กรุงเทพฯ--8 ส.ค.--EXIM BANK
นายพิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) แถลงผลการดำเนินงานของ EXIM BANK ครึ่งปีแรกของปี 2560 ภายใต้บทบาทใหม่ของ EXIM BANK ว่า ตั้งแต่ต้นปี 2560 EXIM BANK มุ่งดำเนินการตามแผนแม่บท EXIM BANK ปี 2570 และกระบวนการปรับเปลี่ยนองค์กร (EXIM Transformation Journey) โดยผลงานสำคัญที่ได้ดำเนินการไปแล้ว เช่น การกำหนดยุทธศาสตร์การค้าการลงทุนและการเปิดสำนักงานผู้แทนในประเทศเมียนมา การประสานและสร้างความสัมพันธ์เพื่อทำงานร่วมกันกับทีมไทยแลนด์ การจัดทำ MOU กับองค์กรระหว่างประเทศ เช่น ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (China EXIM) และธนาคารการค้าต่างประเทศของเมียนมา (Myanma Foreign Trade Bank : MFTB) เป็นต้น รวมถึงการขยายการให้บริการรับประกันเพื่อช่วยประกันความเสี่ยงและสร้างเสถียรภาพให้ผู้ประกอบการไทย โดยขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการส่งเสริมการตลาดการรับประกันร่วมกับพันธมิตรและการพัฒนาระบบประกันการส่งออกออนไลน์ระยะที่ 1 รวมถึงดำเนินการสนับสนุนและส่งเสริมผู้ประกอบการ SMEs ที่มีศักยภาพสูง (Hi-Potential SMEs) ให้เป็นผู้ส่งออกผ่านโครงการ Genius Academy ร่วมกับกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นต้น ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวเป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นของ EXIM BANK ที่จะบรรลุวิสัยทัศน์ในการ "เป็นสถาบันการเงินเฉพาะกิจชั้นนำระดับโลกที่เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การค้าและการลงทุนระหว่างประเทศของไทย" อีกทั้งเพื่อตอบสนองยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 และ Thailand 4.0 และแผนยุทธศาสตร์รัฐวิสาหกิจสาขาสถาบันการเงินที่กำหนดให้ธนาคารเฉพาะกิจของรัฐเป็นสถาบันการเงินเพื่อการพัฒนาในการสร้างโอกาสให้ประชาชนเข้าถึงแหล่งเงินทุนอย่างทั่วถึง ควบคู่กับการให้ความรู้ทางการเงินเพื่อสนับสนุนความเข้มแข็งเศรษฐกิจฐานราก พัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ และลดความเหลื่อมล้ำในสังคมภายใต้การบริหารจัดการองค์กรที่มั่นคง โปร่งใส และยั่งยืน โดยการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาประยุกต์ใช้ในการบริหารจัดการและให้บริการทางการเงิน
สำหรับผลการดำเนินงานในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2560 EXIM BANK มีกำไรสุทธิ 668 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 55 ล้านบาทจากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดย ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2560 มีเงินให้สินเชื่อคงค้างจำนวน 85,391 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนจำนวน 12,075 ล้านบาท ซึ่งเป็นสินเชื่อใหม่ที่เบิกจ่ายเพิ่มขึ้นในระหว่างปีจำนวน 13,932 ล้านบาท และมีการชำระคืนของสินเชื่อเดิมบางส่วน ทำให้เกิดปริมาณธุรกิจ (Business Turnover) 79,400 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22,741 ล้านบาทจากช่วงเดียวกันของปีก่อน รวมทั้ง EXIM BANK ได้ดำเนินการช่วยเหลือผู้ประกอบการโดยเฉพาะ SMEs ให้แข่งขันด้านการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศได้มากขึ้น โดยมีปริมาณธุรกิจของ SMEs เท่ากับ 50,322 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11,224 ล้านบาทจากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีเงินให้สินเชื่อคงค้างแก่ SMEs 36,369 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 6,139 ล้านบาท หรือร้อยละ 20.31
อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพของธนาคาร (NPLs Ratio) ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2560 อยู่ที่ร้อยละ 3.61 โดยมีสินเชื่อด้อยคุณภาพจำนวน 3,086 ล้านบาท ลดลง 658 ล้านบาทจากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีเงินสำรองหนี้สงสัยจะสูญจำนวน 7,208 ล้านบาท โดยเป็นสำรองหนี้พึงกันตามเกณฑ์ธนาคารแห่งประเทศไทยจำนวน 3,033 ล้านบาท คิดเป็นอัตราส่วนเงินสำรองที่กันไว้แล้วต่อสำรองพึงกันร้อยละ 237.65 ทำให้ธนาคารยังคงดำรงฐานะการเงินที่มั่นคง
EXIM BANK ยังมีส่วนช่วยส่งเสริมผู้ส่งออกในการทำหน้าที่องค์กรรับประกันเพื่อช่วยผู้ส่งออกคลายความกังวลว่าจะไม่ได้รับชำระเงินค่าสินค้าจากผู้ซื้อต่างประเทศและสามารถช่วยให้ผู้ส่งออกไทยแข่งขันได้มากขึ้น โดยใน 6 เดือนแรกของปี 2560 EXIM BANK มีปริมาณธุรกิจด้านการรับประกันการส่งออกและลงทุนรวมเท่ากับ 35,360 ล้านบาท โดย 5,757 ล้านบาทเป็นธุรกิจส่งออกของ SMEs หรือร้อยละ 16.28 ของปริมาณธุรกิจสะสมรวม ทั้งนี้ มียอดรับประกันคงค้าง ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2560 จำนวน 22,988 ล้านบาท
สำหรับการสนับสนุนผู้ประกอบการไทยในการขยายฐานการค้าและการลงทุนไปยังต่างประเทศ ปัจจุบัน EXIM BANK มีวงเงินให้การสนับสนุนแก่สินเชื่อโครงการระหว่างประเทศรวมทั้งสิ้น 69,913 ล้านบาท และมีเงินให้สินเชื่อคงค้าง ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2560 จำนวน 36,332 ล้านบาท นอกจากนี้ EXIM BANK ยังมุ่งเน้นการขยายฐานการค้าและการลงทุนในตลาดใหม่อย่าง CLMV (กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และเวียดนาม) โดยเมื่อเดือนมิถุนายน 2560 EXIM BANK ได้เปิดสำนักงานผู้แทนในย่างกุ้ง เมียนมา รวมทั้งมีแผนจะเปิดสำนักงานผู้แทนใน สปป.ลาว และกัมพูชาต่อไป
"ในปัจจุบันยังมีโอกาสทางการค้าและการลงทุนอยู่มากในตลาดโลก รวมทั้งตลาดใหม่ๆ ที่ผู้ประกอบการไทยยังไม่คุ้นเคย EXIM BANK จึงพร้อมสนับสนุนผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะ SMEs ให้แข่งขันได้ ด้วยเงินทุนหมุนเวียนและเครื่องมือบริหารความเสี่ยง ท่ามกลางความไม่แน่นอนของสถานการณ์เศรษฐกิจและการเมืองระหว่างประเทศ เพื่อช่วยให้ธุรกิจไทยเติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนในตลาดต่างๆ ทั่วโลก" นายพิศิษฐ์กล่าว