กรุงเทพฯ--23 ส.ค.--สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน
นายวีระพล จิรประดิษฐกุล กรรมการกำกับกิจการพลังงาน ในฐานะโฆษก กกพ. เปิดเผยว่า กกพ. ได้กำหนดหลักเกณฑ์ในการจัดลำดับการรับซื้อไฟฟ้าในแต่ละภูมิภาคให้มีความชัดเจนขึ้น และเพื่อให้การรับซื้อไฟฟ้าในโครงการ SPP Hybrid Firm ครบเป้าหมายการรับซื้อจำนวน 300 เมกะวัตต์ โดยหากจังหวัดภูเก็ต และอำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี รับซื้อไฟฟ้าได้ไม่ครบตามเป้าหมาย ให้นำส่วนที่เหลือจากพื้นที่ดังกล่าวไปพิจารณาจัดหาเพิ่มเติมจากผู้ยื่นข้อเสนอขอผลิตไฟฟ้ารายเล็ก (SPP) ภายในพื้นที่ภาคใต้ก่อน และในกรณีที่ภูมิภาคใดรับซื้อไฟฟ้าได้ไม่ครบตามเป้าหมายที่กำหนด ก็ให้พิจารณารับซื้อไฟฟ้าเพิ่มเติมจากผู้ยื่นข้อเสนอในครั้งเดียวกัน โดยจะพิจารณาข้อเสนออัตราส่วนลดของ FiTF จากมากไปน้อยจนครบข้อเสนอของผู้ยื่นที่ผ่านการประเมินข้อเสนอด้านเทคนิค
ในกรณีที่ผู้ยื่นเสนอขายเกินกว่าศักยภาพคงเหลือของระบบไฟฟ้าหรือเป้าหมายการรับซื้อรวม ผู้ยื่นข้อเสนอจะได้รับการพิจารณาคัดเลือก หากยินยอมปรับลดปริมาณพลังไฟฟ้าที่เสนอขายลง ซึ่งจากการปรับปริมาณการรับซื้อไฟฟ้ารายภูมิภาคนี้ จะทำให้ปริมาณการรับซื้อไฟฟ้าในบางพื้นที่อาจมากกว่าเป้าหมายการรับซื้อที่กำหนดตามข้อ 6 ในประกาศฉบับเดิมได้ แต่ปริมาณการรับซื้อไฟฟ้ารวมต้องไม่เกิน 300 เมกะวัตต์ ซึ่งขณะนี้ กกพ. อยู่ระหว่างการเปิดรับฟังความคิดเห็นการปรับปรุงประกาศเชิญชวนการรับซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็กในโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในแบบ SPP Hybrid Firm (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... เพื่อให้เป็นไปตามมติการประชุมของคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2560
นอกจากนี้ กกพ. ยังได้แก้ไขกำหนดระยะเวลาให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และผู้ที่ได้รับคัดเลือกลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้าจากภายในวันที่ 13 ธันวาคม 2563 เป็นภายในวันที่ 13 ธันวาคม 2562 ในประกาศฉบับเดิม เพื่อให้สอดคล้องกับเงื่อนไขข้อ 38 ที่ให้ผู้ได้รับคัดเลือกต้องลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับ กฟผ. ภายใน 2 ปี นับถัดจากวันที่ กกพ. ประกาศรายชื่อผู้ได้รับคัดเลือก
"อย่างไรก็ดี กกพ. ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นครั้งนี้ผ่านทางเว็บไซต์ www.erc.or.th ตั้งแต่วันที่ 10 - 24 สิงหาคม 2560 ภายในเวลา 17.00 น. กกพ. จึงขอเชิญชวนผู้มีส่วนได้เสียได้เข้าร่วมแสดงความคิดเห็นในครั้งนี้ เพื่อที่ กกพ. จะนำความคิดเห็นและข้อเสนอแนะมาพิจารณาปรับปรุงหลักเกณฑ์ วิธีการและการคัดเลือกให้เกิดความเป็นธรรม โปร่งใสเพื่อเสริมสร้างการแข่งขันต่อทุกฝ่าย" นายวีระพล กล่าวย้ำ