กรุงเทพฯ--10 ส.ค.--มหาวิทยาลัยศรีปทุม
ผศ.ดร.วิรัช เลิศไพฑูรย์พันธ์ รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยศรีปทุม พร้อมด้วยผู้บริหารและคณาจารย์ นำนักศึกษา คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ และคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยศรีปทุม วิทยาเขตชลบุรี ที่โชว์ศักยภาพสร้างผลงานกวาด 18 รางวัลจากผลงานการประกวดในโครงการส่งเสริม คุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมไทย ประจำปี 2560 ภายใต้แนวคิด "ศาสตร์พระราชา" เข้ารับมอบโล่รางวัล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประเภทสื่อดิจิทัล ได้แก่ รางวัลระดับดีมาก 6 รางวัล , รางวัลระดับดีเด่น 1 รางวัล, รางวัลระดับดี 4 รางวัล,รางวัล Popula Vate 1 รางวัล ประเภทโครงการต้นแบบ ได้แก่ รางวัลดีเด่น 1 รางวัล , รางวัล Popular Vote 1 รางวัล , รางวัลระดับดี 1รางวัล , รางวัลระดับดีมาก 3 รางวัล โดยมีหม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานในพิธีและมอบโล่รางวัลพร้อมเกียรติบัตรให้แก่ผู้ชนะการประกวดในครั้งนี้ ณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ จังหวัดนครปฐม เมื่อเร็วๆนี้
ผศ.ดร.วิรัช เลิศไพฑูรย์พันธ์ รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยศรีปทุม ได้กล่าวว่า ในปัจจุบันการพัฒนาประเทศไปสู่ความทันสมัย ได้ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแก่สังคมไทยอย่างมากในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจ การเมือง วัฒนธรรม สังคมและสิ่งแวดล้อม อีกทั้งกระบวนการของความเปลี่ยนแปลงมีความสลับซับซ้อนจนยากที่จะอธิบายในเชิงสาเหตุและผลลัพธ์ได้ เพราะการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดต่างเป็นปัจจัยเชื่อมโยงซึ่งกันและกัน สำหรับผลของการพัฒนาในด้านบวกนั้น ได้แก่ การเพิ่มขึ้นของอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ความเจริญทางวัตถุ และสาธารณูปโภคต่างๆ ระบบสื่อสารที่ทันสมัย หรือการขยายปริมาณและกระจายการศึกษาอย่างทั่วถึงมากขึ้น แต่ผลด้านบวกเหล่านี้ส่วนใหญ่กระจายไปถึงคนในชนบทหรือผู้ด้อยโอกาสในสังคมน้อย แต่ว่า กระบวนการเปลี่ยนแปลงของสังคมได้เกิดผลลบติดตามมาด้วย เช่น การขยายตัวของรัฐเข้าไปในชนบท ได้ส่งผลให้ชนบทเกิดความอ่อนแอในหลายด้าน ทั้งการต้องพึ่งพิงตลาดและพ่อค้าคนกลางในการสั่งสินค้าทุน ความเสื่อมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติ ระบบความสัมพันธ์แบบเครือญาติ และการรวมกลุ่มกันตามประเพณีเพื่อการจัดการทรัพยากรที่เคยมีอยู่แต่เดิมแตกสลายลง ภูมิความรู้ที่เคยใช้แก้ปัญหาและสั่งสมปรับเปลี่ยนกันมาถูกลืมเลือนและเริ่มสูญหายไป
เศรษฐกิจพอเพียง เป็นปรัชญาที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชดำริชี้แนะแนวทางการดำรงอยู่และปฏิบัติตนของประชาชนในทุกระดับ ตั้งแต่ระดับครอบครัว ระดับชุมชน จนถึงระดับรัฐ ทั้งในการพัฒนาและบริหารประเทศให้ดำเนินไปในทางสายกลาง โดยเฉพาะการพัฒนาเศรษฐกิจ เพื่อให้ก้าวทันต่อโลกยุคโลกาภิวัตน์ ดังนั้น ความพอเพียง จึงหมายถึง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล รวมถึงความจำเป็นที่จะต้องมีระบบภูมิคุ้มกันในตัวที่ดีพอสมควร ต่อการกระทบใดๆ อันเกิดจากการเปลี่ยนแปลงทั้งภายในภายนอก ทั้งนี้ จะต้องอาศัยความรอบรู้ ความรอบคอบ และความระมัดระวังอย่างยิ่งในการนำวิชาการต่างๆ มาใช้ในการวางแผนและการดำเนินการ ทุกขั้นตอน และขณะเดียวกัน จะต้องเสริมสร้างพื้นฐานจิตใจของคนในชาติ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ของรัฐ นักทฤษฎี และนักธุรกิจในทุกระดับ ให้มีสำนึกในคุณธรรม ความซื่อสัตย์สุจริต และให้มีความรอบรู้ที่เหมาะสม ดำเนินชีวิตด้วยความอดทน ความเพียร มีสติ ปัญญา และความรอบคอบ เพื่อให้สมดุลและพร้อมต่อการรองรับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและกว้างขวาง ทั้งด้านวัตถุ สังคม สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรมจากโลกภายนอกได้เป็นอย่างดี ความหมายของเศรษฐกิจพอเพียง จึงประกอบด้วยคุณสมบัติ ดังนี้1) ความพอประมาณ หมายถึง ความพอดีที่ไม่น้อยเกินไปและไม่มากเกินไป โดยไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น เช่น การผลิตและการบริโภคที่อยู่ในระดับพอประมาณ 2) ความมีเหตุผล หมายถึง การตัดสินใจเกี่ยวกับระดับความพอเพียงนั้น จะต้องเป็นไปอย่างมีเหตุผล โดยพิจารณาจากเหตุปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนคำนึงถึงผลที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากการกระทำนั้นๆ อย่างรอบคอบ และ 3) ภูมิคุ้มกัน หมายถึง การเตรียมตัวให้พร้อมรับผลกระทบและการเปลี่ยนแปลงด้านต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น โดยคำนึงถึงความเป็นไปได้ของสถานการณ์ต่างๆ ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคต โดยคุณสมบัติทั้ง 3 ข้อมีเงื่อนไข ของการตัดสินใจและดำเนินกิจกรรมต่างๆ ให้อยู่ในระดับพอเพียง 2 ประการ คือ 1) เงื่อนไขความรู้ ประกอบด้วย ความรอบรู้เกี่ยวกับวิชาการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องรอบด้าน ความรอบคอบที่จะนำความรู้เหล่านั้นมาพิจารณาให้เชื่อมโยงกัน เพื่อประกอบการวางแผนและความระมัดระวังในการปฏิบัติและ 2) เงื่อนไขคุณธรรม ที่จะต้องเสริมสร้าง ประกอบด้วย มีความตระหนักใน คุณธรรม มีความซื่อสัตย์สุจริตและมีความอดทน มีความเพียร ใช้สติปัญญาในการดำเนินชีวิต
ด้วยตระหนักถึงความสำคัญและการดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อพัฒนาให้เยาวชนเติบโตเป็นบุคคลที่มีคุณภาพชีวิตที่ดี มีความรู้คู่คุณธรรมจริยธรรมและค่านิยมไทย สามารถอยู่ร่วมกันในสังคมได้อย่างมีความสุขอย่างพอเพียง จึงเกิดการรวมตัวของหน่วยงานทั้ง 10 สถาบัน ประกอบด้วย
1) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์
2) มหาวิทยาลัยศรีปทุม
3) วิทยาลัยการทัพบก
4) มหาวิทยาลัยราชพฤกษ์
5) มหาวิทยาลัยธนบุรี
6) สมาคมการสถานการณ์จำลองและเกมเพื่อการเรียนรู้แห่งประเทศไทย
7) มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา
8) สมาคมอีเลิร์นนิ่งแห่งประเทศไทย
9) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
10) สำนักงานวิจัยและพัฒนาทางทหารกองทัพบก
ได้ร่วมใจกันจัดกิจกรรมส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนไทยได้เกิดความตระหนักและเห็นถึงคุณค่าความเป็นไทยในรูปแบบการจัดโครงการส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมและค่านิยมไทยภายใต้แนวคิด "เศรษฐกิจพอเพียง" โดยมีการจัดกิจกรรมโครงการต้นแบบส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมและค่านิยมไทย ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงโดยยึดทางสายกลางของความพอดี 5 ประการ คือ
1) ความพอดีด้านจิตใจ ต้องมีความเข็มแข็ง พึ่งตนเองได้ มีจิตสำนึกที่ดี เอื้ออาทร ประนีประนอม โดยคำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวม
2) ความพอดีด้านสังคม คือความช่วยเหลือเกื้อกูลกัน สร้างความเข็มแข็งให้แก่ชุมชน รู้จักผนึกกำลัง และที่สำคัญ ต้องมีกระบวนการเรียนรู้เพื่อให้เกิดรากฐานที่มั่นคงและแข็งแรง
3) ความพอดีด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ต้องรู้จักใช้และจัดการอย่างฉลาดและรอบคอบ เพื่อให้เกิดความยั่งยืนสูงสุด
4) ความพอดีด้านเทคโนโลยี ต้องรู้จักประยุกต์ใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม ให้สอดคล้องกับความต้องการ และควรจะพัฒนาเทคโนโลยีจากภูมิปัญญาชาวบ้านของเราเอง เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อสภาพ แวดล้อมของเราเอง
5) ความพอดีด้านเศรษฐกิจ ต้องรู้จักเพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย ดำรงชีวิตอย่างพอสมควร พออยู่พอกินตามอัตภาพ และฐานะของตนเอง ซึ่งความพอดีทั้ง 5 ประการนี้ จะเป็นประโยชน์และเป็นหัวใจสำคัญ ของการพัฒนาประเทศ ในการร่วมกันสร้างพื้นฐานความพอกินพอใช้ และนำไปสู่การพัฒนาสังคมไทยให้เข้มแข็งและยั่งยืนต่อไป
เครดิตข้อมูลจาก http://sams.east.spu.ac.th/methai/frontend/web/
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมหาวิทยาลัยศรีปทุม ชลบุรี โทร. 0 38146123 โทรสาร 0 38146011
e-mail : spuc@east.spu.ac.th เว็บไซต์ http://www.east.spu.ac.th/admission/
หรือติดตามกิจกรรมต่างๆได้ที่ https://www.facebook.com/spuchonburi/
หรือเยี่ยมชมวิดีทัศน์แนะนำมหาวิทยาลัยศรีปทุมได้ที่ https://www.youtube.com/user/SPUFriends