กรุงเทพฯ--1 ส.ค.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ระดมสรรพกำลังทั้งเจ้าหน้าที่และเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัย ทั้งของศูนย์ ปภ.เขต 7 สกลนคร เขต 5 นครราชสีมา เขต 6 ขอนแก่น และเขต 14 อุดรธานี เข้าปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย โดยปัจจุบันมีเจ้าหน้าที่ชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤตกว่า 300 นาย และเครื่องมือเครื่องจักรกลของ ปภ. กว่า 100 รายการ ปฏิบัติการร่วมกับจังหวัด หน่วยทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมและช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามจุดต่างๆ อาทิ สนามบิน โรงพยาบาล ชุมชน อย่างต่อเนื่อง ซึ่ง ปภ. จะได้หมุนเวียนทรัพยากรด้านสาธารณภัยให้สอดคล้องกับสถานการณ์และสภาพปัญหาในแต่ละพื้นที่ รวมถึงรองรับการแก้ไขปัญหาวิกฤติอุทกภัยและให้การช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงซึ่งเป็นพื้นที่รับน้ำ
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า นับตั้งแต่ได้รับการประสานจากกรมอุตุนิยมวิทยาว่า มีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนตกหนักต่อเนื่อง กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานจังหวัด หน่วยทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหาและให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างทันท่วงที โดยนอกจากจะระดมสรรพกำลัง อาทิ เจ้าหน้าที่และเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยของศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 7 สกลนคร แล้ว ยังได้ระดมทรัพยากรด้านสาธารณภัยจากศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตใกล้เคียง ได้แก่ ศูนย์ ปภ. เขต 5 นครราชสีมา เขต 6 ขอนแก่น และเขต 14 อุดรธานี โดยนำเจ้าหน้าที่ชุดเผชิญเหตุสถานการณ์วิกฤต (ERT) พร้อมวัสดุอุปกรณ์เครื่องมือ เครื่องจักรกลด้านสาธารณภัย เข้าสนับสนุนการปฏิบัติการแก้ไขวิกฤตอุทกภัยและให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่จังหวัดสกลนครอย่างเต็มกำลัง พร้อมได้กำหนดจุดรวมพลเครื่องจักรกลของศูนย์ ปภ. เขต 4 แห่ง เพื่อรอรับการมอบหมายภารกิจในการสนับสนุนการปฏิบัติการแก้ไขปัญหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยในจังหวัดสกลนครและพื้นที่ใกล้เคียงจากผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะผู้อำนวยการจังหวัด และชี้เป้าการปฏิบัติการตาม แผนเผชิญเหตุ เพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อน ซึ่งเมื่อเกิดสถานการณ์ภัย ปภ.ได้บูรณาการการใช้ทรัพยากรร่วมกับหน่วยทหารและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในการแบ่งมอบพื้นที่และภารกิจ เพื่อให้การใช้เครื่องจักรกลเกิดประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งเป็นการปฏิบัติตามมาตรฐานของการจัดการสาธารณภัย โดยปัจจุบัน มีเจ้าหน้าที่ชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤตกว่า 300 นาย และเครื่องจักรกลของ ปภ. กว่า 100 รายการ อาทิ รถสูบส่งน้ำระยะไกล เครื่องสูบน้ำ รถไฟฟ้า ส่องสว่าง รถผลิตน้ำดื่ม เรือพาย เรือเครื่อง รถเครน รถยกสูงขนย้ายผู้ประสบภัย เข้าปฏิบัติการร่วมกับจังหวัด หน่วยทหาร และองค์ปกครองส่วนท้องถิ่น ในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมและช่วยเหลือผู้ประสบภัย อพยพประชาชน ให้บริการและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนตามจุดต่างๆ อาทิ สนามบินโรงพยาบาล ชุมชน ซึ่งเป็นแนวทางปฏิบัติเดียวกันกับการบูรณาการบริหารจัดการอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ ทั้งนี้ ปภ. จะได้หมุนเวียนทรัพยากร ด้านสาธารณภัยให้สอดคล้องกับสถานการณ์และสภาพปัญหาในแต่ละพื้นที่ รวมถึงรองรับการแก้ไขปัญหาวิกฤติอุทกภัยและให้การช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงซึ่งเป็นพื้นที่รับน้ำ อย่างไรก็ตาม เครื่องจักรด้านสาธารณภัยของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเป็นอุปกรณ์พิเศษ ที่จำเป็นต้องใช้เจ้าหน้าที่มีความรู้ ทักษะ และเทคนิคพิเศษในการควบคุมการใช้งาน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดและเกิดความปลอดภัยแก่ประชาชน จึงไม่สามารถส่งมอบให้ประชาชนนำไปงานเองได้ ทั้งนี้ ต้องขอขอบคุณจิตอาสาและประชาชนที่ได้แสดงความคิดเห็นและให้คำแนะนำในการปฏิบัติงาน ขอให้มั่นใจขณะนี้มีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบภัยอย่างต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์ภัยจะสิ้นสุดและฟื้นฟูให้กลับสู่สภาพปกติ
นายฉัตรชัย กล่าวต่อไปว่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้เน้นย้ำให้หน่วยปฏิบัติในพื้นที่บูรณาการสรรพกำลังและทรัพยากรเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัย รวมถึงวางแผนการใช้ทรัพยากรและสรรพกำลังในการเสริมกำลังและสนับสนุนการปฏิบัติการ เพื่อให้การแก้ไขปัญหาอุทกภัยเกิดประสิทธิภาพสูงสุด รวมถึงให้เชื่อมโยงการทำงานอย่างเป็นระบบ เพื่อให้การแก้ไขปัญหาอุทกภัยมีประสิทธิภาพและเข้าถึงประชาชนครอบคลุมทุกพื้นที่
0-2243-0674 0-2243-2200 www.disaster.go.th