กรุงเทพฯ--10 ส.ค.--มีเดีย แพลนเนอร์ คอนซัลแทนท์
บมจ.เอเชียกรีน เอนเนอจี (AGE) แจ้งไตรมาส 2/60 โชว์รายได้รวมแตะ 1,362.45 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29% ขณะที่กำไรสุทธิ 33.38 ล้านบาท ส่งผลครึ่งปีแรก กวาดยอดขายถ่านหิน 1.05 ล้านตัน จากการจำหน่ายถ่านหินในประเทศ และต่างประเทศ เพิ่มขึ้น ด้านผู้บริหาร " พนม ควรสถาพร " เผยกลยุทธ์ครึ่งปีหลังมุ่งขยายฐานลูกค้าในประเทศเพิ่ม พร้อมขยายตลาดจีน-เวียดนาม เพิ่มเติมจากความต้องการใช้ถ่านหินเพิ่มขึ้น ตามการเปิดโรงไฟฟ้า และการสต๊อกถ่านหินไว้ใช้ในฤดูหนาว มั่นใจทั้งปีมีปริมาณการขายถ่านหินโตเพิ่มขึ้น 25-30%
นายพนม ควรสถาพร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอเชียกรีน เอนเนอจี จำกัด(มหาชน) หรือAGE ผู้จัดจำหน่ายถ่านหินบิทูมินัส (ถ่านหินสะอาด) เปิดเผยถึงผลประกอบการงวดไตรมาส 2/2560 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2560ว่า บริษัทมีรายได้1,362.45 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 28.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งบริษัท มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,059.58 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิ อยู่ที่ 33.38 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 14.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 29.19 ล้านบาท ส่วนผลการดำเนินงานในงวดครึ่งปีแรก 2560 ของบริษัทมีรายได้รวม 2,619.78 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 31 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งบริษัมีรายได้รวม อยู่ที่ 2,000.12 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิ อยู่ที่ 44.26 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 43.25 ล้านบาท จากการรายได้ที่เพิ่มขึ้นทั้งใน และต่างประเทศ
ทั้งนี้ สาเหตุที่บริษัทมีผลการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น การขยายตลาดการขายอย่างต่อเนื่องส่งผลให้ปริมาณการขายถ่านหินที่ดีขึ้นทั้งตลาดในประเทศและตลาดต่างประเทศ โดยปริมาณการขายในช่วงครึ่งปีนี้อยู่ที่ 1.05 ล้านตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.5 จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีปริมาณการขายอยู่ที่ 0.99 ล้านตัน ซึ่งเป็นผลมาจากขยายฐานลูกค้าในต่างประเทศ โดยเฉพาะเวียดนาม อินเดีย และจีน
"ผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2560 ถือว่าเป็นที่น่าพอใจ จากกลยุทธ์การขยายตลาดที่หลากหลาย โดยเฉพาะ ในต่างประเทศที่มีการทำตลาดในกลุ่มประเทศอาเซียน โดยเฉพาะเวียดนามเพิ่มขึ้น ตามความต้องการใช้ที่เพิ่มขึ้น และราคาถ่านหินมีสอดคล้องกับดีมานด์ และซัพพลายในตลาดโลก" นายพนม กล่าว
นอกจากนี้ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.อเชีย กรีน เอนเนอจี (AGE) ยังได้กล่าวถึงภาพรวมธุรกิจในครึ่งปีหลังว่า แนวโน้มธุรกิจมีทิศทางอัตราการเติบโตที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับในช่วงครึ่งปีแรก เนื่องจากในช่วงครึ่งปีหลัง โดยเฉพาะในไตรมาส 4 ของทุกปีจะเป็นช่วงไฮซีซั่นของอุตสาหกรรมถ่านหิน โดยบริษัทได้ตั้งเป้าสัดส่วนการขายในปี 2560 จะปรับเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 25 จากปี 2559 ที่มีสัดส่วนการส่งออกร้อยละ 20 และสัดส่วนการขายในประเทศอยู่ที่ร้อยละ 75
ดังนั้นมั่นใจว่า ยอดขายของบริษัทจะเติบโตเป็นไปตามเป้าที่วางไว้ 25-30% จากปี 2559 ที่มีรายได้ 4.66 พันล้านบาท และตั้งเป้าปริมาณการขายถ่านหินที่ใกล้เคียง 3 ล้านตัน เพิ่มขึ้น จากปี 2559 ที่มี ปริมาณการขายถ่านหิน 2.36 ล้านตัน