุนตลอด 24 ชม. โดยคัดกรองข้อมูลจากฐานลูกค้าที่เจ้าหน้าที่ท่านนั้นดูแลอยู่ และพร้อมส่งตรงถึงลูกค้าได้ตลอดเวลา อิวานช่วยให้เจ้าหน้าที่แนะนำการลงทุนเสริฟข้อมูลสำคัญๆ ให้แก่ลูกค้าได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และตรงใจลูกค้าอย่างสูงสุด ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดได้ตลอดเวลา 2. แอพพลิเคชั่น MKET Anywhere โดยเรามีพันธมิตร FinTech อย่าง Market Anywhereซึ่งเป็น Application ที่สามารถส่งคำสั่งซื้อขายได้ โดยมีจุดเด่นมากมายได้แก่ การคัดกรองหุ้น ตั้งค่าเพื่อติดตามความเคลื่อนไหวของหุ้นที่ลูกค้าชื่นชอบ และมีการแจ้งเตือนเมื่อถึงค่าที่ตั้งไว้ วิเคราะห์พอร์ตให้กับลูกค้าแบบเรียลไทม์ และสามารถเข้าไปตั้งคำสั่งซื้อขายจากข้อความที่ตั้งเตือนได้เลย อีกทั้งยังย่อยข้อมูลบทวิเคราะห์ให้เหมาะสมกับการใช้งานผ่านหน้าจอโทรศัพท์มือถือได้อีกด้วย 3.นอกจากนั้น บริษัทฯ ยังได้ร่วมมือกับพันธมิตรอย่างเหนียวแน่นกับสุดยอด FinTech อย่าง Stock Radars โดยการอัพเกรดแอพพลิเคชั่นเดิม คือ KEiTrade เปลี่ยนชื่อเป็น MKET Radars เพื่ออัพเดทความสามารถของการสแกนหุ้น นำเสนอสัดส่วนและการเปลี่ยนแปลงของผู้ถือหุ้น อัพเดทข้อมูลข่าวสาร การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ รวมถึงกิจกรรมของบริษัท อีกทั้งยังมีบริการ Portfolio Clinicหรือ คลีนิคตรวจสุขภาพพอร์ตหุ้น ด้วยการรวบรวมข้อมูลซื้อขายทั้งหมดของลูกค้า นำมาวิเคราะห์เปรียบเทียบข้อมูลย้อนหลัง เพื่อนำมาช่วยตัดสินใจลงทุน และปิดท้ายด้วย Fund Radar ค้นหากองทุนที่เหมาะสมกับลูกค้า ประมวลจากข้อมูลการลงทุนของลูกค้าและพิจารณาจากผลงานย้อนหลังได้อีกด้วย เราจะใช้เทคโนโลยีมาเป็นแรงขับเคลื่อนร่วมกับพันธมิตร FinTech ที่ดีที่สุดในประเทศไทย เพื่อให้ลูกค้าของเมย์แบงก์ กิมเอ็ง ได้รับบริการที่ดีที่สุด และครบเครื่องที่สุด
สำหรับการจัดทัพทีมวิจัยและเปิดตัวบริการใหม่ในครั้งนี้จะเสริมให้ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง มีความแข็งแกร่งรอบด้าน พร้อมนำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินและบริการที่เป็นเลิศให้กับนักลงทุน ดังแนวคิดที่ว่า "ผลตอบแทนของท่าน คือความมุ่งมั่นของเรา" พร้อมยืนหยัดเป็นบริษัทหลักทรัพย์ชั้นแนวหน้าของเมืองไทย ได้อย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน