ขายตรงผ่าน'เน็ต'แรงไม่หยุด แอมเวย์พลิกตัวชูเป็นหัวหอก

ข่าวทั่วไป Tuesday December 19, 2000 09:00 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--19 ธ.ค.--ทูเดย์อินไทยแลนด์ดอทคอม
แม้จะเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่หมายเลขหนึ่งของโลกในธุรกิจขายตรง ครองส่วนแบ่งตลาดมากที่สุดติดต่อกันมายาวนานหลายสิบปี แต่เมื่อถึงภาวะสุกงอมยักษ์ใหญ่อย่างแอมเวย์ก็ไม่สามารถหลีกหนีภาวะการเปลี่ยนแปลงไปได้
ดิ๊ก เดอโวส และสตีฟ แวน แอน เดล สองผู้บริหารสูงสุดของแอมเวย์ได้เปิดสำนักงานใหญ่ในเมืองเอด้า รัฐมิชิแกน สหรัฐอเมริกา ให้สัมภาษณ์พิเศษสื่อมวลชนไทยว่า การดำเนินงานของแอมเวย์มาถึงระดับที่ใหญ่โตและซับซ้อนมาก การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นก็คือ กลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมได้ก่อตั้งบริษัทอัลติคอร์ อิงค์ 2000 ขึ้นมาเพื่อทำหน้าที่เป็นบริษัทแม่
เวลาเดียวกันได้แบ่งแยกธุรกิจออกเป็น 4 กลุ่มประกอบด้วย 1. บริษัทแอมเวย์ คอร์ปอเรชั่น 2000 ทำหน้าที่ดูแลธุรกิจขายตรงหลายชั้น MLM เช่นเดิม 2. บริษัทควิกสตาร์ อิงก์ 2000 ทำธุรกิจผสมผสานกันระหว่างให้บริการจับจ่ายซื้อของผ่าน อินเทอร์เน็ต และการดำเนินงานของนักธุรกิจอิสระ (ผู้จำหน่าย) 3. บริษัทกลุ่มธุรกิจแอ็กเซส อิงก์ เป็นหน่วยงานพัฒนาผลิตภัณฑ์ ผลิตและกระจายสินค้า โดยจะให้บริการกับบริษัทอื่นๆ ด้วย 4. บริษัทพิกซิส อินโนเวชั่นส์ อิงก์ 2000 ทำหน้าที่พัฒนาธุรกิจ-บริการ และผลิตภัณฑ์ใหม่ให้กับธุรกิจในกลุ่มอัลติคอร์ฯ และบริษัทอื่นๆ ที่สนใจ
สตีฟ แวน แอน เดล กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงจะทำให้การทำงานมีเป้าหมายชัดเจนขึ้น ยกตัวอย่างเช่น แอมเวย์ จะโฟกัสตลาดขายตรง ควิก สตาร์ฯจะมุ่งไปที่อินเทอร์เน็ต โอกาสในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และการสร้างธุรกิจใหม่ๆ ก็เร็วขึ้น
ขณะที่ดิ๊กเสริมว่า การเปลี่ยนแปลงจะทำให้มีพลังหนุน (SYNERGY) ซึ่งกันและกัน เป็นหนึ่งบวกหนึ่งที่มากกว่าสอง ทำให้ต่อไปแอมเวย์จะเป็นธุรกิจขายตรงด้วยการสนับสนุนจากอัลติคอร์ฯที่เป็นบริษัทแม่อย่างเต็มรูปแบบกว่าเดิม สำหรับเมืองไทยจะเห็นแต่เพียงแอมเวย์เท่านั้น สตีฟกล่าวว่า ภายหลังการปรับเปลี่ยนทำให้โครงสร้างรายได้เปลี่ยนไป แอมเวย์จะเป็นธุรกิจหลักที่ทำรายได้ให้ราว 75% ตามด้วยควิกสตาร์ฯ 20% แอ็กเซสฯอีก 5% ส่วนพิกซิสฯอยู่ในภาวะเพิ่งเริ่มต้น
ทั้งนี้ อัลติคอร์ อิงก์มีรายได้ในบัญชีปี 2543 ทั้งสิ้น 5.1 พันล้านเหรียญ หรือกว่า 2.2 แสนล้านบาท ผลจากการเปลี่ยนแปลงดิ๊กคาดหวังว่าจะทำให้การเติบโตของธุรกิจเป็นตัวเลข 2 หลักได้ ขณะเดียวกันเขาก็มองว่า ตลาดเอเชียรวมทั้งไทยยังเป็นตลาดที่สำคัญและเติบโตได้อีกมาก
การเติบโตของการขายสินค้าผ่านอินเทอร์เน็ตโดยเฉพาะยอดขายของควิกสตาร์ฯที่มีถึง 25% หลังจากการเปิดตัวเพียงปีเศษๆ ก็มีรายได้ถึง 1 ใน 4 สตีฟยอมรับว่า "ตลาดกำลังเกิดการเคลื่อนย้ายตัวไปสู่อินเทอร์เน็ต โดยมีจุดเริ่มอยู่ที่อเมริกาเหนือ"
อย่างไรก็ตาม สตีฟยืนยันว่า การผสมผสานระหว่างระบบขายตรงและขายผ่านอินเทอร์เน็ตจะทำให้มีความได้เปรียบเหนือคู่แข่งอื่น กระแสการตื่นตัวดังกล่าวน่าจะเป็นเหตุผลส่วนหนึ่งที่ทำให้ดิ๊ก เดอโวส ต้องกล่าวว่า "ใน 5 ปีนี้เราต้องเคลื่อนตัวเร็วมาก และทำให้ม้าแก่ (OLD HORSE) ตัวนี้ต้องเปลี่ยนไป"
จอหน์ ปาร์กเกอร์ รองประธานผู้ขายและการตลาด บริษัท ควิก- สตาร์ฯกล่าวว่า ในปีแรกควิกสตาร์ฯมีรายได้จากการขายสินค้าผ่านอินเทอร์เน็ตแล้วถึง 518 ล้านเหรียญ และเป็นอันดับ 5 ของธุรกิจนี้ โดยมีอะเมซอนดอตคอมเป็นผู้นำตลาด และเชื่อว่าในอนาคตธุรกิจนี้จะมีบทบาทมากหลังจากมีการเกิดขึ้นของเว็บทีวี และ WAP บนโทรศัพท์มือถือ
รายงานข่าวอย่างไม่เป็นทางการระบุว่า ปัจจุบันควิกสตาร์ฯมียอดขายสูงถึง 5 ล้านเหรียญต่อวันแล้ว ทำให้น่าเชื่อว่าปีนี้การขายสินค้าผ่านช่องทางนี้จะเพิ่มเป็น 1,000 ล้านเหรียญแน่นอน
นายปรีชา ประกอบกิจ ผู้จัดการ บริษัท แอมเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเสริมว่า การค้าขายบนอินเทอร์เน็ตอย่างแพร่หลายในเมืองไทยจะไม่เกิดขึ้นในเร็ววันนี้ อย่างไรก็ตาม ภายใน 1 ปีนับจากนี้แอมเวย์จะเปิดธุรกิจลักษณะนี้ขึ้นเพื่อให้บริการกับนักธุรกิจอิสระ (IBO) และกลุ่มผู้ซื้อที่เป็นสมาชิก (MEMBER) ในรูปแบบของ "ธุรกิจ-ธุรกิจ"
ทั้งนี้ รูปแบบการดำเนินการจะขาดความสมบูรณ์แบบในการส่งสินค้า ผู้ซื้อจะต้องเป็นผู้ไปรับสินค้าจากคลัง หรือร้านพิกแอนด์เพย์ด้วยตัวเอง--จบ--
-สส-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ