กรุงเทพฯ--8 ส.ค.--Infinity Communications & Consultant
อานิสงค์จากทางภาครัฐที่ได้ขับเคลื่อน "แผนงานพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี" เตรียมปั้นภาคตะวันออกไทยให้กลายเป็นฮับของธุรกิจและการท่องเที่ยว ด้วยการอนุมัติงบประมาณกว่า 700,000 ล้านบาท เพื่อการขยายสนามบินนานาชาติอู่ตะเภา พร้อมทั้งแผนพัฒนารถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินทั้ง สนามบินดอนเมือง สนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินอู่ตะเภา นอกจากนั้นจะมีการพัฒนาระยะที่สามของท่าเรือแหลมฉบังและท่าเรือมาบตาพุด ตลอดจนรถไฟทางคู่เชื่อมโยงสามท่าเรือคือ ท่าเรือแหลมฉบัง ท่าเรือมาบตาพุด และท่าเรือน้ำลึกสัตหีบ ซึ่งการพัฒนาดังกล่าวจะเป็นปัจจัยหลักในการขับเคลื่อนธุรกิจและการท่องเที่ยวทางทะเลฝั่งตะวันออกของไทยครั้งสำคัญ
มิสเตอร์สก็อต ฟินสเตน, ฮาร์เบอร์ มาสเตอร์, โอเชี่ยน มารีน่า ยอช์ท คลับ ได้กล่าวถึงความสำคัญของการพัฒนาของภาคตะวันออกไทยในครั้งนี้ว่า "อ่าวไทยมีทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญมากมายไม่ว่าจะเป็นท้องทะเลและชายฝั่งที่สวยงาม จึงเป็นเรื่องน่ายินดีที่ได้รับการลงทุนพัฒนาครั้งใหญ่จากทางภาครัฐบาลให้กลายเป็นฮับของธุรกิจและการท่องเที่ยว ซึ่งไม่เฉพาะเพียงฝั่งจากภาครัฐเท่านั้น แต่เราก็จะได้เห็นการลงทุนจากภาคเอกชนเพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับการนำไปสู่การพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกของโอเชี่ยน มารีน่า ยอช์ท คลับ ในฐานะท่าจอดเรือที่ใหญ่ที่สุดของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมไปถึงการพัฒนาการจัดงานโอเชี่ยน มารีน่า พัทยา โบ๊ท โชว์ ซึ่งจะรองรับการเติบโตที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้"
โอเชี่ยน มารีน่า พัทยา โบ๊ท โชว์ นับเป็นงานแสดงเรือและสินค้าไลฟ์สไตล์กลางแจ้งขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และนับว่าเป็นอีกหนึ่งในงานแสดงเรือของเอเชียที่น่าจับตามองในบรรดางานแสดงเรือต่างๆ ทั่วโลก งานดังกล่าวเป็นศูนย์รวมของภาคธุรกิจการท่องเที่ยวทางทะเล คาดว่าจะมีบริษัทกว่า 150 แห่งมาร่วมจัดแสดงเรือ สินค้าและการบริการที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะได้รับความสนใจจากภาคธุรกิจและจำนวนผู้เข้าชมมากกว่าทุกปี
"โอเชี่ยน มารีน่า พัทยา โบ๊ท โชว์ จะจัดขึ้นเป็นปีที่ 6 ระหว่าง 23-26 พฤศจิกายน 2560 นี้ ณ โอเชี่ยน มารีน่า ยอช์ท คลับ โดยจุดประประสงค์หลักของการจัดงานนี้ขึ้นมาตั้งแต่ปีแรกคือ การเป็นงานจัดแสดงสินค้าเพื่อขับเคลื่อนการเติบโตภาคธุรกิจการท่องเที่ยวทางทะเลของภาคตะวันออก การจัดงานได้มีการดึงดูดผู้เข้าชมงานทั้งคนไทยและจากต่างประเทศมากขึ้นทุกปี โดยปีนี้จะต่อยอดความสำเร็จของห้าปีที่ผ่านมา ด้วยการเพิ่มพื้นที่จัดแสดงทั้งบนชายฝั่งและบนผืนน้ำที่ยิ่งใหญ่กว่าทุกปี ให้เต็มไปด้วยกิจกรรมมากมายครอบคลุมผู้เข้าชมงานทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มที่ต้องการซื้อเรือ หรือกลุ่มครอบครัวที่ต้องการร่วมสัมผัสไลฟ์สไตล์ทางทะเลเป็นต้น"
งานโอเชี่ยน มารีน่า พัทยา โบ๊ท โชว์ กระตุ้นธุรกิจและสร้างรายได้สู่ภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทางทะเลของภูมิภาคตะวันออกไม่ต่ำกว่า 2 พันล้านบาทในแต่ละปี
"การจัดงานแสดงสินค้าในแต่ละครั้งมีการตอบรับที่ดี เกิดการซื้อขายเรือหรือสินค้าภายในงาน แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้น คือเป็นการพบปะและการต่อยอดทางธุรกิจ และเปิดทางที่นำไปสู่การทำธุรกิจร่วมกันหลังงานเสร็จสิ้นแล้ว โอเชี่ยน มารีน่า พัทยา โบ๊ท โชว์ ได้วางรูปแบบทางการตลาดและดึงกลุ่มเป้าหมายได้เข้าชมงานเพื่อได้รับประสบการณ์สินค้าและบริการใหม่ๆ กลุ่มเป้าหมายที่โดดเด่นของงานคือ คนกรุงเทพฯ ซึ่งหลังจากได้มาดูสินค้าและบริการแล้ว จะมีการนัดหมายเดินทางกลับมาเพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติมหลังงาน ทำให้เกิดการปิดการขายได้มากขึ้น ผนวกกับโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) ครั้งนี้จะทำให้มีการลงทุนเพิ่มมากขึ้นในภาคธุรกิจและจะช่วยผลักดันการเติบโตการท่องเที่ยวทางทะเลของภูมิภาคนี้ให้สูงขึ้นในอนาคตอันใกล้" มิสเตอร์ฟิสนเตน กล่าวสรุป
โอเชี่ยน มารีน่า พัทยา โบ๊ท โชว์ จะจัดระหว่าง 23-26 พฤศจิกายนนี้ เป็นการแสดงสินค้าและบริการทั้งหมด 4 วัน โดยจะมีการแสดงเรือยอช์ทรูปแบบต่างๆ รวมถึงการแสดงสินค้าและบริการบนฝั่งด้านหน้าของมารีน่าพร้อมโชว์ศักยภาพท่าจอดเรือที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และทิวทัศน์ที่สวยงามโดยรอบ
ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชม เว็บไซต์ www.oceanmarinapattayaboatshow.com
เฟสบุ๊ค www.facebook.com/oceanmarinapattayaboatshow