กรุงเทพฯ--2 ก.พ.--กทม.
เมื่อวานนี้ (1 ก.พ.44) ที่ห้องประชุมสถาบันพัฒนาข้าราชการกรุงเทพมหานคร ศาลาว่าการกทม. เวลา 13.00 น. ในการฝึกอบรมหลักสูตรนักบริหารระดับอาวุโส รุ่นที่ 16 ร.ต.ต.เกรียงศักดิ์ โลหะชาละ ปลัดกรุงเทพมหานคร ได้เป็นวิทยากรบรรยาย หัวข้อเรื่อง “ประสบการณ์นักบริหาร” ให้แก่นักบริหารระดับอาวุโส จำนวน 39 คน โดยเป็นข้าราชการสังกัดกรุงเทพมหานครระดับ 8-9 จากสำนักและสำนักงานเขตต่างๆ จำนวน 37 คน และจากส่วนราชการต่างสังกัด จำนวน 2 คน คือ จากกรมราชองครักษ์ กระทรวงกลาโหม 1 คน และฝ่ายทรัพยากรบุคคล องค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย 1 คน
ปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า การทำงานในอนาคตข้างหน้าสำหรับกลุ่มข้าราชการ โดยเฉพาะข้าราชการฝ่ายปกครองที่จะต้องใกล้ชิดกับประชาชน ตนคิดว่ามีองค์ประกอบมากมายที่พวกเราต้องเตรียมพร้อมต่อสู้กับปัญหาอุปสรรคต่างๆ ผู้ที่เข้ามาเป็นข้าราชการต้องยอมรับว่าคือผู้ที่เข้ามาแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างไปสู่ความสำเร็จตามความต้องการของประชาชน เมื่อบ้านเมืองมีความเจริญ ประชาชนมีความรู้ความเข้าใจที่ดีขึ้น ก็จะกล้าแสดงความคิดเห็นมากขึ้น ดังนั้นผู้ที่รับภาระในการแก้ปัญหาก็ต้องพร้อมที่จะรับฟังความคิดเห็นให้กว้างขวางมากยิ่งขึ้นด้วย พวกเราจึงต้องพัฒนาตัวเองให้มีความพร้อมมากที่สุด ซึ่งความพร้อมที่ดีที่สุดก็คือการสร้างเพื่อนเพื่อร่วมคิด ร่วมทำ และร่วมกันแก้ไขปัญหาให้กับองค์กรกทม. และเพื่อนที่ใกล้ตัวของเราขณะนี้ก็คือพวกเรา ณ ที่นี้ ขณะเดียวกันความคล่องตัวในการทำงานนั้น ลำพังองค์กรกทม.แต่เพียงฝ่ายเดียวคงเดินไปสู่ความสำเร็จไม่ได้ถ้าไม่มีแนวร่วมของเพื่อนข้าราชการในส่วนราชการอื่น ทั้งกระทรวง ทบวง กรมที่เกี่ยวข้อง รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานทหาร ตำรวจ ซึ่งเราต้องสร้างความเป็นมิตร ความเป็นเพื่อน เพราะถ้ามีทีมมีเพื่อนย่อมทำให้เกิดความมั่นใจ มีความมั่นคง พร้อมที่จะเผชิญปัญหาและอุปสรรค ดังนั้น ในการอบรมครั้งนี้ จึงขอให้ทุกคนพยายามตักตวงมิตรภาพความเป็นเพื่อน ความผูกพัน ความรัก ความสามัคคี สร้างมิตรภาพที่ดีของกันและกันให้มากที่สุด
ปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวต่อไปว่า ตนคิดว่ากทม. เป็นองค์กรที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาสังคมและประเทศในวันนี้ เนื่องจากว่าสถานการณ์ส่วนใหญ่อยู่ในกทม. ไม่ว่าจะเป็นปัญหาทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคม ก็เกิดในเมืองหลวงแห่งนี้ นอกจากนี้ในอนาคตก็จะมีตัวแปรอีกหลายสิ่งหลายอย่าง เช่น เรื่องการกระจายอำนาจของภาครัฐลงมาสู่ท้องถิ่นมากขึ้น กทม.ก็ต้องเป็นแกนหลักที่จะต้องรับผิดชอบในส่วนนี้ เป็นต้น การพัฒนาบ้านเมืองในอนาคตจึงมีแต่จะเพิ่มภารกิจให้กับตัวเรามากยิ่งขึ้น เราจึงต้องพัฒนาตัวเองให้มีความพร้อมที่จะรับมือกับปัญหาและภารกิจการงานในอนาคต บุคลากรของกทม.ทุกคนจึงต้องมีคุณภาพ การทำงานจะต้องทำแบบเป็นทีม การทำงานแบบ “เก่งคนเดียว” จะหมดไป
ปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวอีกว่า จากประสบการณ์ของตนเองที่ได้ประมวลความคิดเห็นจากหลายๆ ฝ่าย และจากการที่เคยได้ยินได้ฟัง แล้วนำมาประกอบในการพัฒนาตนเอง ตนคิดว่าในส่วนที่เป็นองค์ประกอบในชีวิตของเรา มีอยู่ 9 ส่วน คือ 1. ร่างกาย 2.จิตใจ 3.อารมณ์ 4. สังคม 5.เศรษฐกิจ 6. หน้าที่การงาน 7. ความรู้และการศึกษา 8.อนาคต และ 9. ความรัก ยกตัวอย่างเช่น ร่างกาย คือ ต้องยิ้มให้เป็น ต้องมีเวลายิ้มมากกว่าเวลาเครียด ซึ่งจะเป็นการสร้างสิ่งที่ดีให้แก่ผู้พบเห็น, พูดเพราะ พูดเป็น และพูดสร้างสรรค์, มีบุคลิกภาพ เช่น แต่งกายให้กลมกลืนกับโอกาสและกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งจะทำให้เกิดความประทับใจแก่ผู้พบเห็น จิตใจ คือ อย่ามีความกังวลในตัวเอง สร้างความเชื่อมั่นในตัวเอง , พยายามชื่นชมในความเป็นตัวของตัวเอง รู้จักถ่อมตน และมองโลกในแง่ดี อารมณ์ คือ พยายามให้อภัยคนอื่น มีอารมณ์ขัน อารมณ์สนุกพอสมควร นอกจากนี้นักบริหารที่ดีต้องมีความอดทน มีความเสียสละ และการให้อภัย สังคม คือ ทำตัวแบบไม่ขัดคอคน ซึ่งจะเป็นการสร้างมิตรมากกว่าศัตรู เป็นผู้ฟังที่ดี และอย่าคิดอะไรในทางลบ เศรษฐกิจ คือ ความประหยัด ขยัน และอย่าเสียดายในสิ่งที่ผ่านไปแล้ว หน้าที่การงาน พยายามให้มีความพอดี อย่าทุ่มเทจนเกิดเหตุ ควรจัดสรรเวลาระหว่างการทำงาน ครอบครัว และเรื่องส่วนตัวให้มีความเท่าเทียมกัน การศึกษา ผู้ที่เป็นนักบริหารต้องศึกษาหา ข้อมูลและความรู้อยู่ตลอดเวลา พัฒนาในทุกๆ ด้านทั้งที่เกี่ยวกับงานที่ต้องทำและงานที่ต้องตัดสินใจ ส่วน ความรัก ก็คือ ความรักในหมู่เพื่อนฝูง ครอบครัว เพื่อนร่วมงาน และความรักที่มีต่อประชาชน องค์ประกอบทั้ง 9 ส่วนดังกล่าวคือความเป็นตัวของตัวเอง ซึ่งจะทำให้เรามีความสมบูรณ์ขึ้นในความเป็นนักบริหาร สรุปว่า นักบริหารที่ดีนั้น ต้องมีความมั่นใจในตัวเอง สร้างความเชื่อถือศรัทธาให้เกิดแก่ผู้พบเห็น คนที่จะเป็นผู้นำ ต้องกล้าตัดสินใจ กล้ารับผิดชอบ และต้องมีคำตอบให้กับเพื่อนข้าราชการและประชาชน สำหรับการฝึกอบรมรุ่นนี้น่าจะเป็นรุ่นตัวอย่างที่จะผนึกกำลังกันสร้างประโยชน์ให้กับองค์กรกทม.ได้เป็นอย่างดี
อนึ่ง เมื่อวันที่ 31 ม.ค.ที่ผ่านมา คณะผู้เข้ารับการอบรมนักบริหารระดับอาวุโส รุ่นที่ 16 ได้เข้าศึกษาดูงานศูนย์สารสนเทศ สำนักงานก.พ. โดยมีนายวิสูตร ประสิทธิ์ ศิริวงศ์ ผู้อำนวยการศูนย์สารสนเทศ ให้การต้อนรับ พร้อมบรรยายสรุปบทบาทและหน้าที่ของสำนักงาน ก.พ. ทั้งนี้ คณะผู้เข้าอบรมจะได้นำแนวทางการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศของ ก.พ.ไปประยุกต์ใช้ในการจัดระบบ ระเบียบของส่วนราชการของตน. ให้พัฒนายิ่ง ๆ ขึ้นต่อไป เนื่องจาก สำนักงาน ก.พ. เป็นองค์กรที่ทำหน้าที่ส่งเสริม สนับสนุน และ เร่งเร้าให้ระบบราชการเปลี่ยนแปลงไปสู่ความมีประสิทธิภาพ คุณภาพ เกียรติภูมิ และความโปร่งใส ในระดับที่สามารถแข่งขันใน เวทีโลกได้ เพื่อประโยชน์สุขของประชาชนอย่างแท้จริง--จบ--
-นศ-