กรุงเทพฯ--14 ธ.ค.--สำนักงานเลขานุการกองทัพเรือ
รัฐบาลกำหนดให้วันที่ ๑๖ ธันวาคม ของทุกปีเป็นวันกีฬาแห่งชาติ ทั้งนี้เพราะรัฐบาลได้ทำการ ส่งเสริมทางด้านการกีฬาของไทยด้วยดีเสมอมา เพราะตระหนักถึงคุณค่า และความสำคัญของการเล่นกีฬาว่า นอกจากจะเป็นการออกกำลังกาย ทำให้ร่างกายแข็งแรงสดชื่นมีพลานามัยที่ดีแล้ว การกีฬายังเป็นเครื่องช่วยผ่อนคลายความเครียด ช่วยปรับปรุงในด้านความคิดและอุปนิสัยให้ประชาชนในชาติ เป็นผู้มีความเสียสละ รู้แพ้รู้ชนะรู้อภัย และมีความสามัคคีต่อกัน
เมื่อวันที่ ๑๖ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๑๙ เป็นวันที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นนักกีฬา ทีมชาติไทยเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาแหลมทองครั้งที่ ๔ ณ กรุงเทพมหานคร และทรงได้รับเหรียญทองจากการแข่งขันกีฬาเรือใบประเภท โอ.เค. และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถได้เป็นผู้ทูลเกล้าฯ ถวายเหรียญรางวัลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งประทับยืนบนแท่นรางวัลร่วมกับนักกีฬาที่ชนะที่ ๒ และที่ ๓ ในพิธีปิดการแข่งขัน ณ สนามศุภชลาศัย ซึ่งประเทศไทยได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาแหลมทอง ครั้งที่ ๔ ในระหว่างวันที่ ๖ วันที่ ๑๙ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๑๐ จึงถือได้ว่าในวันที่ ๑๖ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๑๙ เป็นวันประวัติศาสตร์ทางการกีฬาที่จะได้เทิดพระเกียรติและรำลึกถึงพระปรีชาสามารถของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงเป็นนักกีฬาตัวแทนของชาติไทย ในการแข่งขันกีฬาแหลมทอง และ เป็นวันสิริมงคลแก่บุคคลในวงการกีฬาทั้งมวลที่จะได้ถือเป็นนิมิตหมายอันดีของการกีฬาของชาติ คณะกรรมการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ได้ประชุมครั้งที่ ๑/๒๕๒๙ เมื่อวันที่ ๘ มกราคม พ.ศ. ๒๕๒๙ พิจารณาเห็นว่า เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในฐานะที่เคยเป็นนักกีฬาทีมชาติไทย และเพื่อเป็นการกระตุ้นเร่งเร้าและเผยแพร่ให้ประชาชนได้เห็นความสำคัญและคุณค่าของการกีฬา จึงมีมติเห็นควรนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาเห็นชอบให้กำหนด วันที่ ๑๖ ธันวาคม เป็นวันกีฬาแห่งชาติ และ ในการประชุมใหญ่คณะกรรมการโอลิมปิกสากล ครั้งที่ ๒๙ ที่เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี โดยมีนายฮวน อันโตนีโอ ซามาร้านซ์ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกสากลเป็นประธานการประชุมพร้อมทั้งสมาชิก เข้าร่วมการประชุมอีก ๘๗ ประเทศ ได้มีมติเอกฉันท์ให้ทูลเกล้าฯ ถวายเหรียญดุษฎีกิตติมศักดิ์ ของโอลิมปิกสากล คือ "อิสริยาภรณ์โอลิมปิกชั้นสูงสุด" (ทอง) แด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ ๑๔ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๓๐ ณ ศาลาดุสิดาลัย พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน นับเป็นกษัตริย์พระองค์แรกของโลก ที่ทรงได้รับการทูลเกล้าฯ ถวายเหรียญโอลิมปิกชั้นสูง
(ที่มา : http://www.lib.ru.ac.th/journal/dec/dec16-DayForThaiSport.html )--จบ--