กลุ่มแสนสิริประกาศแผนธุรกิจปี 44 ก้าวสู่ 1 ใน 3 ผู้นำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทย

ข่าวทั่วไป Tuesday February 27, 2001 13:13 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--27 ก.พ.--แสนสิริ
"กลุ่มแสนสิริ" บริษัทอสังหาฯ ปลอดหนี้รายแรกของไทย เปิดแผนเตรียมพร้อมขยายธุรกิจมุ่งจับตลาดคอนโดมิเนียม อพาร์ตเมนต์ใจกลางเมือง และปิดการขายนาราสิริ วัชรพลภายในสิ้นปีนี้ พร้อมผลักดันบริษัทลูกทั้งธุรกิจตัวแทนจำหน่ายสินทรัพย์ ธุรกิจบริหารโครงการ และธุรกิจบริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงให้ก้าวสู่ความเป็นผู้นำ พร้อมเปิดตัวธุรกิจใหม่ "อสังหาฯ ออนไลน์"
นายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่บริษัทฯ สามารถเจรจาปรับโครงสร้างหนี้ได้เป็นผลสำเร็จเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ในปี 2544 นี้ แสนสิริตั้งเป้าที่จะดำเนินธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์อย่างเต็มรูปแบบ เพื่อก้าวสู่การเป็น 1 ใน 3 ผู้นำของวงการอสังหาริมทรัพย์ไทย ที่ผ่านมาแสนสิริ ได้ขยายธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์อย่างครบวงจร เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดให้ได้ครอบคลุมที่สุด ซึ่งปัจจุบันมีกลุ่มบริษัทในเครือทั้งสิ้น 3 บริษัท ประกอบด้วย บริษัท แสนสิริ พร็อพเพอร์ตี้ พลัส จำกัด ซึ่งดำเนินธุรกิจด้านตัวแทนจำหน่ายสินทรัพย์และธุรกิจบริหารโครงการ บริษัท พ้อยท์ เอเชีย แอ็คเซ็ส จำกัด ผู้ให้บริการระบบอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงในอาคารสูง และบริษัท แสนสิริ โฮม เน็ทเวิร์ค จำกัด ซึ่งจะเปิดให้บริการได้ภายในกลางปีนี้
"ในปีที่ผ่านมา แสนสิริ ถือว่าประสบความสำเร็จทางด้านธุรกิจอย่างน่าพอใจ หากมองย้อนไปเมื่อต้นปี 2543 เราสามารถปิดการขายอโศกเพลสซึ่งเป็นทรัพยสินของกองทุนรวมสตาร์วูดไทยแลนด์พร็อพเพอร์ตี้ 1 ที่ประมูลจาก ปรส. ได้ภายใน 1 สัปดาห์ ต่อมาเราก็หันมาจับธุรกิจรับบริหารงานขายและวางกลยุทธ์ด้านการตลาดให้กับบ้านกาญจนาคม พหลโยธินซอย 2 ของบริษัท อยู่สบาย จำกัด และก็สามารถปิดการขายทั้งโครงการไปได้เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา และสิ่งที่ถือเป็นก้าวสำคัญของเราอีกครั้งก็คือ การเข้าดำเนินธุรกิจบ้านเดี่ยวเป็นครั้งแรก โดยเปิดตัวไปเมื่อเดือนพฤศจิกายนเมื่อปีที่ผ่านมา ในชื่อโครงการนาราสิริ วัชรพล รามอินทราและได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี ส่งผลให้สามารถปิดการขายในเฟสแรกได้เมื่อประมาณกลางเดือนกุมภาพันธ์นี้ และเริ่มเปิดโครงการเฟส 2 ต่อทันที สรุปโดยภาพรวมในปีที่ผ่านมาบริษัทฯ มีผลประกอบการ 750 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 158% จากปี 2542"
ในปี 2544 แสนสิริตั้งเป้าที่จะเฟ้นหาคอนโดมิเนียมหรืออพาร์ตเมนต์ที่มีศักยภาพอย่างน้อย 2 โครงการในเขตใจกลางเมืองมาพัฒนาต่อ ดังเช่นโครงการ "สิริอพาร์ตเมนต์ สุขุมวิท 12" ที่เปิดตัวไปเมื่อประมาณกลางเดือนมกราคมที่ผ่านมา พร้อมกับปิดการขายโครงการนาราสิริ วัชรพลให้เป็นผลสำเร็จ
"ตลาดอพาร์ตเมนต์ให้เช่านับเป็นอีกตลาดหนึ่งที่แสนสิริ ให้ความสนใจและดำเนินการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องทั้งในปีนี้และในอนาคต เนื่องจากปริมาณความต้องการของกลุ่มลูกค้าต่างชาติได้เพิ่มขึ้นอย่างมาก สืบเนื่องมาจากการขยายกิจการธุรกิจข้ามชาติในประเทศไทย สังเกตจากอัตราการเข้าพักที่เพิ่มสูงขึ้นจาก 86% ในต้นปี 2543 เป็น 91% ในต้นปี 2544 ส่วนของสภาพการแข่งขันถือว่าไม่รุนแรงนัก เนื่องจากจำนวนอพาร์ตเมนต์ให้เช่าในปัจจุบันมีค่อนข้างจำกัด ซึ่งอาคารส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ในเขตใจกลางธุรกิจและถนนสุขุมวิท และมีสภาพที่ทรุดโทรม ขาดการบำรุงรักษา จากเหตุดังกล่าว แสนสิริจึงได้นำข้อด้อยเหล่านี้มาปรับแก้ เพื่อสร้างมาตรฐานของอพาร์ตเมนต์ให้เช่าให้เพิ่มสูงขึ้น ภายใต้ชื่อ "สิริ อพาร์ตเมนต์" และจะคัดเลือกทำเลที่อยู่ในบริเวณใจกลางธุรกิจและถนนสุขุมวิทเป็นสำคัญ" นายเศรษฐากล่าวเสริม
นอกจากนี้ ตลาดคอนโดมิเนียมนับเป็นอีกตลาดหนึ่งที่แสนสิริให้ความสนใจและมีความเชี่ยวชาญเป็นอย่างมาก ในปัจจุบัน ปริมาณคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จในเขตใจกลางเมืองได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง และจะไม่มีการสร้างขึ้นใหม่ในระยะเวลาอันใกล้นี้
ส่วนบริษัทในเครือนั้น มีการวางแผนการดำเนินธุรกิจดังนี้ บริษัท แสนสิริ พร็อพเพอร์ตี้ พลัส จำกัด หรือ SPPL ภายหลังจากมีการปรับโครงสร้างองค์กรด้านฝ่ายขายและขยายธุรกิจสู่การเป็นตัวแทนซื้อขายสินทรัพย์ ส่งผลให้ในปีที่ผ่านมาบริษัทมีผลประกอบการ 60 ล้านบาท โดยปัจจุบันมีสินทรัพย์ประมาณ 30,000 ล้านบาท ซึ่งมีแหล่งที่มาจากเจ้าของโครงการ ธนาคาร สถาบันการเงินหลายแห่ง และเจ้าของรายย่อยทั่วไปที่มอบหมายให้บริษัทฯ เป็นตัวแทนการขาย พร้อมทั้งให้บริการรับบริหารงานขายและวางกลยุทธ์ด้านการตลาดในลักษณะ Investment Deal หรือรับบริหารงานขายทั้งโครงการ ล่าสุดได้ทำสัญญาบริหารงานขายกับโครงการหมู่บ้านคชธานี ในด้านธุรกิจรับบริหารโครงการ ซึ่งปัจจุบันบริหารอยู่ 35 โครงการ ล่าสุดได้ทำสัญญากับกระทรวงพาณิชย์เพื่อให้บริการด้านบริหารโครงการอย่างครบวงจร ส่งผลให้ในปัจจุบัน แสนสิริ พร็อพเพอร์ตี้ พลัส มีพื้นที่บริหารมากเป็นอันดับหนึ่งของไทย หรือมีพื้นที่บริหารกว่า 2 ล้านตารางเมตร และตั้งเป้าที่จะขยายธุรกิจให้ได้ 45 โครงการภายในสิ้นปีนี้ โดยจะเน้นที่ตลาดอาคารสำนักงานและอพาร์ตเมนต์เป็นหลัก
ส่วนบริษัท พ้อยท์ เอเชีย แอ็คเซ็ส จำกัด ซึ่งดำเนินธุรกิจทางด้านอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงในอาคารสูง ที่ได้ทำการเปิดตัวไปเมื่อประมาณกลางปีที่ผ่านมา พบว่าได้รับการตอบรับอย่างดีจากกลุ่มธุรกิจเซอร์วิส อพาร์ตเมนต์ คอนโดมิเนียม และโรงแรม ซึ่งส่วนใหญ่ผู้ใช้บริการจะเป็นชาวต่างชาติ โดยในปีนี้ตั้งเป้าที่จะขยายฐานสมาชิกให้ได้ 1,000 ราย และจะจับกลุ่มเซอร์วิส อพาร์ตเมนต์และโรงแรมให้มากขึ้น พร้อมเพิ่มบริการด้านเทคนิค (Technical Support) ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนกลยุทธ์ด้านการตลาดยังคงเน้นการนำเสนอบริการโดยตรงแก่กลุ่มเป้าหมาย
และในยุคที่ระบบออนไลน์เข้ามามีบทบาทสูงในชีวิตประจำวัน แสนสิริ จึงได้ขยายการดำเนินธุรกิจไปสู่ธุรกิจออนไลน์ที่สามารถให้ข้อมูล ตลอดจนเอื้ออำนวยประโยชน์แก่ผู้ที่สนใจหรือต้องการทราบข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ได้อย่างละเอียดที่สุดอย่างที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน ภายใต้การบริหารงานของบริษัท แสนสิริ โฮม เน็ทเวิร์ค จำกัด ซึ่งจะทำการเปิดตัวเวบไซต์ดังกล่าวประมาณกลางปีนี้
ในส่วนการลงทุนร่วมกับกลุ่มบริษัท สตาร์วูด แคปิตอลนั้นนายเศรษฐากล่าวว่า "ที่ผ่านมาเราได้รับความร่วมมืออย่างดีจากทางสตาร์วูดทั้งด้านข้อแนะนำในการดำเนินธุรกิจในระดับสากล และการพัฒนาด้านบุคลากรให้พร้อมต่อโลกธุรกิจในยุคปัจจุบัน ซึ่งเราคงจะหารือร่วมกันในการขยายตัวทางธุรกิจต่อไป" นายเศรษฐากล่าวสรุป
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
วิภาวริศ เกตุปมา
เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์อาวุโส
บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)
โทรศัพท์ 201-3328 โทรสาร 201-3904
E-mail address: wipavaris@sansiri.com-- จบ--
-อน-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ