กรุงเทพฯ--9 ส.ค.--กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ
กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กระทรวงพลังงาน มอบรางวัลองค์กรที่มีความเป็นเลิศ (Thailand Coal Awards) ครั้งที่ 3 ด้านบริหารจัดการทั้งระบบการผลิตและการใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิง มุ่งยกระดับมาตรฐานการจัดการที่ดี สร้างความเชื่อมั่นต่อประชาชน
พลเอก อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า กระทรวงพลังงาน โดยกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ ได้จัดพิธีมอบรางวัลองค์กรที่มีความเป็นเลิศในด้านต่าง ๆ ของกิจการถ่านหินของไทย (Thailand Coal Awards) ครั้งที่ 3 ให้กับองค์กรที่เป็นเลิศใน 3 ด้าน โดยเป็นไปตามนโยบายของกระทรวงพลังงานในด้านการบริหารจัดการของผู้ประกอบการถ่านหินตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ไม่ว่าจะเป็นเหมืองถ่านหิน การใช้ถ่านหินในอุตสาหกรรม และผลิตกระแสไฟฟ้า ให้เกิดประสิทธิภาพ ไม่มีผลกระทบต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม รวมถึงการถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กับประชาชน และชุมชนผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ให้เกิดความเข้าใจในประโยชน์ของการใช้ถ่านหิน ที่ปัจจุบันมีเทคโนโลยีเพื่อการควบคุม และดูแลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
"ปัจจุบันมีการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในการจัดการด้านถ่านหิน ทั้งเป็นเชื้อเพลิงในเชิงอุตสาหกรรมและผลิตกระแสไฟฟ้า ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพและได้รับการรองรับจากนานาชาติในการควบคุมกระบวนการดำเนินงานไม่ให้ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยปัจจุบันพบว่า หลายประเทศใช้ถ่านหิน เป็นเชื้อเพลิงหลักในการผลิตกระแสไฟฟ้า เช่น ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และหลายประเทศในทวีปยุโรปที่มีสัดส่วนการใช้ถ่านหินสูงถึง 25 - 50% และการใช้ถ่านหินเพื่อการผลิตกระแสไฟฟ้าทั่วโลกมีสัดส่วนสูงถึง 40% รวมทั้งในบางประเทศที่มีแหล่งพลังงานขนาดใหญ่ เช่น สหรัฐอเมริกา ก็ยังใช้ถ่านหินเพื่อสร้างความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศด้วย ดังนั้นการใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิงไม่ใช่สิ่งที่น่ากังวลเหมือนในอดีต เพราะทุกอย่างสามารถควบคุมได้ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย"
พลเอก อนันตพร กล่าวต่อไปว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีกฎหมายด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้มข้น รวมทั้งระบบ การบริหารจัดการที่มีคุณภาพไม่ว่าจะเป็นการขนถ่าย การเก็บรักษาถ่านหิน ต้องทำด้วยระบบปิดแบบครบวงจร นับว่าเป็นต้นแบบที่ดีสำหรับผู้ประกอบการไทย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและการยอมรับให้กับชุมชนได้อย่างดี ซึ่งการมอบรางวัลองค์กรที่มีความเป็นเลิศในด้านต่างๆ ของกิจการถ่านหินของไทย (Thailand Coal Awards) ในครั้งนี้ จะเป็นต้นแบบที่ดีให้กับหน่วยงานอื่นๆ ได้นำไปประยุกต์ใช้ และขยายเครือข่ายองค์กรที่ดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพได้ในอนาคต
นายวีระศักดิ์ พึ่งรัศมี อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปีนี้มีการแบ่งรางวัลเป็น 3 ประเภท โดยมีผู้ได้รับรางวัลทั้งหมด 9 รางวัล ดังนี้
ประเภทการดำเนินการด้านถ่านหินเป็นเลิศ (Best Practice Category) ได้แก่
- Mae Moh Lignite Mine จากเหมืองแม่เมาะ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
- BLCP 2x 717MW Coal-fired Power Station จากบริษัท บีแอลซีพี เพาเวอร์ จำกัด
- SKIC Closed-Sytem Coal Operation for Sustainable Development (Ban Pong Dome Coal Storage) จากบริษัท สยามคราฟอุตสาหกรรม จำกัด
ประเภทการมีส่วนร่วมต่อชุมชนและสังคม (Corporate Social Responsibility Catagery) ได้แก่
- The Environmental Collaboration for Sustainable Development in Mae Moh District จากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
- TPIPL intend continuing commitment to CSR จากบริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด(มหาชน)
- Sustainable Social Participation of BLCP Coal Fired Power Plant จากบริษัท บีแอลซีพี เพาเวอร์ จำกัด
- Asia Green Energy : Green Society จากบริษัท เอเชีย กรีน เอนเนอจี จำกัด(มหาชน)
ประเภทหัวข้อพิเศษ (Special Submission Category) ได้แก่
- Distribution Bunker Cleaning Equipment จากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
- Specific energy consumption Improvement of kiln plant จากบริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน)
"สำหรับผู้ที่ได้รับรางวัล Thailand Coal Awards แต่ละประเภทในครั้งนี้ จะมีการคัดเลือกเพื่อส่งเข้าประกวดในระดับอาเซียน ณ กรุงจากาต้า สาธารณรัฐอินโดนีเซียต่อไป" นายวีระศักดิ์กล่าว