กรุงเทพฯ--21 ส.ค.--กลุ่มสารนิเทศการคลัง กระทรวงการคลัง
ธ.ก.ส.นำร่อง ขจัดหนี้นอกระบบให้เป็นศูนย์ ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ตามนโยบายกระทรวงการคลัง มุ่งเน้นปรับวิธีคิด สร้างอาชีพเสริมเพิ่มรายได้ พร้อมปล่อยสินเชื่อเป็นค่าใช้จ่ายฉุกเฉินป้องกันการก่อหนี้รอบใหม่
( 21 สิงหาคม 2560) ณ ห้องประชุมวี-วัน 1-2 โรงแรมวี-วัน อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมานายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่าธ.ก.ส. ได้ดำเนินโครงการแก้ไขปัญหาหนี้สินนอกระบบสำหรับเกษตรกร และ ครอบครัว โดยให้สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยผ่อนปรน เพื่อนำไปชำระหนี้สินนอกระบบ เป็นการลดภาระทางการเงิน ให้กับเกษตรกร
โดยธ.ก.ส. เตรียมวงเงินกู้ไว้รวม10,000 ล้านบาท ให้กู้สูงสุดได้รายละไม่เกิน 100,000 บาท กรณีใช้บุคคลค้ำประกัน และสูงสุดไม่เกิน 150,000 บาท กรณีใช้ที่ดินจำนองค้ำประกัน คิดดอกเบี้ยร้อยละ 1 บาทต่อเดือน หรือ ร้อยละ 12 บาทต่อปี ผลดำเนินงาน ปัจจุบัน จ่ายสินเชื่อแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรได้แล้ว 40,857 ราย เป็นเงินสินเชื่อ 3,978 ล้านบาท ซึ่งนอกจากการนำหนี้นอกระบบ ให้เข้ามาอยู่ในระบบแล้วธ.ก.ส.ยังมุ่งเน้นการปรับเปลี่ยนวิธีคิด ในการดำเนินชีวิต ของเกษตรกรด้วย การให้ความรู้ การทำบัญชีครัวเรือน การประหยัดอดออม การสร้างรายได้จากอาชีพเสริม เช่น การทำกระยาสารท การทำข้าวเม่า ผ้าห่ม เป็นต้น
ซึ่งจะทำให้การแก้ปัญหามีความยั่งยืน มากขึ้น และเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกษตรกร กลับไปก่อหนี้นอกระบบขึ้นอีก ธกส. ได้เตรียมวงเงินสินเชื่ออีกจำนวน 5,000 ล้านบาท เพื่อให้เกษตรกร ดังกล่าว สามารถกู้เงินกรณีมีความจำเป็น เช่น ค่าใช้จ่ายฉุกเฉินในครัวเรือน ต่างๆ ค่ารักษาพยาบาล ค่าเล่าเรียนบุตร เป็นต้น โดยมีการผ่อนคลาย หลักประกัน เพื่อให้เกษตรกรเข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายขึ้น ปัจจุบัน จ่ายสินเชื่อนี้แล้วจำนวน 2,780ล้านบาทช่วยเกษตรกรได้จำนวน 58,352ราย
"สำหรับ จังหวัดนครราขสีมา ธ.ก.ส. จะดำเนินการเป็นจังหวัดนำร่องในการขจัดหนี้นอกระบบให้เป็นศูนย์ ตามนโยบาย ของ กระทรวงการคลังด้วยการ เปิดจุดบริการ ให้คำปรึกษาแนะนำ โดยมุ่งเน้นเกษตรกรกลุ่มเป้าหมาย ที่ลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อย และ แจ้งว่ามีหนี้นอกระบบ สำหรับการดำเนินการ จะมีการให้สินเชื่อเพื่อนำหนี้นอกระบบ ให้เข้ามาอยู่ในระบบ มีการอบรมให้ความรู้ เกษตรกรเพื่อปรับเปลี่ยนวิธีคิดในการดำเนินชีวิตโดยน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มาเป็นแนวปฏิบัติ รวมทั้ง การสนับสนุนสินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายฉุกเฉิน กรณีจำเป็นเพื่อป้องกัน มิให้เกษตรกรหวนกลับไปเป็นหนี้นอกระบบอีก ทั้งนี้จะทำงานร่วมกับส่วนงานต่างๆ อาทิ กระทรวงการคลัง กระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม สำนักงานกองทุนหมู่บ้าน ฯ โดยใกล้ชิดเพื่อให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้" นายอภิรมย์ กล่าว