กรุงเทพฯ--15 ส.ค.--IR network
บมจ. กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง (GUNKUL) เดินหน้าต่อยอดธุรกิจ ล่าสุดเตรียมยื่นประมูลบิ๊กโปรเจ็กจากกฟภ-กฟผ.มูลค่านับหมื่นล้านบาท ส่งสัญญาณผลงานครึ่งปีหลังไม่ทำให้ผิดหวัง รับอานิสงส์โรงไฟฟ้าพลังงานลมขนาด 60 เมกะวัตต์ และงานในมือ 1,000 ล้านบาทหนุน "โศภชา ดำรงปิยวุฒิ์" เปิดสถานะทางการเงิน ตอกย้ำทุกอย่างยังแข็งแกร่ง พร้อมเดินหน้าสานต่อโครงการโรงไฟฟ้ากังหันลม กำลังการผลิต 60 เมกะวัตต์และ 50 เมกะวัตต์ ให้จำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ได้ตามแผนที่ได้วางไว้
นางสาวโศภชา ดำรงปิยวุฒิ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด(มหาชน) หรือ GUNKUL เปิดเผยถึงแนวโน้มผลประกอบการในครึ่งปีหลัง เชื่อว่าจะขยายตัวอยู่ในทิศทางที่ดีเมื่อเทียบกับครึ่งปีแรกที่ผ่านมา เนื่องจากทยอยรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม กำลังการผลิตขนาด 60 เมกะวัตต์ ของบริษัท พัฒนาพลังงานลม จำกัด( WED) และทยอยรับรู้รายได้จากการเข้าซื้อโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์สระแก้ว กำลังการผลิตขนาด 8 เมกะวัตต์ และบางกระเจ้า กำลังการผลิต 5 เมกะวัตต์ อีกทั้งปัจจุบันบริษัทยังมีงานในมือ (Backlog) ที่จะทยอยรับรู้รายได้รวมประมาณ 1,000 ล้านบาท
ประกอบกับในช่วงที่เหลือของปีนี้ บริษัทยังเตรียมเข้าร่วมประมูลโครงการต่างๆ ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) และการไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.) เช่น โครงการเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดินใน 4 จังหวัดใหญ่ ซึ่งมีมูลค่างานกว่าหมื่นล้านบาทภายใต้กรอบระยะเวลา 2 ปีนี้ และงานวางเคเบิ้ลใต้ทะเล เป็นต้น ซึ่งหากได้งานจะเป็นปัจจัยบวกที่ทำให้ผลการดำเนินงานปีนี้เติบโตได้อย่างมีศักยภาพมากยิ่งขึ้น
สำหรับผลประกอบการงวด 6 เดือน สิ้นสุด วันที่ 30 มิถุนายน 2560 ของบริษัทและบริษัทย่อยมี รายได้รวมเท่ากับ 2,194.49 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนเท่ากับ 1,496.07 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 698.42 ล้านบาท เพิ่มขึ้นอัตราร้อยละ 46.68 และมีกำไรสำหรับงวด (ส่วนของบริษัทใหญ่) จำนวน 313 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนเท่ากับ 267.70 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 45.63 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นอัตราร้อยละ 17.04 อย่างไรก็ตามหากพิจารณางบการเงินรวมเฉพาะไตรมาส2/2560 จะมีกำไร (ส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่) จำนวน 127.22 ล้านบาท เปรียบเทียบงวดเดียวกันกับปีก่อนแสดงจำนวน174.33 ล้านบาท ลดลงจำนวน 47.11 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 27.02 เป็นผลจากการบันทึกรายได้ขายไฟฟ้าลดลงเนื่องจากช่วงฤดูกาลที่มีลมต่ำและเกิดขึ้นเฉพาะในช่วงไตรมาส 2 ของปีเท่านั้น
"รายได้และกำไรงวดครึ่งปีแรกถือว่าออกมาอยู่ในทิศทางที่ดี และเชื่อมั่นว่าครึ่งปีหลังจะดีกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากจะมีรายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้าจากโครงการพลังงานลมขนาด 60 เมกะวัตต์ อีกทั้งมีงานในมือที่จะทยอยรับรู้รายได้อีกประมาณ 1,000 ล้านบาท และเตรียมเข้าร่วมประมูลงานใหม่ๆ จาก กฟภ.และกฟผ.อีกนับหมื่นล้านบาท จึงทำให้เชื่อว่าผลการดำเนินงานปีนี้จะเติบโตอยู่ในทิศทางที่ดี"
ประธานกรรมการบริหาร กล่าวต่อถึงภาพรวมฐานะการเงินของบริษัทและบริษัทย่อย ว่า ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2560 บริษัทและบริษัทย่อย มีสินทรัพย์รวม จำนวนทั้งสิ้น 26,724 ล้านบาท มีหนี้สินรวม 17,009 ล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้นรวม 9,715 ล้านบาท โดยบริษัทได้ไถ่ถอนและชำระหนี้ตั๋ว B/E ที่ถึงกำหนดเวลา ตลอดจนได้รับต่อตั๋ว B/E จากสถาบันการเงินตามปกติ และบริษัทได้รับการสนับสนุนวงเงินสินเชื่อระยะสั้นจากธนาคารพาณิชย์ ซึ่งเพียงพอต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ เพื่อรองรับสถานการณ์ของตลาดตราสารหนี้ชนิดหุ้นกู้ ประเภทจัดอันดับเครดิต กลับเข้าสู่ภาวะปกติต่อไปในอนาคตโดยบริษัทมีความพร้อมสำหรับการออกหุ้นกู้เนื่องจากได้รับการจัดอันดับเครดิต BBB stable จาก TRIS Rating ซึ่งบริษัทยังคงมุ่งมั่นและเร่งดำเนินการก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้ากังหันลม เพื่อให้สามารถจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ได้จำนวน 60 เมกะวัตต์ภายในไตรมาส1/2561 และอีกจำนวน 50 เมกะวัตต์ในไตรมาส3/ 2561 เพื่อให้เป็นไปตามแผนที่ได้วางไว้