กรุงเทพฯ--9 ส.ค.--มีเดีย แพลนเนอร์ คอนซัลแทนท์
บอร์ด บมจ.ไทยลักซ์ เอ็นเตอร์ไพรส์ หรือ TLUXE อนุมัติลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพ และพลังงานลม รวม 3 โครงการ มูลค่าการลงทุนรวม 194.16 ล้านบาท ด้าน CFO "สุวิทย์ วรรณะศิริสุข" คาดเซ็นสัญญาซื้อขายไฟฟ้า พร้อมผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ในเดือนสิงหาคมนี้ และสามารถรับรู้รายได้ทันที แย้มครึ่งปีหลัง พร้อม COD อีก 10 โครงการ หนุนสิ้นปี 60 มีโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ทั้งสิ้น 23 โครงการ หรือ 23 เมกะวัตต์
นายสุวิทย์ วรรณะศิริสุข ผู้อำนวยการสายบัญชีและการเงิน บริษัท ไทยลักซ์ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TLUXE ผู้ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์น้ำ ทั้งภายในประเทศ และต่างประเทศ ตลอดจนดำเนินธุรกิจโรงผลิตไฟฟ้าจากพลังงานความร้อนใต้พิภพ (Geothermal Energy) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯได้มีมติอนุมัติการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพ (Geothermal Energy) และโรงไฟฟ้าพลังงานลม รวม 3 โครงการ ในญี่ปุ่น มูลค่าการลงทุนรวม 194.16 ล้านบาท โดยคาดว่าจะทำสัญญาซื้อขายได้ในเดือนสิงหาคม 2560 และคาดว่าโรงไฟฟ้าจะเริ่มจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ในเดือนสิงหาคมนี้ ทำให้สามารถรับรู้รายได้ได้ทันที
ทั้งนี้การลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพ ในญี่ปุ่นเพิ่มในครั้งนี้ เพื่อรักษาโอกาสทางธุรกิจ และเพื่อให้ได้รับประโยชน์จากราคาขายไฟฟ้าในอัตราสูงสุดตามกฎเกณฑ์ของกระทรวงเศรษฐกิจการค้าและอุตสาหกรรม (METI) ด้วยการซื้อกิจการบริษัท Lena Power Station No.1 Limited Liability Company ซึ่งเป็นบริษัทที่จัดตั้งขึ้นภายใต้กฎหมาย ของประเทศญี่ปุ่นและเป็นสัญชาติญี่ปุ่น
สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพ ทั้ง 2 โครงการ มีขนาดกำลังการผลิตรวม 250 กิโลวัตต์ ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองเบบปุ จังหวัดโออิตะ ประเทศญี่ปุ่น โดยมีมูลค่ารวมของทั้งสองโครงการ 600 ล้านเยน หรือประมาณ 183.17 ล้านบาท และคาดว่าจะเริ่มขายไฟฟ้าได้ในเดือนสิงหาคม 2560 ซึ่งจำหน่ายไฟฟ้าให้กับบริษัท คิวชู อิเล็กทริก พาวเวอร์ จำกัด มีอัตรารับซื้อไฟฟ้าไม่รวมภาษี 40 เยน/หน่วย ระยะเวลา 15 ปี ภายหลังสิ้นสุดสัญญารับซื้อไฟฟ้าปีที่ 15 บริษัทสามารถขายไฟฟ้าต่อไปได้ แต่อัตรารับซื้อไฟฟ้าจะลดลงจาก 40 เยน/หน่วย
ผู้อำนวยการสายบัญชีและการเงิน บมจ. ไทยลักซ์ เอ็นเตอร์ไพรส์ (TLUXE) กล่าวเพิ่มว่า หลังจากการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพ เพิ่มอีก 2 โครงการในครั้งนี้ และ เมื่อรวมกับ 8 โครงการที่จะเริ่ม COD ในเดือนสิงหาคม นี้ บวกกับอีก 3 โครงการที่ได้ดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้วในช่วงปี 2559 จึงทำให้บริษัทมีโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพในประเทศญี่ปุ่น ที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ ณ เดือนสิงหาคม 2560 รวมจำนวน 13 โครงการ
ขณะเดียวกันบริษัทฯ จะดำเนินการเชิงพาณิชย์โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพเพิ่มในเดือนกันยายนอีกจำนวน 2 โครงการ และในไตรมาส 4/2560 อีกจำนวน 8 โครงการ รวมแล้วบริษัทจะมีโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพ ที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ทั้งสิ้น 23 โครงการ มีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวมทั้งหมด 2,875 กิโลวัตต์ หรือกำลังการผลิตเทียบเท่ากับ โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 23 เมกะวัตต์ในปี 2560
นอกจากนี้บริษัทฯได้เข้าลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม จะเป็นการลงทุนที่เมืองอาโอโมริ (Aomori) ประเทศญี่ปุ่น จำนวน 1 ยูนิต มูลค่ารวม 36 ล้านเยน หรือประมาณ 10.99 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มขายไฟฟ้าได้ในเดือนสิงหาคม 2560 โดยจำหน่ายให้กับบริษัท โทโฮคุ จำกัด (Tohoku) อัตรารับซื้อไฟฟ้าไม่รวมภาษีที่ 55 เยน/หน่วย สัญญารับซื้อไฟฟ้า 20 ปี ภายหลังสิ้นสุดสัญญารับซื้อไฟฟ้าปีที่ 20 บริษัทสามารถขายไฟฟ้าต่อไปได้ แต่อัตรารับซื้อไฟฟ้าจะลดลงจาก 55 เยน/หน่วย
สำหรับแหล่งเงินลงทุนจะมาจากเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน หรือกระแสเงินสดของบริษัท ส่วนผลกระทบต่ออัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E-Ratio) จากไตรมาสแรกของปี 60 คือ 0.96 คาดว่าจะสูงขึ้นอีก 0.09 จากการกู้ยืมเงินเพื่อลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าใหม่ ปัจจุบันอยู่ระหว่างขั้นตอนขอสินเชื่อกับสถาบันการเงินแห่งหนึ่ง