กรุงเทพฯ--7 ส.ค.--สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 10 จ.อุบลราชธานี
สคร.10 อุบลฯ เผยหน้าฝนเป็นช่วงระบาดของไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล พร้อมขอให้ประชาชนดูแลสุขภาพของตนเอง โดยใช้มาตรการ "ปิด ล้าง เลี่ยง หยุด" เพื่อป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ทุกสายพันธุ์
นางศุภศรัย สง่าวงศ์ นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการพิเศษ รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 10 จังหวัดอุบลราชธานี (สคร.10) กล่าวว่า ในช่วงนี้ประเทศไทยรวมทั้งประเทศเพื่อนบ้านมีการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่เป็นจำนวนมาก เนื่องจากเป็นช่วงระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล และไม่ใช่สายพันธ์ใหม่แต่อย่างใด ซึ่งเป็นสายพันธุ์เดียวกันกับในวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ที่ทางกระทรวงสาธารณสุขจัดให้กับประชาชนกลุ่มเสี่ยง
นางศุภศรัย กล่าวอีกว่า เชื้อไข้หวัดใหญ่จะอยู่ในน้ำมูก น้ำลาย หรือเสมหะของผู้ป่วย การติดต่อส่วนใหญ่เกิดจากการสัมผัสละอองฝอยจากการไอ จามของผู้ป่วย โดยละอองฝอยที่มีเชื้อเหล่านี้เมื่อสัมผัสกับทางเดินหายใจหรือตามเยื่อบุต่างๆ เช่น เยื่อบุตา จะทำให้เชื้อเข้าสู่ร่างกายและเป็นโรคได้ อาการโดยทั่วไป คือ มีไข้ ไอ มีน้ำมูก บางคนมีอาการเจ็บคอ ปวดเมื่อยตามตัว คลื่นไส้อาเจียน ท้องเสีย อาการส่วนใหญ่จะไม่รุนแรงเป็นอยู่ประมาณ 3-5 วัน ซึ่งบางครั้งจะคล้ายโรคไข้หวัดธรรมดา แต่ท้ายที่สุดอาการก็จะหายไปเองได้ มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่จะมีอาการรุนแรง เช่น ไอมาก หอบเหนื่อย หายใจลำบาก มีการอักเสบของปอดทำให้ปอดบวม การหายใจล้มเหลว ซึ่งอาการอาจจะ รุนแรงจนถึงเสียชีวิตได้ กลุ่มที่มีความเสี่ยงต่อโรคไข้หวัดใหญ่รุนแรง คือ กลุ่มเด็กเล็ก กลุ่มผู้สูงอายุ สตรีมีครรภ์ และผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคปอด โรคอ้วน และผู้ที่มีภูมิคุ้มกันในร่างกายต่ำ
ขอแนะนำประชาชนใช้มาตรการ "ปิด ล้าง เลี่ยง หยุด" เพื่อป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ทุกสายพันธุ์ ได้แก่ 1.ปิด คือปิดปาก ปิดจมูก เมื่อไอ จาม ต้องใช้ผ้าหรือกระดาษทิชชูปิดปากและจมูกทุกครั้ง หากเจ็บป่วยด้วยไข้หวัดใหญ่ ควรใส่หน้ากากอนามัย 2.ล้าง คือล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่เมื่อสัมผัสสิ่งของ เช่น กลอนประตู ลูกบิด ราวบันใด ราวบนรถโดยสาร 3.เลี่ยง คือหลีกเลี่ยงการคลุกคลีใกล้ชิดกับผู้ป่วย และ 4.หยุด คือเมื่อป่วยควรหยุดเรียน หยุดงาน หยุดกิจกรรมในสถานที่แออัด แม้ผู้ป่วยจะมีอาการไม่มากก็ควรหยุดพักรักษาตัวอยู่ที่บ้านจนกว่าจะหายเป็นปกติ หากมีอาการไอ เจ็บคอ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ และมีไข้สูง ต้องรีบพบแพทย์โดยเร็ว ประชาชนสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร 1422 / นางศุภศรัย กล่าวปิดท้าย