กรุงเทพฯ--18 ส.ค.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ร่วมกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายจัดงานสัมมนาระดับชาติ เรื่องความปลอดภัยทางถนน ครั้งที่ 13 ภายใต้แนวคิด "ลงทุนเพื่อความปลอดภัยทางถนนที่ยั่งยืน (Invest for Sustainable Road Safety)" ในวันที่ 6 – 7 ธันวาคม 2560 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา กรุงเทพมหานคร เพื่อเป็นเวทีในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้แนวคิดด้านการจัดการความปลอดภัยทางถนน รวมถึงส่งเสริมการใช้กลไกประชารัฐในการขับเคลื่อนและแก้ไขปัญหาในระดับพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะทำให้เกิดการขยายผลรูปแบบการลดอุบัติเหตุทางถนนที่สามารถนำไปปรับใช้ได้อย่างเหมาะสมและสร้างมาตรฐานการสัญจรของประเทศไทยให้มีความปลอดภัยอย่างยั่งยืน
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า อุบัติเหตุทางถนนเป็นปัญหาสำคัญที่สร้างความสูญเสียต่อเศรษฐกิจและสังคมทั่วโลก องค์การสหประชาชาติจึงได้ประกาศให้ปี พ.ศ. 2554 – 2563 เป็นทศวรรษแห่งความปลอดภัยทางถนน (Decade of Action for Road Safety) ตามปฏิญญามอสโก และเรียกร้องให้ประเทศสมาชิกให้ความสำคัญและผลักดันเรื่องความปลอดภัยทางถนนให้บังเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม โดยกำหนดเป้าหมายลดอัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนลงร้อยละ 50 ภายในปี พ.ศ. 2563 สำหรับประเทศไทย รัฐบาล โดยพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนน โดยกำหนดให้ปี พ.ศ. 2554 – 2563 เป็นทศวรรษแห่งความปลอดภัยทางถนนของประเทศไทย มุ่งเน้นการบูรณาการทุกภาคส่วนดำเนินการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนของประเทศอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น เพื่อให้การบริหารจัดการลดอุบัติเหตุทางถนนมีประสิทธิภาพ กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะเลขานุการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน จึงได้ร่วมกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายจัดงานสัมมนาระดับชาติ เรื่องความปลอดภัยทางถนน ครั้งที่ 13 ภายใต้แนวคิด "ลงทุนเพื่อความปลอดภัยทางถนนที่ยั่งยืน(Invest for Sustainable Road Safety)" ในวันที่ 6 – 7 ธันวาคม 2560 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทคบางนากรุงเทพมหานคร เพื่อเป็นเวทีในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้แนวคิดด้านการจัดการความปลอดภัยทางถนนที่ครอบคลุมทุกมิติพร้อมนำกลไก "ประชารัฐ" มาบูรณาการขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนนในระดับพื้นที่ รวมถึงผลักดันให้ชุมชนระดับท้องถิ่นเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการ ป้องกัน แก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนน เพื่อเป็นต้นแบบการทำงานด้านอุบัติเหตุทางถนนในระดับพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะการจัดการความเสี่ยงที่เป็นสาเหตุหลักของการเกิดอุบัติเหตุทางถนน อาทิ การป้องกันอุบัติเหตุจากจักรยานยนต์ รถโดยสารสาธารณะ การแก้ไขจุดเสี่ยงอุบัติเหตุ ซึ่งจะทำให้เกิดการขยายผลรูปแบบการลดอุบัติเหตุทางถนนที่สามารถนำไปปรับใช้ได้อย่างเหมาะสมและสร้างมาตรฐานการสัญจรของประเทศไทยให้มีความปลอดภัยอย่างยั่งยืน
นายฉัตรชัย กล่าวต่อไปว่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้จัดทำแผนแม่บทความปลอดภัยทางถนน พ.ศ. 2560 – 2563 ซึ่งมุ่งเน้นการจัดการปัญหาอุบัติเหตุทางถนนที่ยั่งยืน การพัฒนาผู้ขับขี่ที่มีประสิทธิภาพ และการลดความรุนแรงของการเกิดอุบัติเหตุ โดยให้ความสำคัญกับการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดและต่อเนื่อง มุ่งเน้นการบริหารจัดการในมิติเชิงพื้นที่ (Area Approach) โดยบูรณาการทุกภาคส่วนร่วมป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ควบคู่กับการดำเนินมาตรการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ เพื่อเผยแพร่ความรู้และสร้างความตระหนักในการใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย