กรุงเทพฯ--7 ส.ค.--อาซิแอม เบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์
บริษัท ลูเซนท์ เทคโนโลยี่ส์ (ชื่อในตลาดหุ้นนิวยอร์ก- LU) แถลงผลประกอบการไตรมาสที่ 3 สิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2543 รายได้จากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นเป็น 8,713 ล้านเหรียญสหรัฐจาก 7,245 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือร้อยละ 20 จากปีที่แล้ว ส่งผลให้กำไรสุทธิต่อหุ้นปรับตัวสูงขึ้น ร้อยละ 30 คิดเป็นมูลค่า 30 เซ็นต์ต่อหุ้น
นายริชาร์ด แม็คกินน์ ประธานกรรมการและประธานบริหารของบริษัท ลูเซนท์ เทคโนโลยี่ส์ กล่าวว่า "ผลประกอบการไตรมาส 3 ของเราเติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่งโดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจเครือข่ายข้อมูล ระบบการสื่อสารไร้สาย ธุรกิจบริการ ธุรกิจอ็อพโตอีเล็คทรอนิคส์ และธุรกิจใยแก้วนำแสง นอกจากนี้ การที่เราประกาศแยกหน่วยธุรกิจ ไมโครอีเล็คทรอนิคส์เมื่อเร็วๆ นี้ โดยจะก่อตั้งบริษัทใหม่ขึ้นอีก 2 แห่งก็เพื่อเป็นการปูทางไปสู่ผู้นำในตลาดการวางโครงสร้างอินเตอร์เน็ต และตลาดเซมิคอนดักเตอร์เพื่อการสื่อสาร ซึ่งการดำเนินการของเราครั้งนี้เปรียบเสมือนการแตกหน่วยธุรกิจเพื่อทำให้ลูเซนท์เติบโตต่อไปอย่างรวดเร็ว"
นายแม็คกินน์กล่าวเสริมว่า "จากนี้ไป ลูเซนท์จะมุ่งพัฒนาธุรกิจด้านเครือข่ายเป็นหลัก เพราะตลาดนี้เป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุด ด้วยมูลค่าตลาดสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 225,000 ล้านเหรียญสหรัฐในปีนี้ ดังนั้น ด้วยแนวทางธุรกิจที่ชัดเจนนี้ เราจะสามารถปรับระบบปฏิบัติงานได้ดีขึ้น และยังสามารถเพิ่มการลงทุนในตลาดบรอดแบนด์ และตลาดโครงสร้างอินเตอร์เน็ตไร้สายได้มากขึ้น ขณะเดียวกันยังช่วยผลักดันให้เราเติบโตอย่างแข็งแกร่งและต่อเนื่องอีกด้วย"
อย่างไรก็ตาม หากรวมค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการซื้อหน่วยวิจัยและพัฒนาจำนวน 863 ล้านเหรียญสหรัฐ การตัดจำหน่ายค่าความนิยม (goodwill) และค่าซื้อเทคโนโลยีจำนวน 118 ล้านเหรียญสหรัฐ และยอดขาดทุนสุทธิที่เกิดจากการดำเนินงานไม่ต่อเนื่องอีกจำนวน 287 ล้านเหรียญสหรัฐแล้ว จะทำให้ผลประกอบการของบริษัทในไตรมาส 3 นี้ ขาดทุนสุทธิ 301 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 9 เซ็นต์ต่อหุ้น เทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่มีกำไรสุทธิ 763 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 24 เซ็นต์ต่อหุ้น ทั้งนี้ นายแม็คกินน์เปิดเผยว่า ลูเซนท์ได้ประมาณการว่าในไตรมาส 4 ซึ่งจะสิ้นสุด ณ วันที่ 30 กันยายน 2543 รายได้จากการดำเนินงานของบริษัทจะเติบโตขึ้นประมาณ ร้อยละ 15
นางเดโบร่าห์ ฮ็อพกินส์ รองประธานบริหารและประธานบริหารฝ่ายการเงิน บริษัท ลูเซนท์ เทคโนโลยี่ส์ กล่าวว่า "เรามั่นใจว่า ในปีบัญชี 2544 นี้ รายได้และกำไรของลูเซนท์จะเติบโตขึ้นถึงร้อยละ 20 เพราะโอกาสทางการมีตลาดอยู่มาก ขณะเดียวกันโอกาสในการเสริมสร้างศักยภาพทางธุรกิจของบริษัทให้แข็งแกร่ง โอกาสที่จะลดขั้นตอนการปฏิบัติงานที่มีความยุ่งยากซับซ้อน และโอกาสที่จะเพิ่มประสิทธิภาพในการเจาะตลาดก็มีอยู่มากเช่นเดียวกัน สิ่งต่างๆ เหล่านี้จะเป็นโอกาสที่ดีของเราในการสร้างเสริมผลกำไรให้เติบโตขึ้นในที่สุด"
ผลการดำเนินงาน
ระบบเครือข่ายสำหรับผู้ให้บริการ (เซอร์วิส โพรวายเดอร์)
ในไตรมาส 3 ลูเซนท์มีรายได้เพิ่มขึ้นถึง 6,885 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ ร้อยละ 16 เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีที่แล้ว โดยมาจากยอดขายในธุรกิจโครงสร้างอินเตอร์เน็ตที่พัฒนาสำหรับผู้ให้บริการ ธุรกิจระบบเครือข่ายการ สื่อสารแบบไร้สาย และธุรกิจบริการเป็นหลัก ซึ่งรายได้ส่วนใหญ่จะเป็นรายได้จากการขายบริการให้กับลูกค้าประเภทกลุ่มผู้ให้บริการระบบการสื่อสารแบบไร้สาย และผู้ให้บริการระบบการสื่อสารโทรคมนาคมภายในประเทศ ทั้งที่เป็นผู้บุกเบิกรายเดิม และผู้ให้บริการรายใหม่ๆ
ผลงานอันโดดเด่นของกลุ่มธุรกิจระบบเครือข่ายสำหรับผู้ให้บริการตั้งแต่ปลายไตรมาส 2 มีดังนี้:
ลงนามในข้อตกลงโครงการที่เกี่ยวข้องกับช่องสัญญาณบรอดแบนด์ ระบบเครือข่ายไร้สายและระบบเครือข่ายอ็อพติกหลายฉบับ โดยมูลค่าโครงการสูงถึง 3,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
ทำข้อตกลงร่วมกับไอบีเอ็ม อีเอ็มซี และซัน ไมโครซิสเต็มส์ในการร่วมสร้างตลาดใหม่ด้านผู้ให้บริการช่องสัญญาณขนาดใหญ่ (high-bandwidth service providers) ที่เรียกว่า Cybercarriers จากความร่วมมือ ดังกล่าวลูเซนท์จะทำหน้าที่ถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านเครือข่ายและบริการระดับมืออาชีพแก่บริษัทกลุ่ม Cybercarriers และยังช่วยเหลือในการสร้างเครือข่ายความเร็วสูงแบบครบวงจร พร้อมด้วยระบบศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ ซึ่งใช้รองรับงานด้านเว็บโฮสติ้ง อีเมล์ อี-คอมเมิร์ซ และบริการจัดเก็บข้อมูล
ทำข้อตกลงร่วมกับออราเคิล คอร์ปอเรชั่น เพื่อพัฒนา และทำตลาดโซลูชั่นเกี่ยวกับ Customer Relationship Management (CRM) และซอฟท์แวร์การจัดการระบบเรียกเก็บเงินที่สมบูรณ์แบบที่สุด
เข้าซื้อบริษัท โครมาทิส เน็ทเวิร์คส์ ซึ่งเป็นผู้นำด้านระบบเครือข่าย metro optical ซึ่งระบบเครือข่าย metro optical จัดเป็นเซ็กเมนต์ที่มีอัตราการเติบโตเร็วที่สุดในตลาดเครือข่ายอ็อพติก
ได้รับยกย่องจากบริษัทด้านวิจัยอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ชั้นนำหลายแห่งให้เป็นผู้นำตลาด Digital Subscriber Line (DSL) โปรโตคอลการสื่อสารด้วยเสียงบนอินเตอร์เน็ต (VoIP) ตลาดอุปกรณ์สวิชชิ่งระยะไกลและ WAN ในระหว่างไตรมาสแรกของปี 2543
ไมโครอีเล็คทรอนิคส์ แอนด์ คอมมูนิเกชั่นส์ เทคโนโลยีส์
ทั้งนี้ รายได้ของบริษัทฯได้เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 39 หรือคิดเป็นมูลค่า 1,809 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งตัวเลข ดังกล่าวได้สะท้อนให้เห็นถึงการเติบโตเกือบ 3 เท่าของธุรกิจผลิตชิ้นส่วนอ็อพโตอีเล็คทรอนิคส์ โดยมียอดขายเพิ่มขึ้นสำหรับผลิตภัณฑ์ประเภทใยแก้วนำแสง ธุรกิจระบบพลังงาน และชิพเพื่อใช้ในการสื่อสารความเร็วสูงและระบบเครือข่ายข้อมูล
สำหรับในประเทศสหรัฐอเมริกา รายได้ของบริษัทเพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีที่ผ่านมาประมาณร้อยละ 49 ในขณะที่รายได้จากประเทศอื่นๆ นอกสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 26 และคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 40 ของรายได้ทั้งหมด
กลุ่มธุรกิจ ไมโครอีเล็คทรอนิคส์ แอนด์ คอมมูนิเกชั่น เทคโนโลยี่ส์ มีผลงานที่โดดเด่นนับตั้งแต่ปลายไตรมาสที่ 2 ของปีการเงิน 2543 ดังนี้:
เข้าซื้อกิจการบริษัท เฮอร์แมนน์ เทคโนโลยี ผู้จัดจำหน่ายชั้นนำด้านอุปกรณ์เครือข่ายอ็อพติก DWDM ซึ่งจะเป็นอุปกรณ์เครือข่ายในอนาคต โดยการเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ได้ช่วยเสริมสร้างให้ธุรกิจไมโครอีเล็คทรอ-นิคส์ มีศักยภาพอันแข็งแกร่งในการนำเสนอโซลูชั่นอุปกรณ์อ็อพโตอีเล็คทรอนิคส์แบบครบวงจร
ประกาศขยายกำลังการผลิตของโรงงานผลิตอ็อพโตอีเล็คทรอนิคส์ ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของมลรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ซึ่งลูเซนท์ได้เข้าซื้อกิจการดังกล่าวจากบริษัทออร์เทล คอร์ปอเรขั่นเมื่อไม่นานมานี้ เป็นมูลค่า 40 ล้านเหรียญสหรัฐ
ประกาศเปิดตัวโปรเซสเซอร์ที่ส่งสัญญาณด้วยระบบดิจิตอล (digital signal processor หรือ DSP) ซึ่งเป็นโปรเซสเซอร์เพื่อการทำงานบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ตและเครือข่ายสัญญาณไร้สายในอนาคต โดยจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของชิพอินเตอร์เน็ตได้ถึง 2 เท่า อีกทั้งยังเร่งความเร็วในช่องสัญญาณเสียงและข้อมูลได้เร็วขึ้นมากกว่า 4 เท่าต่อชิพหนึ่งตัว เพื่อสนับสนุนการทำงานของระบบสวิชสัญญาณไร้สาย ระบบ VoIP gateway และเครื่องเซิร์ฟเวอร์ที่สามารถใช้งานได้จากระยะไกล (remote access server)
ประกาศขายธุรกิจพาวเวอร์ ซิสเต็มส์ ซึ่งเป็นผู้จำหน่ายชั้นนำทางด้านผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับระบบพลังงานสำหรับอุตสาหกรรมสื่อสารโทรคมนาคม และคอมพิวเตอร์ ซึ่งนับเป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นของลูเซนท์ที่มุ่งเน้นพัฒนาด้านการวางโครงสร้างอินเตอร์เน็ต
ลูเซนท์ เทคโนโลยี่ส์เป็นผู้ออกแบบและพัฒนาระบบซอฟต์แวร์ ซิลิกอนและการบริการสำหรับเครือข่ายการสื่อสารยุคใหม่สำหรับกลุ่มเซอร์วิส โพรวายเดอร์และองค์กรธุรกิจต่างๆ บริษัทฯ มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมือง เมอร์เรย์ ฮิลล์ มลรัฐนิวเจอร์ซี่ สหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ ด้วยการสนับสนุนของศูนย์ปฏิบัติการค้นคว้าและวิจัยเบลล์ (Bell Labs) ลูเซนท์มุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจที่มีอัตราการเติบโตสูง เช่น เครือข่ายใยแก้วนำแสงและเครือข่ายไร้สาย อินเตอร์เน็ต ซอฟต์แวร์ด้านการสื่อสาร เซมิคอนดัคเตอร์ และอ็อพโตอีเล็คทรอนิคส์ด้านการสื่อสาร โซลูชั่น-เอ็นเตอร์ไพรส์ในรูปแบบของเว็บซึ่งเชื่อมต่อเครือข่ายส่วนตัวและเครือข่ายสาธารณะเข้าด้วยกัน และการออกแบบเครือข่ายและการให้บริการคำปรึกษาระดับมืออาชีพ หากต้องการรับทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับลูเซนท์ เทคโนโลยี่ส์ กรุณาแวะไปที่เว็บไซต์ http://www.lucent.com
ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับสื่อมวลชนกรุณาติดต่อ:
สิริพร ศุภรัชตการ
อาซิแอม เบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์
โทร. 252-9871
s_siriporn@bm.com-- จบ--
-อน-