กรุงเทพฯ--8 ส.ค.--นานมีบุ๊คส์
การศึกษาในเยอรมนีเป็นอีกหนึ่งประเทศที่ติดอันดับประเทศที่มีระบบการศึกษาดีที่สุดในโลก มีความโดดเด่นด้าน การจัดการเรียนรู้ มีวิธีและแนวทางในการจัดการสอนที่โดดเด่น ทั้งด้านส่งเสริมให้จัดการตัวเอง เรียนรู้อย่างเข้าใจและมีความหมาย มีความรับผิดชอบ และใฝ่ความสำเร็จ ทำให้มีการมอบรางวัล German School Prize ให้กับโรงเรียนที่สร้างแรงบันดาลใจในการเรียนรู้ ปลดปล่อยพลังความคิดสร้างสรรค์ และสอนให้นักเรียนมีความรับผิดชอบและความยุติธรรม ภายใต้สโลแกนว่า "Give wings to learning!"
ด้วยความโดดเด่นดังกล่าวจึงทำให้นานมีบุ๊คส์ ที่ในปีนี้ครบรอบ 25 ปี ตั้งเป้าหมายเผยแพร่แนวคิด "Active Citizen คนเก่ง คนดี รับผิดชอบต่อตนเอง ต่อสังคม" โดยทำงานร่วมกับเครือข่ายโรงเรียน จึงได้จัดทริปพิเศษ "โรงเรียนที่ดีในการสร้าง Active Citizen ควรเป็นอย่างไร" พาผู้บริหารโรงเรียนไทยบินลัดฟ้าสู่ประเทศเยอรมนี เพื่อเยี่ยมชมโรงเรียนที่ได้รับรางวัล German School Prize และแหล่งเรียนรู้ที่โดดเด่น โดยมี คิม จงสถิตย์วัฒนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท นานมีบุ๊คส์ จำกัด นำทีมด้วยตัวเอง พร้อมด้วยแขกรับเชิญพิเศษ Dr. David Klett ผู้บริหารของ Klett Group องค์กรที่ทำงานด้านการศึกษาที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป และ Mr. Joachim Hecker อดีตวิศวกร ผู้ผันตัวมาทำงานสื่อมวลชนด้านวิทยาศาสตร์ เจ้าของผลงานเขียน"บ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย" ร่วมแนะนำและให้ความรู้ตลอด 8 วัน 5 คืน
ด้าน คิม จงสถิตย์วัฒนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท นานมีบุ๊คส์ จำกัด กล่าวว่า "หลังจากที่ได้พาคณะผู้บริหารโรงเรียนเอกชนไทยไปเยี่ยมชมโรงเรียนและแหล่งเรียนรู้ที่ได้รับรางวัลหลายแห่ง ของประเทศเยอรมัน ถือว่ากลับมาด้วยไฟอันลุกโชน เป้าหมายของการเดินทางครั้งนี้คือจะบริหารจัดการการเรียนรู้อย่างไรให้มีความหมาย สร้างเด็กและเยาวชนให้มีความรับผิดชอบต่อตัวเอง ต่อสังคม เป็น Active Citizen พลังที่จับต้องได้ คือ ผู้ร่วมเดินทางทุกคนถวิลหาสิ่งเดียวกัน ถือว่าเป็นการเดินทางที่สร้างแรงบันดาลใจอย่างมาก และหวังว่าโรงเรียนที่ไปด้วยกันจะนำไอเดียดี ๆ มาต่อยอดในประเทศของเรานะคะ ขอขอบคุณผู้ร่วมเดินทางจากโรงเรียนอำนวยศิลป์ โรงเรียนกสินธร อาคาเดมี่ โรงเรียนอนุบาลเจริญพงศ์ โรงเรียนเซนต์โยเซฟทิพวัล โรงเรียนราชินี โรงเรียนยอแซฟอุปถัมภ์ สามพราน คุณ David Klett จาก Klett Group และคุณ Joachim Hecker ที่ช่วยจัดทริปครั้งนี้ และในปีหน้าจะจัดทริปไปประเทศอิสราเอล ประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องโรงเรียนประชาธิปไตยของโลกอีกด้วย"
สำหรับกิจกรรมในการศึกษาดูงานครั้งนี้ไฮไลท์อยู่ที่การเยี่ยมชมโรงเรียนที่ได้รับรางวัล German School Prize จำนวน 3 โรงเรียน เริ่มที่โรงเรียน Wöhlerschule โรงเรียนแห่งเดียวในรัฐ Hessen ที่ได้รับการแต่งตั้งจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมเป็นโรงเรียนเชิงนิเวศวิทยา และเรียนรู้แบบ Project based ด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน เปิดสอนชั้น ป.5-ม.6 ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น MINT School (Maths / Infomatics / Natural science / Technology) หรือที่คนไทยเรียกว่า STEM บูรณาการการเรียน STEM ด้วยวิชาชมรม เปิดโอกาสให้เด็ก ๆ ได้ลงมือทำอย่างจริงจัง ภายในเวลาสองปี เรียนรู้อย่างถ่องแท้ ต่อเนื่อง ได้ฝึกปรือภาวะผู้นำและการอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างดี อาทิ ชมรมอู่ซ่อมจักรยาน ชมรมคนเลี้ยงผึ้ง ชมรมวิศวกรรม เป็นต้น
โรงเรียน Grundschule Kleine Kielstraße เมือง Dortmund มีการจัดการเรียนรู้โดยยึดเป้าหมายในอนาคตเป็นหลัก ท่ามกลางทรัพยากรที่จำกัดมาก ทำงานร่วมกับวิทยาลัยชุมชน ผู้ปกครอง และภาครัฐ จนทำให้โรงเรียนโดดเด่นมาก ถึงแม้ว่านักเรียนจะมีต้นทุนต่ำ โดย 89% ของนักเรียนเป็นผู้ลี้ภัย และ 86% ไม่ได้พูดภาษาเยอรมันเป็นภาษาแม่ แต่สามารถจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาศักยภาพการเรียนคณิตศาสตร์และภาษาเยอรมันตามศักยภาพเป็นรายบุคคลได้อย่างแท้จริง มีสื่อคณิตเป็นวงล้อ Matherad ที่น่าสนใจ อีกทั้งยังเปิดห้องอนุบาลให้น้อง ๆ ของนักเรียนมาเรียนด้วย และเปิดสอนภาษาเยอรมันให้กับพ่อแม่ผู้ลี้ภัย เพื่อจะได้คุยกับลูกได้รู้เรื่องอีกด้วย
โรงเรียน Wartburg-Grundschule เมือง Münster โดดเด่นเรื่องโมเดลการบริหารแบบประชาธิปไตย ปลูกฝังความรับผิดชอบและแนวคิดเรื่องพลเมืองตั้งแต่เด็ก โดยให้นักเรียนมีส่วนร่วม ด้วยระบบ 4 บ้านและสภาโรงเรียน การจัดการเรียนการสอนของที่นี่แสดงถึงความเป็น personalized learning เด็กทุกคนมีแผนการเรียนรู้ส่วนตัวเป็นราย 2 สัปดาห์ ครูจะแนะแนวทางให้ก่อน และเปิดช่องว่างให้เด็ก ๆ ตัดสินใจถึงก้าวต่อไปของตัวเอง มีการทำเป้าหมาย เด็ก ๆ จะได้รู้คิดเสมอว่าได้เรียนอะไรไป ผลเป็นอย่างไร ตอบโจทย์เป้าหมายหรือไม่ เพราะมีการบันทึกอยู่ในแฟ้มผลงานของตนเอง ด้วยวิธีการที่ชัดเจน
จากนั้นไปยังแหล่งเรียนรู้ที่โดดเด่นด้านวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ ได้แก่ Phänomenta ในเมือง Lüdenscheid ศูนย์วิทยาศาสตร์ hands-on ที่ปฏิรูปวิธีการเรียนรู้ด้วยแนวคิดว่าไม่ต้องมีวิธีเล่นและไม่มีคำอธิบาย (Open Process) แต่สร้างปรากฏการณ์ที่ขัดแย้งกับสิ่งที่เคยรู้มา จนต้องลงมือทำและพูดคุยหารือ แบ่งปันกับเพื่อนจนรู้เรื่อง ซึ่งนานมีบุ๊คส์ ได้ทำสาขาที่ประเทศไทยไว้อีกด้วย ศูนย์คณิตศาสตร์ hands-on Mathematikum เมืองGießen แหล่งเรียนรู้ที่ทำให้คณิตศาสตร์เป็นเรื่องสนุก จับต้องได้ และปิดท้ายด้วยการล่องเรือเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของเมือง Frankfurt บนสายน้ำของแม่น้ำไรน์
จากจำนวนผู้ร่วมทริปทั้ง 11 ท่าน ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า "เป็นทริปที่ช่วยเปิดประสบการณ์แปลกใหม่ เป็นโอกาสที่หาไม่ได้ง่ายๆ ไม่ใช่ทุกคนจะสามารถไปเยี่ยมชมโรงเรียนในต่างแดนแบบเจาะลึกได้ขนาดนี้ อีกทั้งได้รับแนวคิดมากมายที่ช่วยจุดประกายให้นำไปต่อยอดการบริหารการเรียนการสอนภายในโรงเรียน"
การได้ออกไปยังต่างแดน ถือเป็นการได้เปิดหูเปิดตารับรู้สิ่งใหม่ๆ การได้เรียนรู้จากการได้ลงมือทำและพบเจอด้วยตัวเองย่อมส่งผลดีกว่าแค่การเปิดตำรา สิ่งเหล่านี้จะกลายเป็นประสบการณ์ชีวิตที่จะติดตัวไปตลอดชีวิตอีกด้วย
ถือเป็นอีกกิจกรรมที่นานมีบุ๊คส์ตั้งใจสร้างสรรค์ขึ้นมาเพื่อเฉลิมฉลองโอกาสครอบรอบ 25 ปี จากความสำเร็จดังกล่าว จึงทำให้เกิดเป็นทริปสำหรับปีหน้า โดยพาไปยังประเทศอิสราเอล อีกหนึ่งประเทศที่โดดเด่นด้านโรงเรียนประชาธิปไตย ผู้ที่สนใจรอติดตามได้ทาง www.nanmeebooks.com,www.facebook.com/nanmeebooksfan LINE: @nmbteacher หรือโทร. 0-2662-3000 กด 1