กรุงเทพฯ--9 ส.ค.--มีเดีย แพลนเนอร์ คอนซัลแทนท์
บล.โกลเบล็ก มองหุ้นไทยได้จับตาแผนการลงทุนระยะ 8 ปี (2561-2568) ของ รฟท. รองรับเส้นทางรถไฟทางคู่รวม 16 เส้นทาง บวกแรงเก็งกำไรประกาศงบไตรมาส 2/60 หนุนกรอบดัชนีแกว่งตัวที่ 1,560 – 1,590 จุด แนะสะสมหุ้นที่คาดว่างบไตรมาส 2/2560 เติบโต ชู BANPU-SYNEX-HARN- WICE-LIT -MGT ด้านแนวโน้มราคาทองคำเน้นเก็งกำไร หากไม่ลงต่ำกว่าช่วง 1,240–1,250ดอลลาร์
น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินว่าตลาดหุ้นไทยได้รับปัจจัยหนุนจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐสามารถชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐฯมีทิศทางฟื้นตัวชัดเจนมากขึ้น จากการรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 209,000 ตำแหน่ง มากกว่าคาด ขณะที่อัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 4.3% จาก 4.4% ในเดือนมิ.ย. บ่งชี้ว่าตลาดแรงงานสหรัฐยังคงปรับตัวดีขึ้น ประกอบกับอัตราเงินเฟ้อไม่มีแนวโน้มพุ่งขึ้นมากจากดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐานอยู่ที่ 1.5% ยังห่างไกลเป้าหมายเฟดที่ระดับ 2%
นอกจากนี้ยังได้รับปัจจัยหนุนภายในประเทศจากการลงทุนโครงการขนาดใหญ่โดยภาครัฐอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เตรียมแผนการลงทุนระยะ 8 ปี (2561-2568) เพื่อรองรับเส้นทางรถไฟทางคู่รวม 16 เส้นทาง ระยะทางรวม 3,169 กม. รวมถึงแรงซื้อเก็งกำไรดักงบไตรมาส 2/2560 ที่ทยอยประกาศ และกกพ. ประกาศรับซื้อไฟฟ้า "SPP Hybrid Firm"ตั้งเป้าหมายรวม 300 เมกะวัตต์ กำหนด FiT ที่ 3.66 บาทต่อหน่วย เปิดทางกลุ่มผู้ผลิตจัดทัพรูปแบบไฟฟ้าเอง พร้อมแจ้งรายชื่อผู้ผ่านคุณสมบัติ 9 พ.ย.นี้
ส่วนปัจจัยที่มีผลลบต่อการลงทุนในตลาดหุ้นไทยในระยะนี้มาจาก Fund Flow ต่างชาติในเดือนส.ค.ที่เป็น Net Sell ต่อเนื่องราว 6 พันล้านบาททำให้ Fund Flow ต่างชาติตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันพลิกเป็น Net Sell ราว 23 ล้านบาท และความกังวลปัญหา NPL ที่เพิ่มขึ้นของกลุ่มธนาคารจากภาวะน้ำท่วมในหลายจังหวัดภาคเหนือและอีสาน นอกจากนี้ยังคงต้องจับตา ในวันที่ 10 ส.ค. เคาะราคาประมูลรถไฟทางคู่ สายนครปฐม-หัวหิน ภายในวันที่ 15 ส.ค. บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯจะทยอยประกาศงบการเงินงวดไตรมาส 2/2560 และในวันที่ 16 ส.ค. ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)
ด้านนายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ภาวะตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้มีปัจจัยบวก/ลบคละเคล้า โดยแรงซื้อดักงบไตรมาส 2/2560 ที่ทยอยประกาศจนถึงกลางเดือนส.ค. จะเป็นแรงหนุน อย่างไรก็ตาม Fund Flow ต่างชาติที่เป็นNet Sell ต่อเนื่อง รวมถึงความกังวล NPL กลุ่มธนาคารที่เพิ่มขึ้นจะเป็นแรงกดดันต่อภาวะตลาด ดังนั้นประเมินว่า SET จะแกว่งตัวในกรอบ 1,560 – 1,590 จุด
ทั้งนี้ แนะนำซื้อสะสมในกลุ่มหุ้นที่คาดว่างบไตรมาส 2/2560 จะเติบโต ได้แก่ BANPU, SYNEX, HARN, WICE, LIT และ MGT
สำหรับแนวทางการลงทุนในทองคำ นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ นักวิเคราะห์การลงทุน บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า กองทุน SPDRรายงานยอดการถือครองทองคำยังคงไม่มีการซื้อสุทธินับตั้งแต่วันที่ 26 มิ.ย. โดยลดจาก 853.68 ตัน ลงมาสู่ระดับ 786.87 ตัน ในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่วนการสะสมของกลุ่มนักเก็งกำไรในตลาดอนุพันธ์ทองคำนั้น แม้มียอดซื้อสุทธิสูงขึ้น 2 สัปดาห์ติดต่อกัน แต่ภาพรวมยังอยู่ในทิศทางขาลง จึงทำให้ราคาทองคำมีแนวโน้มแกว่งตัวผันผวน
ส่วนการรีบาวด์ของดัชนีสกุลเงินดอลลาร์ กดให้ราคาทองคำอ่อนตัวลง โดยมีโอกาสที่การรีบาวด์สั้น ๆ ของราคาทองคำโลกอาจเกิดขึ้นได้ตามความผันผวนของเงินดอลลาร์ แต่ภาวะ safe haven ในเงินบาทยังคงเป็นปัจจัยลบสำคัญที่ทำให้ราคาทองคำในประเทศคงทิศทางขาลงต่อไป
สำหรับปัจจัยทางเทคนิค มองว่าการย่อลงของราคาทองคำถึงระดับที่ควรรีบาวด์ตามสัญญาณระยะสั้น แต่แนวโน้มอยู่ในลักษณะอ่อนตัวต่อเนื่อง จึงยังคงต้องจับตาช่วงแนวรับสำคัญ 1,240–1,250 ดอลลาร์ ว่าจะหนุนทิศทางหลักได้หรือไม่ จึงปรับคำแนะนำมาเป็น "เก็งกำไรในกรอบ โดยเน้น trading long หากไม่ลงต่ำกว่าช่วง 1,240–1,250 ดอลลาร์ และปิดทำกำไรเร็วเพื่อลดความเสี่ยงของค่าเงินบาท"
ทั้งนี้ นักลงทุนควรติดตามปัจจัยในรอบสัปดาห์ที่ส่งผลกระทบต่อราคาทองคำโลก ได้แก่ ดัชนีชี้วัดอัตราเงินเฟ้อ ถ้อยแถลงและความเห็นของประธาน Fed แต่ละสาขา ส่วนสัปดาห์หน้าติดตามดัชนีภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯในภาคการผลิตที่จะทยอยประกาศออกมา รวมถึงบันทึกการประชุม FOMC ครั้งล่าสุด