กรุงเทพฯ--7 ส.ค.--กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน จับมือ กรมส่งเสริมสหกรณ์ กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ร่วม MOU ส่งเสริมจัดตั้งสหกรณ์ออมทรัพย์หรือสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนในสถานประกอบกิจการ มุ่งสร้างโอกาสการเข้าถึง บรรเทาความเดือดร้อนด้านการเงินของลูกจ้าง
นายสุเมธ มโหสถ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) กล่าวภายหลังลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการส่งเสริม สนับสนุน และดำเนินการให้สถานประกอบกิจการและรัฐวิสาหกิจจัดสวัสดิการแรงงานด้วยวิธีการสหกรณ์กับกรมส่งเสริมสหกรณ์และกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ว่า กสร. มีภารกิจหลักในการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้ใช้แรงงาน โดยกำกับดูแลให้สถานประกอบกิจการมีการจัดสวัสดิการต่าง ๆ ทั้งตามที่กฎหมายกำหนดและสวัสดิการอื่น ๆ นอกเหนือกฎหมาย การจัดตั้งสหกรณ์ออมทรัพย์ในสถานประกอบกิจการ เป็นสวัสดิการแรงงานด้านหนึ่งที่นายจ้าง ลูกจ้างร่วมมือกันจัดให้มีขึ้นเพื่อเป็นการส่งเสริมการออมและบรรเทาความเดือดร้อนด้านการเงิน แก้ปัญหาหนี้นอกระบบของลูกจ้าง ทั้งนี้ เพื่อเป็นการสร้างโอกาสการเข้าถึงแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำและได้มีระบบสะสมเก็บออมที่ดีของผู้ใช้แรงงาน กสร. จึงร่วมมือกับกรมส่งเสริมสหกรณ์ กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ โดยการลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกันในวันนี้ (3 ส.ค. 60) เพื่อร่วมกันขับเคลื่อน ผลักดันให้มีการจัดตั้งสหกรณ์ออมทรัพย์หรือสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนในสถานประกอบกิจการเพิ่มมากขึ้น และกำกับดูแลให้สหกรณ์ออมทรัพย์ที่จัดตั้งแล้วมีความโปร่งใส มั่นคง ตลอดจนส่งเสริมให้มีความเข้มแข็ง โปร่งใสและยั่งยืน ซึ่งการร่วมมือกันในครั้งนี้ กสร.รับหน้าที่ประสานความร่วมมือกับสถานประกอบกิจการในพื้นที่เป้าหมายเพื่อให้มีการจัดตั้งสหกรณ์ออมทรัพย์และสนับสนุนเงินกู้จากกองทุนเพื่อผู้ใช้แรงงาน กรมส่งเสริมสหกรณ์จะให้ความรู้เรื่องสหกรณ์ อุดมการณ์ หลักการและวิธีการสหกรณ์แก่บุคลากรในสถานประกอบกิจการ และกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ จะดำเนินการตรวจสอบบัญชีสหกรณ์ออมทรัพย์หรือสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนที่จัดตั้งขึ้นในสถานประกอบกิจการ
อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กล่าวต่อไปว่า ปัจจุบันมีสหกรณ์ออมทรัพย์ในสถานประกอบกิจการและรัฐวิสาหกิจ จำนวน 540 แห่ง มีลูกจ้างเป็นสมาชิก 649,958 คน นอกจากนี้ยังมีกองทุนเพื่อผู้ใช้แรงงานเป็นแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำช่วยเหลือลูกจ้างโดยกู้ผ่านสหกรณ์ออมทรัพย์ในสถานประกอบกิจการ ซึ่งมีสหกรณ์ใช้บริการเงินกู้กองทุน 251 สัญญา เป็นเงิน 1,918,370,000 บาท สามารถบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ลูกจ้างที่เป็นสมาชิกสหกรณ์ฯ แล้ว 217,041 คน สถานประกอบกิจการใดสนใจจัดตั้งสหกรณ์ออมทรัพย์ฯ สามารถติดต่อได้ที่กองสวัสดิการแรงงาน กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน หรือที่สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานกรุงเทพมหานครทุกพื้นที่และสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดทั่วประเทศ