กรุงเทพฯ--11 ส.ค.--สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ
สพฉ.ห่วงแม่เกิดภาวะฉุกเฉินระหว่างตั้งครรภ์ พบปีที่ผ่านมามีการนำส่งผู้ป่วยฉุกเฉินจากการตั้งครรภ์ กว่า 26,461 คน ย้ำหากพบเหตุควรรีบแจ้งสายด่วน 1669 // แนะลูกอาศัยวันแม่ดูแลสุขภาพแม่ เพื่อให้ห่างไกลจากอาการเจ็บป่วยฉุกเฉิน
เดือนสิงหาคมถือเป็นเดือนแห่งวันแม่ ซึ่งคำว่าแม่ก็แบ่งได้เป็นหลายระดับ ทั้งแม่วัยรุ่น แม่ที่เริ่มมีอายุ หรือแม่ที่อยู่ระหว่างการตั้งครรภ์ ซึ่งการดูแลสุขภาพเพื่อไม่ให้เกิดภาวะอาการเจ็บป่วยฉุกเฉินก็แตกต่างกันไป และการดูแลสุขภาพของแม่เป็นหน้าที่ที่ลูกๆ ทุกคนควรทำเพื่อตอบแทนพระคุณของแม่
นพ.ไพโรจน์ บุญศิริคำชัย รองเลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) กล่าวว่า ระดับความเสี่ยงของแม่ ขึ้นอยู่กับอายุและการดูแลร่างกายของแม่ ซึ่งตามปกติแม่ที่เริ่มมีอายุมากขึ้น จะมีภาวะเสี่ยงต่อโรคฉุกเฉินเพิ่มมากขึ้น อาทิ โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดหัวใจ ดังนั้นลูกๆ ควรดูแลให้แม่ตรวจร่างกายเป็นประจำ เพื่อดูว่ามีภาวะเสี่ยงหรือไม่ ที่สำคัญควรชวนกันออกกำลังกาย ควบคุมการรับประทานอาหาร เพื่อป้องกันการเกิดภาวะฉุกเฉิน ส่วนแม่วัยรุ่นที่มีลูกเล็ก ก็ต้องดูแลตัวเองดีๆ เพราะนอกจากจะต้องดูแลลูก ก็ต้องหาเวลาดูแลสุขภาพตัวเองด้วย เนื่องจากผู้หญิงมีโอกาสเป็นโรคเฉพาะบางอย่างมากกว่าผู้ชาย
ขณะที่แม่ที่ตั้งครรภ์ ยิ่งต้องดูแลตัวเองเป็นพิเศษ เพราะยิ่งมีความเสี่ยง โดยเฉพาะภาวะฉุกเฉินระหว่างตั้งครรภ์และการคลอด ซึ่งจากสถิติพบว่าตลอดทั้งปี พ.ศ. 2559 ที่ผ่านมามีการนำส่งผู้ป่วยฉุกเฉินจากการตั้งครรภ์การคลอดและนรีเวช 26,461 คน โดยในช่วงเดือนสิงหาคมซึ่งเป็นช่วงเดือนของวันแม่มีผู้ป่วยฉุกเฉินที่ถูกนำส่งโรงพยาบาลจากการคลอด 2,937 คน
รองเลขาธิการ สพฉ. กล่าวต่อถึงภาวะฉุกเฉินระหว่างตั้งครรภ์ ว่า จะแบ่งเป็น 2 ช่วง โดยช่วงครึ่งแรกของการตั้งครรภ์ ปัจจัยที่มีความเสี่ยงที่จะทำให้แม่ตั้งครรภ์ได้รับอันตรายคือ ภาวะเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด ซึ่งเกิดได้หลายสาเหตุและจะมีความรุนแรงแตกต่างกันออกไป อาทิ การตั้งครรภ์นอกมดลูก ภาวะตกเลือด และภาวะเลือดออกในช่องท้องจากการตั้งครรภ์นอกมดลูก อาจทำให้แม่เสียเลือดมากซึ่งถือเป็นสาเหตุทำให้เกิดการเสียชีวิตเป็นอันดับต้นๆ โดยอาการของการตั้งครรภ์นอกมดลูกสามารถสังเกตได้ดังนี้ แม่จะปวดท้องข้างใดข้างหนึ่งขึ้นมาโดยฉับพลัน มีเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอดสลับกับมีอาการหน้าท้องอืดตึง พร้อมทั้งคลำเจอก้อนที่ท้องและมีอาการอ่อนเพลียหรือหน้ามืดในขณะที่ลุกขึ้นนั่ง นอกจากนี้ยังพบภาวะความดันโลหิตต่ำและชีพจรเต้นเร็ว ซึ่งหากพบเห็นแม่ที่มีอาการเช่นนี้ควรรีบโทรแจ้งสายด่วน1669 เพื่อขอรับคำแนะนำหรือขอความช่วยเหลือทางการแพทย์ต่อไป
ส่วนภาวะความเสี่ยงของการตั้งครรภ์ครึ่งหลัง คือ ภาวะความดันโลหิตสูง และครรภ์เป็นพิษ แม่จะมีอาการความดันโลหิตสูงมาก อวัยวะภายในร่างกายหลายระบบล้มเหลว ซึ่งหากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีจะทำให้แม่และเด็กเสียขีวิตจากภาวะหลอดเลือดตีบ เนื่องจากอวัยวะต่างๆ ได้รับเลือดไปเลี้ยงน้อยลง ซึ่งในบางรายที่มีอาการหนักมากจะทำให้เกิดอาการชักและมีเลือดออกในสมอง ทั้งนี้แม่ที่ครรภ์เป็นพิษ จะมีอาการปวดศีรษะ ตามัว เกิดอาการบวมที่ขาแขน หรือใบหน้า มีน้ำหนักตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว ประมาณ 1 กิโลกรัมต่อสัปดาห์ และปวดท้องจุกแน่นบริเวณลิ้นปี่ ซึ่งหากพบเห็นแม่ที่มีอาการดังกล่าวควรรีบโทรแจ้งสายด่วน1669 เพื่อขอความช่วยเหลือทางการแพทย์ต่อไป