กรุงเทพฯ--4 ส.ค.--นานมีบุ๊คส์
หากพูดถึงองค์ความรู้วิชาการในห้องเรียน วิชาที่เด็กๆ แทบทุกคนลงความเห็นตรงกันว่ายากที่สุด คงหนีไม่พ้นวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์อย่างแน่นอน ดังนั้นการหากิจกรรรมเสริมความรู้มาบูรณาการทำให้เรื่องวิชาการเหล่านี้ ไม่น่าเบื่ออีกต่อไป ย่อมจะช่วยให้เด็กๆ มีศักยภาพในการเรียนสูงขึ้น นานมีบุ๊คส์จึงได้จัดกิจกรรมพัฒนาทักษะกระบวนความคิด เนรมิตรวิชาความรู้วิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์อย่างแยบยลผ่านกิจกรรม Go Genius One Day Camp ค่ายวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ แฟนตาซี ตอนโลกแห่งมนตรา พาน้องๆ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ร.ร.มาแตร์เดอีวิทยาลัย กว่า 150 คน มาผจญภัยประลองความคิด ไขภารกิจเรื่องแสงและเสียง ณ ศูนย์การเรียนรู้นานมีบุ๊คส์เลิร์นนิงเซ็นเตอร์
ภายในค่ายน้องๆได้สนุกกับการทดลองสุดว้าว! เพื่อฝ่าด่านภารกิจสุดท้าทาย อาทิ ภารกิจวาดดาวด้วยแสง เป็นการทดลองการหักเหของแสง ด้วยวิธีการยิงเลเซอร์ผ่านแผ่นอะลูมิเนียม จะปรากฏรูปดาว 5 แฉกอย่างเหลือเชื่อ ภารกิจแก้วร่ายมนตร์ ใช้ปรากฏการณ์การสะท้อนกลับของแสง โดยนำแก้วพลาสติกมาวาดตา หู และปาก ตามจินตนาการ นำแก้วอีกใบมาคว่ำซ้อน จากนั้นวาดผมและเคร้าโครงหน้าที่แก้วใบนอก ใช้ไขควงเจาะรูที่ก้นแก้ว และใส่แก้วที่ซ้อนกันสองใบลงไปในน้ำ พอเอานิ้วออกก็จะมองเห็นภาพที่แตกต่างออกไป ทั้งสองภารกิจน้องๆ ได้เรียนรู้เรื่องการสะท้อนและการหักเหของแสงจากนั้นร่วมหาคำตอบเรื่องเซลล์ไฟฟ้าเคมี ไขปริศนาว่าแตงกวาจะให้พลังงานเหมือนแบตตารี่ได้อย่างไร? ใน ภารกิจเสียงดนตรีจากผักและผลไม้ ด้วยการทดลองวางแตงกวาหั่นบางๆ 1 ชิ้นบนแผ่นฟลอยด์ และวางเหรียญทับบนแตงกวา เมื่อนำหูฟังมาแตะกับแผ่นฟลอยด์ใกล้ๆ กับแตงกวา เด็กๆ จะได้ยินเสียงที่เกิดขึ้นโดยไม่ต้องใช้พลังงานแบตตารี่ไฟฟ้าแม้แต่นิดเดียว ภารกิจท่อปริศนา เรียนรู้เรื่องการสั่นพ้องของคลื่นเสียงในอากาศและการสร้างเสียงดนตรีจากความยาวของท่อที่แตกต่างกัน ภารกิจ ดอกไม้ไฟในหลอดทดลอง เรียนรู้การทดลองเปรียบเทียบปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระในผักและผลไม้ ปิดท้ายด้วยกิจกรรมเปิดโลกการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ด้วยสื่อการทดลองแบบ Hands-on ภายในศูนย์วิทยาศาสตร์ปฏิบัติการ PHANOMENTA
ด.ญ. สิทธินี งามโรจนวาณิช หรือน้องพลอย อายุ 9 ปี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 กล่าวว่า "กิจกรรมวันนี้หนูได้ลงมือทำการทดลองหลายอย่าง เช่น ภารกิจแก้วร่ายมนตร์ ที่เมื่อเรานำแก้วลงไปในน้ำภาพจะหายไป จากเทคนิคที่ผู้นำค่ายนี้ บอกคือเรื่องการสะท้อนกลับของแสง นอกจากนี้ยังได้รับความรู้เรื่องสารอีกมากมายด้วยค่ะ ที่สำคัญ ในช่วงท้ายกิจกรรมได้มีโอกาสเล่นอุปกรณ์สื่อการเรียนรู้มากมาย ที่ศูนย์การเรียนรู้นานมีบุ๊คส์เลิร์นนิงเซ็นเตอร์ หนูชอบสถานีจักรยานผลิตไฟฟ้า เพราะได้ปั่นจักรยานและผลิตกระแสไฟฟ้าจากแรงที่เราปั่น เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมากค่ะ ถ้ามีโอกาสก็อยากให้คุณพ่อและคุณแม่พามาเล่นที่นี่อีกค่ะ เพราะนอกจากจะสนุกสนานแล้ว ยังได้รับความรู้กลับไปด้วยค่ะ"
การปลุกศักยภาพของเด็กนักเรียนในช่วงชั้นประถมศึกษา ต้องอาศัยแรงจูงใจอย่างมากในการจุดประกายความสนใจของเขา เพื่อต่อยอดไปสู่การเปิดรับการเรียนรู้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด ฉะนั้นกิจกรรมเสริมความรู้นอกห้องเรียน จึงต้องอาศัยวิทยากรและทีมงานผู้ชำนาญการถ่ายทอดความรู้ รวมถึงสื่อการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับช่วงวัย จะช่วยให้เด็กๆ ได้รับประโยชน์เพื่อเชื่อมโยงต่อยอดการเรียนในห้องเรียนและนอกห้องเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพได้
ด้าน ด.ญ. อังสุภา พานิชประไพ หรือน้องเมญ่า อายุ 8 ปี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 กล่าวว่า "หนูได้รับประโยชน์จากการเข้าค่ายในครั้งนี้อย่างมาก เพราะได้รับความรู้ที่น่าสนใจจากกิจกรรมทุกภารกิจที่ครูนัทและพี่ๆทีมงาน ให้พวกเราได้ลงมือทำ ทั้งยังได้รับความรู้เรื่องแรงดึงดูดของโลกวาแท้จริงแล้วโลกมันดึงดูดตัวเราเอาไว้ตรงนี้ เพราะถ้าโลกไม่ดึงดูดตัวเราเราก็จะลอยขึ้นไปในอากาศ ซึ่งเรียกว่าแรงโน้มถ่วง การเข้าร่วมค่ายในวันนี้ทำให้หนูมีความสนใจในเรื่องของวิชาวิทยาศาสตร์มากขึ้นค่ะ"
นอกจากความรู้ที่น้องๆ ได้รับจากการลงมือทำภายในค่ายแล้ว ยังได้รับหนังสือ "Why? : แสงและเสียง" กลับไปอ่านต่ออีกด้วย ซึ่งถือเป็นการสร้างกระบวนการเรียนรู้ทั้งจากการอ่านและการลงมือ ทำให้จดจำความรู้ได้อย่างยั่งยืนมีประสิทธิภาพอีกด้วย
กิจกรรมและค่ายส่งเสริมการเรียนรู้ดีๆ ยังมีจัดต่อเนื่องตลอดปี และสำหรับหน่วยงานหรือโรงเรียนที่ต้องการจัดค่ายและกิจกรรมเพื่อเสริมสร้างการเรียนรู้ให้เด็กๆ นอกห้องเรียน นานมีบุ๊คส์สามารถออกแบบค่ายและกิจกรรมในหลักสูตรที่เหมาะสมสำหรับเด็กทุกช่วงวัย สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 0-2662-3000 ต่อ 5226, 4425, 4323 หรือ Call Center 02-662-3000 กด 1 และ www.nanmeebooks.com หรือ www.facebook.com/nanmeebooksfan