กรุงเทพฯ--15 ส.ค.--เอ็ม ที มัลติมีเดีย
บมจ.ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) ("TOA" หรือ "บริษัทฯ") ผู้นำสีทาอาคารในไทย ได้รับอนุมัติให้เสนอขายหุ้นจากสำนักงาน ก.ล.ต. คาดเปิดจองซื้อหุ้น IPO และเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยภายในปีนี้ วางแผนระดมทุนขยายธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ พัฒนาและปรับปรุงสิทธิภาพภายในบริษัทฯ รวมถึงใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน เตรียมทยอยเปิดโรงงานใหม่จำนวน 3 แห่ง ที่อยู่ระหว่างก่อสร้างในต่างประเทศในปี 2561 เพื่อมุ่งสู่ผู้นำตลาดสีในภูมิภาคอาเซียน
นายพิเชษฐ สิทธิอำนวย กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินร่วม กล่าวว่า หลังจาก บมจ.ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ TOA ได้ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) เพื่อขอเสนอขายหุ้นสามัญให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) ล่าสุด สำนักงาน ก.ล.ต. ได้อนุมัติให้เสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO)
ปัจจุบัน TOA มีทุนจดทะเบียน 2,029 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 2,029 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1 บาท โดยทุนที่ออกจำหน่ายและเรียกชำระแล้วมีจำนวน 1,775 ล้านหุ้น และจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน (IPO) และหุ้นสามัญเดิม จำนวนไม่เกิน 507.6 ล้านหุ้น ซึ่งแบ่งเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายโดยบริษัทฯ จำนวนไม่เกิน 254.0 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเดิมที่เสนอขายโดยผู้ถือหุ้นเดิม (บริษัท ไวแบรนท์ โฮลดิ้ง ลิมิเต็ด) จำนวนไม่เกิน 253.6 ล้านหุ้น รวมคิดเป็นไม่เกินร้อยละ 25.02 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้
ด้านนายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินร่วม กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการกำหนดวันที่เหมาะสมในการเสนอขายหุ้น IPO โดยเบื้องต้นคาดว่าจะเข้าซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้ภายในปีนี้ โดย TOA จะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปใช้ขยายธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ นำไปใช้พัฒนาและปรับปรุงสิทธิภาพภายในบริษัทฯ รวมถึงใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินกิจการ
โดย ณ วันที่ 31 มีนาคม 2560 TOA มีโรงงานผลิต 8 แห่ง ใน 6 ประเทศ ในจำนวนนี้อยู่ในประเทศไทย 3 แห่ง และต่างประเทศอีก 5 แห่ง ได้แก่ เวียดนาม สปป.ลาว มาเลเซีย เมียนมาร์และกัมพูชา ประเทศละ 1 แห่ง มีกำลังการผลิตรวมประมาณ 88.0 ล้านแกลลอนต่อปี (ไม่รวมโรงงานผลิตในกัมพูชาภายใต้ TOA Skim Coat (Cambodia) Co., Ltd. ที่อยู่ระหว่างขอรับใบอนุญาต) และอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างโรงงานผลิตแห่งใหม่ในต่างประเทศอีก 3 แห่ง ได้แก่ ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งคาดว่าจะเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ในไตรมาส 2/61 ประเทศกัมพูชา ภายใต้ TOA Paint (Cambodia) Co., Ltd. ซึ่งคาดว่าจะเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในไตรมาส 4/61 และประเทศเมียนมาร์ ที่มีแผนย้ายโรงงานจากเมืองย่างกุ้งไปอยู่ที่เขตเศรษฐกิจติละวา คาดว่าจะเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในไตรมาส 3/61
ทั้งนี้ เมื่อรวมกำลังการผลิตของโรงงานผลิตทั้งสามแห่งเมื่อสร้างเสร็จ คาดว่ากำลังการผลิตในเขตประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนของ TOA จะเพิ่มขึ้นประมาณ 15.1 ล้านแกลลอนต่อปี หรือประมาณร้อยละ 17.1 ของกำลังการผลิตในปัจจุบัน (ไม่รวมโรงงานผลิตภายใต้ TOA Skim Coat (Cambodia) Co., Ltd.) ซึ่งจะส่งผลดีต่อศักยภาพการทำตลาดและสามารถเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดผลิตภัณฑ์สีและสารเคลือบผิวใน AEC เพื่อมุ่งสู่ผู้นำตลาดผู้ใช้สีและปกป้องพื้นผิวในระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยการเป็นผู้นำทางผลิตภัณฑ์และบริการตามวิสัยทัศน์ที่วางไว้