การ Refinance เงินกู้ Syndication Loan วงเงิน 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ของการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย

ข่าวทั่วไป Wednesday October 18, 2000 09:49 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--18 ต.ค.--ปตท.
คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ให้การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย (ปตท.) ดำเนินการจัดหาเงินกู้ภายในประเทศ วงเงิน 4,000 ล้านบาท ระยะเวลากู้เงินไม่เกิน 10 ปี เพื่อการ Refinance เงินกู้ Syndication Loan วงเงิน 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยกระทรวงการคลังให้การค้ำประกันเงินกู้ และให้พิจารณาวิธีการและเงื่อนไขของการกู้เงินได้ตามความเหมาะสมและจำเป็น
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังรายงานว่า เงินกู้จำนวนดังกล่าวจะครบกำหนดชำระคืนในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2544 ปตท. จึงขอให้กระทรงการคลังพิจารณาแนวทางการชำระคืนเงินกู้ดังกล่าวก่อนกำหนดในงวดการชำระดอกเบี้ยวันที่ 26 ตุลาคม 2543 และจัดหาเงินกู้ในประเทศทดแทนเงินกู้เดิมให้แก่ ปตท. ในวงเงิน 4,000 ล้านบาท โดยมีกระทรวงการคลังเป็นผู้ให้การค้ำประกัน ซึ่งกระทรวงการคลังพิจารณาแล้วได้ชี้แจงข้อเท็จจริง และเสนอข้อคิดเห็น ดังนี้
1. โครงการก่อสร้างท่อส่งก๊าซธรรมชาติ จากแหล่งยาดานา ประเทศพม่า เป็นโครงการวางท่อส่งก๊าซธรรมชาติเพื่อรับก๊าซจากแหล่งยาดานา ประเทศพม่า สำหรับส่งให้แก่โรงไฟฟ้าราชบุรี ซึ่งโครงการดังกล่าวเป็นโครงการที่มีอายุประมาณ 25 ปี มีรายได้เป็นเงินบาท และมีกำหนดการรับก๊าซธรรมชาติตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2541 แต่เนื่องจากโรงไฟฟ้าราชบุรียังก่อสร้างไม่แล้วเสร็จ จึงไม่สามารถรับก๊าซธรรมชาติได้ตามกำหนด ปตท. จึงต้องชำระค่า Take or Pay หรือการจ่ายเงินล่วงหน้าตามสัญญาซื้อขายก๊าซธรรมชาติ สำหรับก๊าซธรรมชาติที่ไม่ได้รับตามกำหนด โดย ปตท. ได้ชำระค่า Take or Pay สำหรับปี 2541 และ 2542 ไปแล้วเป็นจำนวนเงินรวม 328 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และกำหนดที่จะต้องมีการชำระค่า Take or Pay สำหรับปี 2543 ในวันที่ 1 มีนาคม 2544 เป็นจำนวนเงินประมาณ 350 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดย ปตท. มีแผนที่จะทำการกู้เงินหรือออกพันธบัตรในประเทศประมาณ 11,000 ล้านบาท
2. การกู้เงิน Syndication Loan วงเงิน 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เป็นการกู้เงินจากตลาดการเงินต่างประเทศในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจ ดังนั้น การกู้เงินในระยะยาวจะทำให้มีต้นทุนการกู้เงินอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูงกว่าภาวะปกติและไม่เป็นที่ยอมรับของตลาดการเงินเท่าที่ควร จึงจำเป็นต้องจัดหาเงินกู้ประเภทลอยตัวระยะ 2 ปี และจัดหาเงินกู้ระยะยาวมาทดแทนเมื่อภาวะตลาดเอื้ออำนวยต่อไป นอกจากนี้ ปตท. ได้ทำการซื้ออัตราแลกเปลี่ยนล่วงหน้า (Forward) สำหรับการชำระคืนเงินกู้ดังกล่าวที่จะครบกำหนดในเดือนกุมภาพันธ์ 2544 ประมาณร้อยละ 80 ของวงเงิน ซึ่ง ปตท. สามารถขอเปลี่ยนแปลงวันครบอายุของ Forward เพื่อใช้สำหรับการชำระคืนเงินกู้ก่อนกำหนดได้ ดังนั้น การชำระคืนเงินกู้ดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่ออัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทใน Spot Market
3. อัตราผลตอบแทนจากการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลอายุระหว่าง 5 - 14 ปี เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2543 จะมีอัตราผลตอบแทนที่ค่อนข้างต่ำ ซึ่งอยู่ในช่วงระหว่างร้อยละ 4.31 - 6.82 ต่อปี ดังนั้น การระดมเงินจากตลาดในประเทศเพื่อทดแทนเงินกู้ต่างประเทศจึงอยู่ในภาวะที่เอื้ออำนวยมาก
4. การกู้เงินในประเทศจำนวน 4,000 ล้านบาท เพื่อ Refinance เงินกู้เดิมนั้น หาก ปตท. ดำเนินการกู้เงินจากตลาดในประเทศโดยไม่มีการค้ำประกัน จะทำให้ต้นทุนในการกู้เงินหรือออกพันธบัตรในประเทศเพิ่มสูงขึ้นประมาณร้อยละ 1.5 - 2 ต่อปี กระทรวงการคลังจึงเห็นควรให้ ปตท. ดำเนินการกู้เงินในประเทศ โดยมีกระทรวงการคลังค้ำประกันและมีระยะเงินกู้ไม่เกิน 10 ปี โดยให้กระทรวงการคลังพิจารณาวิธีการและเงื่อนไขของการกู้เงินได้ตามความเหมาะสมและจำเป็น--จบ--
-สส-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ