กรุงเทพฯ--3 ส.ค.--ธนาคารธนชาต
ธนชาตห่วงใยผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคอีสาน ออกมาตรการช่วยเหลือให้สามารถ "ตั้งหลัก" ฝ่าวิกฤต สามารถขอพักชำระหนี้ได้นานสูงสุดไม่เกิน 4 เดือน พร้อมช่วยเหลือทุกกลุ่มทั้งลูกค้ารายย่อยและเจ้าของธุรกิจ ครอบคลุมทั้งลูกค้ารถยนต์ บ้าน ธุรกิจส่วนตัว หรือ ผู้ที่ขาดสภาพคล่อง หวังบรรเทาความเดือดร้อนประชาชนให้กลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้โดยเร็ว
นายสมเจตน์ หมู่ศิริเลิศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เหตุอุทกภัยครั้งใหญ่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือครั้งนี้ส่งผลกระทบต่อประชาชนเป็นวงกว้าง ธนชาตมีความห่วงใยจึงได้ออกมาตรการช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อน และช่วยฟื้นฟูความเป็นอยู่และกิจการภายหลังน้ำลดให้ลูกค้าของธนชาตสามารถ "ตั้งหลัก" และกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติสุขอีกครั้งโดยเร็ว โดยมาตรการที่ออกมาครอบคลุมลูกค้าทุกด้านทั้ง รถยนต์ บ้าน ธุรกิจ ตลอดจนกลุ่มที่ขาดสภาพคล่อง ที่อยู่ในพื้นที่ประสบพิบัติภัยตามประกาศของทางการ โดยลูกค้าสามารถยื่นขอรับความช่วยเหลือจากธนชาตได้จนถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2560
โดย ลูกค้ากลุ่มที่มีรถยนต์ และใช้บริการ สินเชื่อรถยนต์ กับธนาคาร ที่ได้รับความเดือดร้อนขาดสภาพคล่องทางการเงินจากปัญหาอุทกภัยสามารถขอขยายระยะเวลาการผ่อนชำระค่างวด (Hire Purchase Reschedule) เพื่อช่วยลดภาระค่างวดลง โดยธนาคารจะเลื่อนวันผ่อนงวดแรกออกไปอีกสูงสุดไม่เกิน 4 เดือน สำหรับประชาชนทั่วไปที่มีรถยนต์เป็นของตัวเองแต่ต้องการเงินสดไปใช้จ่ายเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน สามารถนำรถยนต์มาใช้บริการสินเชื่อรถแลกเงินได้ โดยธนาคารจะมอบสิทธิพิเศษให้ คือช่วย "ตั้งหลัก"ด้วยการรับเงินไปก่อน และเริ่มผ่อนงวดแรกในอีก 90 วัน
ส่วนผู้ที่ทำ ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจกับธนชาตประกันภัย และรถเสียหายจะได้รับบริการรถยกฟรีไปที่อู่ พร้อมการประสานไปยังอู่รถยนต์และศูนย์บริการที่มีความเชี่ยวชาญในการจัดซ่อมรถยนต์ที่ถูกน้ำท่วมให้ สำหรับผู้ที่ทำประกันภัยรถ ประเภท 1, One Lite Plus, One Lite, Super Lite, 2 บวกจัดเต็มคุ้มครองน้ำท่วม, 2 บวกคุ้มครองน้ำท่วม และ 2 บวกโกลด์คุ้มครองน้ำท่วม หากรถเสียหายสามารถเคลมประกันน้ำท่วมได้ตามเงื่อนไขกรมธรรม์
ลูกค้าที่ใช้ บริการสินเชื่อเคหะ กับธนาคาร แม้บ้านไม่ได้รับความเสียหาย แต่ได้รับความเดือดร้อน สามารถขอพักชำระหนี้กับธนาคารได้นานสูงสุดไม่เกิน 4 เดือน หรือขอปรับลดค่างวดได้นานสูงสุด 12 เดือน ส่วนลูกค้าที่ทำประกันอัคคีภัยที่อยู่อาศัยและประกันภัยรักบ้านห่วงบ้าน และซื้อความคุ้มครองภัยน้ำท่วมเพิ่มเติมกับ ธนชาตประกันภัย สามารถเคลมประกันน้ำท่วมได้ตามเงื่อนไขกรมธรรม์ โดยผู้ที่ทำประกันภัยรักบ้านห่วงบ้าน จะได้รับความคุ้มครองสำหรับการขนย้ายซากทรัพย์สินที่เสียหายให้ด้วย
สำหรับลูกค้าซึ่งใช้บริการ บัตรกดเงินสด สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อสารพัดนึก และได้รับความเดือดร้อนขาดสภาพคล่อง สามารถขอพักชำระหนี้กับธนาคารได้นานสูงสุดไม่เกิน 4 เดือน
ขณะที่เจ้าของธุรกิจที่ใช้บริการ สินเชื่อ SME และได้รับผลกระทบ สามารถขอพักชำระหนี้ได้นานสูงสุดไม่เกิน 4 เดือน และขยายเวลาการชำระหนี้ได้สูงสุด 12 เดือน
"ธนชาตและลูกค้าถือว่าเป็นหุ้นส่วนกัน ในยามปกติเราก็สนับสนุนให้ลูกค้าสามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้โดยสะดวก เป้าหมายหลักคือเพื่อประโยชน์ของลูกค้า ดังนั้นในยามที่ลูกค้าเดือดร้อนลำบาก เราก็พร้อมที่จะเข้าไปบรรเทาความเดือดร้อนและช่วยเหลือลูกค้าด้วยเช่นกัน และเชื่อว่ามาตรการที่ออกมาในครั้งนี้จะสามารถช่วยบรรเทาความเดือดร้อนและแบ่งเบาภาระของลูกค้าได้เป็นอย่างดี" นายสมเจตน์ กล่าว