กรุงเทพฯ--31 ก.ค.--ฟิทช์ เรทติ้งส์
ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) ประกาศให้อันดับเครดิตภายในประเทศแก่หุ้นกู้ด้อยสิทธิที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ตามเกณฑ์บาเซล 3 (Basel III-compliant Tier 2 subordinated unsecured notes) สกุลเงินบาทของธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) หรือ UOBT (อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว 'AAA(tha)'/แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ) ที่ 'AA+(tha)'
ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต
หุ้นกู้ด้อยสิทธิดังกล่าวได้รับการจัดอันดับให้อยู่ต่ำกว่าอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ UOBT หนึ่งอันดับ เพื่อสะท้อนถึงสถานะด้อยสิทธิ ข้อกำหนดสิทธิโดยรวมของหุ้นกู้ด้อยสิทธิดังกล่าวนี้สอดคล้องกับข้อกำหนดสิทธิของหุ้นกู้ด้อยสิทธิประเภทเดียวกันที่มีการออกเสนอขายแล้วก่อนหน้านี้ในประเทศไทย ทั้งนี้ข้อกำหนดสิทธิที่สำคัญคือเรื่องปัจจัยที่จะบ่งชี้ว่าธนาคารมีผลการดำเนินงานที่ไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ (non-viability trigger) ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวจะเกิดขึ้นเมื่อธนาคารกลางหรือทางการตัดสินใจเข้าให้การช่วยเหลือทางการเงินแก่ธนาคาร และผู้ถือหุ้นกู้ด้อยสิทธิจะต้องรองรับผลขาดทุนในลักษณะการตัดเป็นหนี้สูญบางส่วนได้ (partial write-down) โดยไม่ได้เป็นการบังคับให้ตัดหนี้สูญทั้งจำนวน (mandatory full write-down) หุ้นกู้ด้อยสิทธิดังกล่าวไม่มีคุณสมบัติรองรับผลขาดทุนระหว่างการดำเนินกิจการ (going-concern loss absorption feature) ดังนั้นจึงไม่ได้มีการปรับลดอันดับเครดิตลงเพิ่มเติมจากอันดับเครดิตที่ใช้อ้างอิงเพื่อสะท้อนความเสี่ยงที่ผู้ถือหุ้นกู้ด้อยสิทธิจะไม่ได้รับผลตอบแทนตามที่คาดการณ์ (non-performance risk)
อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ UOBT สะท้อนถึงมุมมองของฟิทช์ว่าธนาคารเป็นบริษัทลูกที่มีบทบาทสำคัญในเชิงกลยุทธ์ต่อธนาคารแม่ ซึ่งคือ United Overseas Bank Limited ของประเทศสิงคโปร์ (UOB, อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวที่ 'AA-'/แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ) โดย UOB มีอำนาจควบคุมการบริหารงานและมีสัดส่วนการถือหุ้นใน UOBT ที่ 99.7% อีกทั้งยังมีการใช้ชื่อและเครื่องหมายการค้าร่วมกันและธนาคารแม่ยังให้การสนับสนุนแก่ UOBT ในด้านการดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่อง การพิจาณาอันดับเครดิตของหุ้นกู้ด้อยสิทธิประเภทดังกล่าวนี้ สอดคล้องกับหลักเกณฑ์ที่ใช้ในการพิจารณาอันดับเครดิตของหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่ออกโดยธนาคารแม่ ซึ่งมีการกำหนดปัจจัยที่บ่งชี้ว่าธนาคารมีผลการดำเนินงานที่ไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้และการรองรับผลขาดทุนในลักษณะการตัดเป็นหนี้สูญในลักษณะที่คล้ายคลึงกัน ฟิทช์คาดว่า UOB จะให้การสนับสนุนช่วยเหลือที่จำเป็นแก่ UOBT เพื่อป้องกันไม่ให้ UOBT มีสถานะเป็นธนาคารที่ไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ ดังนั้นปัจจัยในด้านการสนันสนุนจากธนาคารแม่จึงเป็นเป็นปัจจัยที่มีความสำคัญมากกว่าในการพิจารณาอันดับเครดิตและเป็นปัจจัยที่ช่วยหักลบความเสี่ยง จากการที่ UOBT มีความแข็งแกร่งทางการเงิน (credit profile) ที่ด้อยกว่าธนาคารแม่ หุ้นกู้ด้อยสิทธิที่จะออกเสนอขายดังกล่าวนี้จะมีสิทธิในการรับชำระหนี้ที่ทัดเทียมกัน (pari passu) กับหุ้นกู้ด้อยสิทธิประเภทเดียวกันที่ได้ออกเสนอขายให้กับธนาคารแม่ (UOB) ไปก่อนหน้านี้เมื่อเดือนมีนาคม 2556 และยังคงค้างอยู่ แต่หุ้นกู้ด้อยสิทธิชุดเดิมมีการกำหนดการรองรับผลขาดทุนในลักษณะการบังคับให้ตัดหนี้สูญทั้งจำนวน เมื่อธนาคารมีสถานะไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ แต่อย่างไรก็ตามเนื่องจาก UOB เป็นผู้ที่ให้การ สนุนสนุนแก่ UOBT อีกทั้งยังเป็นผู้ถือหุ้นกู้ด้อยสิทธิดังกล่าวทั้งหมด ฟิทช์จึงเชื่อว่าความเสี่ยงของการขาดทุนจากการชำระคืนเงินกู้ (loss severity risk) ของหุ้นกู้ชุดใหม่และหุ้นกู้ชุดเดิมนั้นมีความแตกต่างกัน ดังนั้นฟิทช์จึงให้อันดับเครดิตแก่หุ้นกู้ด้อยสิทธิที่จะออกเสนอขายดังกล่าวที่หนึ่งอันดับต่ำกว่าอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ UOBT เพื่อสะท้อนถึงลักษณะการตัดเป็นหนี้สูญบางส่วนได้
ปัจจัยที่อาจส่งผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต
การเปลี่ยนแปลงของอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ UOBT อาจส่งผลกระทบต่ออันดับเครดิตของหุ้นกู้ด้อยสิทธิดังกล่าวในทิศทางเดียวกัน อันดับเครดิตภายในประเทศของ UOBT เป็นอันดับเครดิตที่อยู่ในระดับสูงสุด จึงไม่มีโอกาสที่อันดับเครดิตจะได้รับการปรับเพิ่มอันดับ อันดับเครดิตของ UOBT อาจได้รับผลกระทบในเชิงลบหาก แนวโน้มที่ UOB จะให้การสนับสนุน UOBT มีการปรับตัวลดลง ซึ่งอาจแสดงให้เห็นโดยการลดสัดส่วนการถือหุ้นอย่างมีนัยสำคัญ หรือการลดลงของระดับความเชื่อมโยงในการดำเนินงานระหว่างกัน อย่างไรก็ตามฟิทช์มองว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่น่าจะเกิดขึ้นในระยะปานกลาง
อันดับเครดิตของ UOBT ที่ไม่ได้รับผลกระทบจากการประกาศอันดับเครดิตครั้งนี้ มีดังต่อไปนี้:
- อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวที่ 'A-'; แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
- อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะสั้นที่ 'F2'
- อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินที่ 'bb+'
- อันดับเครดิตสนับสนุนที่ '1'
- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวที่ 'AAA(tha)'; แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นที่ 'F1+(tha)'
-อันดับเครดิตในประเทศของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิไม่มีหลักประกันที่ 'AAA(tha)'