กรุงเทพฯ--7 ส.ค.--กลุ่มสารนิเทศการคลัง กระทรวงการคลัง
นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2560 คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้กระทรวงการคลังโดยบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ปรับปรุงหลักเกณฑ์โครงการค้ำประกันสินเชื่อ SMEs ทวีทุน (Portfolio Guarantee Scheme ระยะที่ 6) ตามที่คณะรัฐมนตรีได้เคยให้ความเห็นชอบไว้เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา เพื่อเป็นการลดต้นทุนทางการเงินของผู้ประกอบการ SMEs และเพิ่มโอกาสให้ผู้ประกอบการ SMEs ที่มีศักยภาพเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้มากขึ้น
โครงการค้ำประกันสินเชื่อ SMEs ทวีทุน (Portfolio Guarantee Scheme ระยะที่ 6) ปรับปรุงใหม่ มีวงเงินค้ำประกันรวม 81,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินค้ำประกันคงเหลือจากการดำเนินโครงการค้ำประกันสินเชื่อ SMEs ทวีทุน(Portfolio Guarantee Scheme ระยะที่ 6) เดิม โดยกำหนดวงเงินค้ำประกันต่อรายไว้ที่ไม่เกิน40 ล้านบาท รวมทุกสถาบันการเงิน ระยะเวลาค้ำประกันสินเชื่อสูงสุดไม่เกิน 10 ปี และค่าธรรมเนียมค้ำประกันร้อยละ 1.75 ต่อปี โดยรัฐบาลและสถาบันการเงินร่วมรับภาระค่าธรรมเนียมค้ำประกันแทนผู้ประกอบการ SMEs ในช่วง 4ปีแรก นอกจากนี้ รัฐบาลโดย บสย. ยังได้เพิ่มระดับการจ่ายค่าประกันชดเชยความเสียหาย เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้แก่สถาบันการเงินในการปล่อยสินเชื่อให้แก่กลุ่มลูกค้า SMEs มากขึ้น โดยสถาบันการเงินจะพิจารณาให้ความช่วยเหลือด้านอื่น ๆ เพิ่มเติมแก่ผู้ประกอบการ SMEs ควบคู่ไปด้วย ทั้งนี้ ผู้ประกอบการ SMEs ที่สนใจเข้าร่วมโครงการสามารถยื่นขอค้ำประกันสินเชื่อได้จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2561 หรือจนกว่าจะเต็มวงเงิน แล้วแต่อย่างหนึ่งอย่างใดจะถึงก่อน
นายกฤษฎาฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า การปรับปรุงโครงการดังกล่าวจะช่วยให้ SMEs ได้รับสินเชื่อเพิ่มขึ้นประมาณ 27,000 ราย ก่อให้เกิดสินเชื่อในระบบสถาบันการเงินประมาณ 136,000 ล้านบาท และมีส่วนช่วยในการเพิ่มระดับการจ้างงานและก่อให้เกิดเงินทุนหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ ซึ่งนอกจากโครงการค้ำประกันสินเชื่อ SMEs ทวีทุน(Portfolio Guarantee Scheme ระยะที่ 6) ปรับปรุงใหม่ จะช่วยผลักดันให้เศรษฐกิจไทยเติบโตอย่างยั่งยืนผ่านการลงทุนและการบริโภคแล้ว ยังจะช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่ SMEs ไทย เพื่อให้เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยต่อไป
สำนักนโยบายระบบการเงินและสถาบันการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง
โทร. 02 273 9020 ต่อ 3233
โทรสาร 02 618 3374