บัวนา วิสต้า อินเตอร์เนชั่นแนล ภูมิใจเสนอภาพยนตร์วัยรุ่นแนวดราม่าเรื่อง crazy / beautiful

ข่าวทั่วไป Friday July 13, 2001 09:56 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--13 ก.ค.---บัวนา วิสต้า อินเตอร์เนชั่นแนล
crazy / beautiful
เด็กนักเรียนไฮสกูลสองคนที่มาจากต่างชนชั้นกันตกหลุมรักกันในภาพยนตร์วัยรุ่นแนวดราม่าที่สุดเซ็กซี่และสุดยั่วเย้าของทัชสโตนพิคเจอร์สเรื่อง crazy/beautiful
นิโคล โอ๊คลีย์ (เคิร์สเตน ดันสต์) คือลูกสาวเจ้าปัญหาของสมาชิกสภาคองเกรสที่แสนร่ำรวย (บรู๊ซ เดวิสัน) นิโคลเข้าเรียนที่โรงเรียนในชุมชนชั้นสูงของย่านแปซิฟิก พาลิเซดส์, แคลิฟอร์เนีย ด้วยความดื้อรั้น นิโคลพยายามทำตัวให้เป็นที่สนใจของนักเรียนหนุ่มลาตินสุดหล่อ คาร์ลอส นูเนซ (เจย์ เฮอร์นันเดซ) หนุ่มนักเรียนเรียนดีที่ต้องทนนั่งรถเมล์จากเขตแอลเอตะวันออกมานานสองชั่วโมงในทุกเช้าเพื่อมาเรียนที่โรงเรียนอันทรงเกียรติในย่านผู้ดีของนิโคล
ในขณะที่เพื่อนๆ และครอบครัวของนิโคลต่างคาดกันว่าทั้งคู่คงจะคบหากันได้ไม่นาน แต่แล้ว การทำตัวเจ้าชู้เพื่อท้าทายของนิโคลกลับเริ่มกลายเป็นความรักที่แท้จริง อย่างไรก็ดี นิสัยที่เป็นคนชอบทำลายตัวเองของนิโคลกำลังคุกคามความทะเยอทะยานของคาร์ลอส และนำทั้งคู่ไปสู่การเผชิญหน้าทั้งทางด้านอารมณ์และจุดพลิกผันในชีวิต
crazy/beautiful เป็นเสมือนคัมภีร์ที่พูดถึงพลังและความรู้สึกแรงกล้าของรักแรก และยังเผยให้เห็นอีกด้วยว่า สองวัยรุ่นที่ต่างมีจิตวิญญาณที่ปวดร้าว เมื่อมาอยู่ด้วยกันแล้ว ทั้งคู่จะสามารถเยียวยารักษากันและกันได้อย่างไร
ทัชสโตน พิคเจอร์สภูมิใจเสนอภาพยนตร์เรื่อง crazy/beautiful ผลงานการกำกับของจอห์น สต็อคเวลล์ บทภาพยนตร์โดยฟิล เฮย์ และแม็ตต์ แมนฟรีดี้ ผู้อำนวยการสร้างของภาพยนตร์เรื่องนี้ได้แก่ แมรี่ เจน อัฟแลนด์ และแฮร์รี่ เจ อัฟแลนด์ และเรเชล เฟฟเฟอร์ โดยมีกาย รีเดล ทำหน้าที่ผู้อำนวยการสร้างบริหาร ริค ดัลลาโก้ทำหน้าที่ผู้อำนวยการสร้างร่วม ภาพยนตร์เรื่องนี้จัดจำหน่ายโดยบัวนา วิสต้า พิคเจอร์ส ดิสทริบิวชั่น
crazy/beautiful คือเรื่องราวของนิโคล เด็กวัยรุ่นสาววัย 17 ปี (เคิร์สเตน ดันสต์) ที่มักจะทำตัวมีปัญหากับบรรดาผู้ใหญ่รอบตัวเธอ เธอเป็นลูกสาวที่น่าผิดหวังในสายตาของสมาชิกสภาคองเกรส ทอม โอ๊คลีย์ (บรู๊ซ เดวิสัน) พ่อที่เหมือนจะห่างเหินกันไปเรื่อยๆ และคอร์ตนีย์ ภรรยาคนที่สองของพ่อ (ลูซินด้า เจนนีย์) การที่ต้องเติบโตมาโดยขาดแม่ที่แท้จริง ทำให้วัยรุ่นสาวผู้นี้ผลาญเวลาของตัวเองด้วยการโดดเรียน ไปงานปาร์ตี้ และเที่ยวเล่นกับเพื่อนๆ อยู่เป็นประจำ ซึ่งหนึ่งในเพื่อนร่วมแก๊งค์ของนิโคล ก็คือ แม็ดดี้ (ทาริน แมนนิ่ง) เพื่อนสาวร่วมแก๊งค์กวนเมืองของนิโคล
แต่แล้วอาการเบื่อๆ เซ็งๆ ของนิโคลก็มีอันต้องพบกับการสั่นสะเทือน เมื่อเธอพบว่าตัวเองเกิดปิ๊งส์หนุ่มที่ชื่อว่าคาร์ลอส นูเนซ (เจย์ เฮอร์นันเดซ) นักกีฬาโรงเรียนและยังเป็นนักเรียนเรียนดีที่มาจากคนละชนชั้นกับนิโคล
คู่รักที่เหมือนมาจากคนละขั้วโลกช่างดูเหมือนคู่รักที่ไร้หวัง
ในขณะที่คาร์ลอสทุ่มเททุกอย่างให้กับโรงเรียนและอนาคต เขาเป็นนักเรียนความประพฤติดี ปฏิบัติตามกฏเกณฑ์ แต่นิโคลกลับเป็นพวกบ้าระห่ำ และชอบแหกกฏทุกอย่างที่ขว้างหน้า เธอเป็นเด็กสาวชนชั้นสูงที่ชีวิตมีพร้อมทุกอย่าง แต่กลับไม่เห็นค่าของสิ่งใดเลย ส่วนคาร์ลอสคือเด็กหนุ่มจากชนชั้นยาจกที่ยากไร้แต่กลับเห็นค่าของทุกอย่างในชีวิต
โลกที่แตกต่างกันของทั้งสองคนต้องสั่นคลอนเพราะความสัมพันธ์ที่ต่างชนชั้นและต่างวัฒนธรรมกัน เพื่อนๆ ของนิโคลต้องสับสนเมื่อเห็นนิโคลหลงใหลในตัวเด็กหนุ่มที่ดูทื่อๆ ในขณะที่ครอบครัวและเพื่อนๆ ของคาร์ลอสต่างเป็นห่วงว่า นิโคลที่เป็นเด็กสาวท่าทางบ้าระห่ำจะทำให้อนาคตของคาร์ลอสที่กำลังสดใสต้องมีอันเป็นไป
ในขณะที่ทุกฝ่ายต่างพยายามแยกทั้งคู่ให้ห่างจากกัน นิโคลและคาร์ลอสจึงต้องตัดสินใจว่าพวกเขาจะหนีให้พ้นจากปัญหา หรือจะหยัดยืนและพยายามหาจุดที่พวกเขาจะยืนอยู่ร่วมกันได้
เกี่ยวกับงานสร้าง
crazy/beautiful มีจุดกำเนิดขึ้นด้วยความคิดของทีมผู้อำนวยการสร้าง แมรี่ เจน อัฟแลนด์ และแฮร์รี่ เจ อัฟแลนด์ เจ้าของผลงานอย่าง Not Without My Daughter, Night and the City, Raging Bull, Blade Runner, Taxi Driver และ Snow Falling on Cedars มิสอัฟแลนด์อธิบายถึงความเป็นมาว่า "เราคิดจะสร้างภาพยนตร์ตลกวัยรุ่นสักเรื่องหนึ่งอยู่แล้ว จากนั้น ทางผู้บริหารคนหนึ่งของทัชสโตน พิคเจอร์สก็แนะมาว่าเราน่าจะสร้างภาพยนตร์รักวัยรุ่นที่เนื้อหาจริงจังขึ้นมาหน่อย เราค่อนข้างทึ่งกับไอเดียของเขา เราได้พบกับมือเขียนบท ฟิล เฮย์ และแม็ตต์ แมนฟรีดี้ ซึ่งเป็นมือเขียนบทที่มีความสามารถที่เราอยากจะร่วมงานด้วยอยู่แล้ว และเราก็ได้พูดคุยกันเกี่ยวกับการสร้างเรื่องราวที่จริงจังและให้ความรู้สึกลึกซึ้ง พวกเราเลยลงเอยด้วยเรื่องราวของเด็กวัยรุ่นสองคนที่มาจากชีวิตคนละแบบ แต่เราก็จัดการหักมุมเรื่องราวให้มันน่าสนใจขึ้น"
ผู้กำกับจอห์น สต็อคเวลล์กล่าวว่า "นี่คือเรื่องราวที่มีความโดดเด่นมาก ในเรื่อง crazy/beautiful เด็กสาวผิวขาวที่ฐานะร่ำรวยที่รับบทแสดงโดยเคิร์สเตน ดันสต์ เป็นเด็กสาวที่มีนิสัยชอบทำอะไรแหวกแนว และเหมือนกับชอบทำลายตัวเอง เมื่อเธอได้มาพบและตกหลุมรักกับคาร์ลอส เด็กหนุ่มเชื้อสายลาตินอนาคตไกลที่รับบทแสดงโดยเจย์ เฮอร์นันเดซ ความไม่ยั้งคิดของเธอเหมือนกับจะส่งผลทำลายอนาคตของเขาไปด้วย ถึงแม้ว่าพ่อผู้ร่ำรวยของนิโคลจะคัดค้านความสัมพันธ์ครั้งนี้ แต่มันไม่ใช่เพราะเขาเป็นห่วงว่าเด็กหนุ่มลาตินคนนี้จะทำลายลูกสาวเขา เขาเป็นห่วงว่าลูกสาวเขาจะทำลายอนาคตอันสดใสของเด็กหนุ่มลาตินคนนี้มากกว่า"
ผู้อำนวยการสร้างเรเชล เฟฟเฟอร์ ซึ่งมีผลงานอำนวยการสร้างเป็นภาพยนตร์ที่ได้รับเสียงวิจารณ์ในทางชื่นชมอย่าง The Horse Whisperer, A Civil Action และ A Few Good Men กล่าวเสริมว่า "ฉันต้องการที่จะสร้างภาพยนตร์เพื่อลูกสาววัยรุ่นของฉัน ภาพยนตร์เรื่องนี้แสดงให้เห็นถึงความลึกซึ้งของความเจ็บปวดและความสุขที่พวกวัยรุ่นจะต้องพบเจอ พวกเขาตอบรับต่อความเจ็บปวดอย่างจริงจัง และฉันคิดว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ก็เป็นเช่นนั้นเหมือนกัน แต่มันก็ให้ความนับถือต่อพวกวัยรุ่น มันแสดงให้เห็นถึงความกระตือรือร้นของการใช้ชีวิตอย่างคุ้มค่าที่สุด รวมไปถึงการแสดงให้เห็นถึงช่วงเวลาที่สุดประทับใจระหว่างการเป็นเด็กและการตกหลุมรักใครเป็นครั้งแรก การพยายามที่จะปลดตัวเองให้พ้นจากการปกครองของพ่อแม่ และในเวลาเดียวกัน พวกเขาก็ยังต้องการพ่อแม่อยู่"
ฟิล เฮย์ มือเขียนบทของภาพยนตร์เรื่องนี้กล่าวเสริมว่า "แม็ตต์ แมนฟรีดี้) กับผมต้องการจะสร้างภาพยนตร์ที่มีสโคปทางอารมณ์และแตกต่างไปจากสิ่งที่ทุกคนเคยเห็นกันอยู่เป็นประจำเมื่อเรื่องราวพูดถึงตัวละครที่เป็นวัยรุ่น เราไม่อยากเขียนบทให้มันออกมาดูเบาๆหรือไร้แก่นสาร crazy/beautiful เป็นภาพยนตร์ที่นำเสนอตัวละครวัยรุ่นอย่างจริงจังมาก"
แมนฟรีดี้ มือเขียนบทอธิบายเสริมว่า "อีกแง่มุมหนึ่งของการเขียนบทให้กับภาพยนตร์เรื่องนี้ที่ทำให้เราสนใจ ก็คือ โอกาสที่จะสร้างสรรค์ตัวละครวัยรุ่นที่มีความหลากหลาย และแสดงให้เห็นถึงการดิ้นรนของพวกเขา ความขัดแย้ง และปฏิบัติต่อพวกเขาด้วยความเป็นหนึ่งเดียว สำหรับเราเป็นเรื่องสำคัญมากที่เราจะต้องจัดการกับเนื้อหาและอารมณ์ของตัวละครอย่างรอบคอบ"
บรรดามือเขียนบทของภาพยนตร์เรื่องนี้จะต้องสำนึกอยู่ตลอดเวลาที่จะต้องคอยเลี่ยงอันตรายของการแสดงถึงลักษณะโดยรวมและสิ่งที่เหมือนกันของสองวัฒนธรรมที่พูดถึงในภาพยนตร์เรื่องนี้ เฮย์กับแมนฟรีดี้เห็นพ้องต้องกัน "สิ่งหนึ่งที่ทำให้เรามีความสุขจริงๆ ก็คือ การที่เราสามารถสร้างตัวละครที่เป็นคนลาตินที่ไม่ใช่ตัวสร้างปัญหา แต่เป็นในทางตรงกันข้าม สำหรับเรา มันน่าทึ่งมากที่ได้แสดงให้เห็นถึงด้านที่แตกต่างออกไปจากสิ่งที่คุณมักจะได้เห็นในเรื่องราวความรักข้ามเชื้อชาติ เราต้องการแสดงให้เห็นถึงการต่อต้านจากครอบครัวของคาร์ลอส และแสดงให้เห็นอีกว่าพวกเขาจะได้ผลประโยชน์ในอนาคตของคาร์ลอสขนาดไหน และทำไมพวกเขาถึงคัดค้านที่คาร์ลอสไปคบหากับเด็กสาวผิวขาวที่หัวรุนแรง ความไม่พอใจของพวกเขาไม่ได้อยู่ที่เรื่องวัฒนธรรมหรือสถานะทางชนชั้นแต่อย่างใด"
การเลือกตัวนักแสดงหญิงที่จะมารับบทนั้นเป็นไปอย่างราบรื่นที่สุดสำหรับผู้กำกับและผู้อำนวยการสร้าง ทีมงานเห็นพ้องต้องกันมาตั้งแต่ต้นว่าเคิร์สเตน ดันสต์นี่แหละคือดาราที่เหมาะจมาเล่นเป็นเด็กสาวผิวขาวที่ร่ำรวยที่เป็นคนอารมณ์ไม่มั่นคง แต่ได้มาพบเนื้อคู่เป็นเด็กหนุ่มเชื้อสายลาตินที่แสนยากจน
ตามที่ผู้กำกับสต็อคเวลล์กล่าว "ผมเคยได้ยินคำชมเกี่ยวกับตัวเคิร์สเตนจากปากผู้กำกับและผู้อำนวยการสร้างมาหลายคนแล้ว เธอเป็นนักแสดงที่เก่ง และผมก็ไม่คิดว่าก่อนหน้านี้เธอจะเคยมีโอกาสได้แสดงความสามารถออกมาอย่างเต็มที่ที่สุด เมื่อตอนที่เราต้องทำการเลือกตัวนักแสดงสาวที่จะมารับบทที่มีความซับซ้อนนี้ ผมเดินทางไปแคนาดา ซึ่งเป็นที่ที่เคิร์สเตนกำลังแสดงภาพยนตร์อีกเรื่องหนึ่งอยู่ ผมไปพบกับเธอที่นั่น เธอเป็นคนที่มีความกระตือรือร้นมาก แล้วก็ค่อนข้างจะมีคุณสมบัติที่อาจดูแตกต่างจากบุคลิกอย่างที่เราต้องการให้มีในภาพยนตร์เรื่อง crazy/beautiful นี้ เธอเข้ากันได้ดีกับพ่อแม่ แล้วเธอก็เป็นเด็กสาวที่มีความมั่นคงทางด้านจิตใจ เธอไม่ได้มีลักษณะแบบนิโคล โอ๊คลีย์อย่างที่เราได้คิดเอาไว้ แต่วันแรกของการถ่ายทำ เธอก็มาปรากฏตัวในกองถ่าย แล้วก็กลายเป็นอีกคนหนึ่งไปเลย เธอดูจะมีลักษณะที่ดูเก็บกดแบบนิโคล ซึ่งเธอออกมาทั้งทางด้านน้ำเสียงและภาษากาย ทีมงานและผมยังถึงกับยืนอึ้งไปเลยเมื่อได้เห็น"
"เธอเป็นคนตรงไปตรงมา เปิดเผย และกล้าหาญ" ผู้อำนวยการสร้างเรเชล เฟฟเฟอร์ กำลังพูดถึงความทุ่มเทที่เคิร์สเตนมีให้กับภาพยนตร์เรื่อง crazy/beautiful "เธอต้องการความท้าทายที่จะมาแสดงเป็นนิโคล และทำทุกอย่างตามที่บทต้องการ ตัวอย่างเช่น เคิร์สเตนจะมีผมที่ยาวตรงและสวยมาก ซึ่งเธอไม่สนเลยเม่อเราบอกว่าเราอยากให้เธอตัดผมให้สั้นลง เธอไม่สนเมื่อเราบอกว่าเธอไม่ควรแต่งหน้ามากเกินไป เพราะเธอจะต้องดูกร้านๆ หน่อยในบทนี้ ซึ่งเธอก็ยอมรับแต่โดยดี ตามปกติแล้ว เธอมักจะเล่นเป็นเด็กสาวนิสัยดี เป็นเพื่อนที่แสนดี แล้วนี่ก็คงจะเป็นครั้งแรกที่เธอได้แสดงภาพยนตร์ที่เหตุการณ์ทุกอย่างเกิดขึ้นรอบตัวเธอ เธออินกับตัวละครตัวนี้และกลายเป็นตัวละครไปทั้งตัว มันยอดเยี่ยมมาก คุณคงไม่ได้เห็นการแสดงแบบนี้ทุกวันหรอกนะ"
"บทนิโคลเป็นบทที่มีลักษณะตรงกันข้ามกับตัวละครทุกตัวที่ฉันเคยแสดงมาเลย" เคิร์สเตน ดันสต์บอก "มันเป็นบทที่ดูเถื่อน ดูสมจริง แล้วก็คงไม่เคยมีใครเคยได้เห็นฉันเล่นบทแบบนี้มาก่อนแน่ ตัวละครตัวนี้จะไม่มีความทะเยอทะยานในชีวิต เธอเป็นคนที่ไม่มั่นคงทางอารมณ์ และมีเรื่องราวให้ต้องคิดมาก ซึ่งดูแตกต่างจากฉันไปเลย ฉันดีใจที่ผู้กำกับจอห์น สต็อคเวลล์กับทีมงานคนอื่นๆ มีความศรัทธาในตัวฉันกับภาพยนตร์เรื่องนี้"
สำหรับบทสำคัญอีกบทหนึ่งอย่างคาร์ลอส นูเนซ เด็กหนุ่มชาวลาตินที่มีความมุ่งมั่นทางด้านการศึกษา และมีวินัยจากย่านบอยล์ไฮต์ส ที่มาตกหลุมรักนิโคล ทางทีมผู้สร้างตัดสินใจเลือกนักแสดงหน้าหน้าใหม่ เจย์ เฮอร์นันเดซ
"กว่าจะได้ตัวเจย์มาเราต้องตระเวณเดินทางค้นหากันทั่วประเทศ" ผู้กำกับสต็อคเวลล์เล่า "ซึ่งก็ตลกดี เพราะที่จริงเจย์เป็นหนึ่งในนักแสดงกลุ่มแรกที่เราเรียกมาพบในลอสแอนเจลิส แต่เราก็ไม่คิดที่จะตัดสินใจเลือกคนๆ แรกที่เดินเข้ามาเทสต์หน้ากล้องแน่ เราจ้างแคสติ้งไดเร็กเตอร์หลายคน แล้วเราก็เดินทางไปนิวยอร์ก, ชิคาโก้, บอสตัน, เม็กซิโก ซิตี้ แม้กระทั่งที่สเปน เพื่อตามหาคาร์ลอสของเรา แต่ไม่มีใครมีคุณสมบัติอย่างที่เจย์มี เมื่อตอนที่เขาเดินเข้ามาทดลองอ่านบทให้เราฟังครั้งแรก เขาก็ทำให้พวกเขาต้องทึ่งไปตามๆ กัน"
ตามที่ผู้อำนวยการสร้างแมรี่ เจน อัฟแลนด์เล่า "ขณะที่เรากำลังจัดการเรื่องบทกันอยู่นั้น มีคนพูดถึงเจย์ให้แฮร์รี่กับฉันฟังว่าเขาน่าจะเป็นคาร์ลอสได้ เมื่อเราเริ่มต้นคัดเลือกนักแสดง เขาเป็นคนแรกที่เราเรียกเข้ามา และเราก็รู้สึกเลยว่าเขานี่แหละที่เหมาะจะเป็นคาร์ลอสจริงๆ เขาไม่เพียงแต่จะดูดีเท่านั้น แต่ยังมีหลายสิ่งหลายอย่างในชีวิตของเจย์ที่ใกล้เคียงกับคาร์ลอส ดังนั้น ความจริงที่ว่าเจย์มีลักษณะที่ใกล้เคียงกับตัวละครที่เราจะให้เขาเล่นจึงถือว่าเป็นเสมือนโบนัส เขามีความเชื่อมั่นและมีความสามารถ และยังสามารถแสดงด้วยความรู้สึกที่สมจริงมากทีเดียว"
ผู้อำนวยการสร้างเรเชล เฟฟเฟอร์เห็นด้วย "เจย์เป็นเสมือนทอม ครู้ซที่เป็นคนลาติน" เฟฟเฟอร์บอก "เขาดูสบายๆ ไม่มีอะไรที่ดูเป็นการจงใจแสดงจนมากเกินไป เขาเป็นคนที่ดูง่ายๆ มันทำให้ดูน่าสนใจหลังจากที่ได้ตระเวณค้นหานักแสดงไปทั่วประเทศเพื่อตามหาคนที่จะมาเล่นเป็นคาร์ลอส แล้วเราก็พบเขาอยู่ที่หลังบ้านเรานี่เอง"
ตัวละครอย่างคาร์ลอสถือว่าเป็นแม่แบบในทางที่ดี เขาเป็นคนฉลาด มีความฝัน "เราไม่ค่อยได้เห็นถึงด้านนี้ของชุมชนคนเชื้อสายลาตินในภาพยนตร์กันสักเท่าไหร่" ผู้อำนวยการสร้างเฟฟเฟอร์กล่าวเสริม
"ผมไม่เคยคิดฝันว่าจะได้เป็นนักแสดงเลย" เฮอร์นันเดซกำลังพูดถึงการเดินทางมาสู่การเป็นหนึ่งในนักแสดงที่กำลังมาแรงที่สุดของฮอลลีวู้ด "การเริ่มต้นอาชีพนักแสดงของผมมันเริ่มต้นอย่างน่าภาคภูมิจริงๆ แต่มันก็เกิดขึ้นแล้วจริงๆ พ่อแม่กับผมยืนอยู่ในลิฟต์ตัวหนึ่งในฮอลลีวู้ด ขณะที่ประตูกำลังจะปิด ก็มีมือเอื้อมเข้ามากั้นประตูเอาไว้ เพราะผู้ชายคนนั้นต้องการจะลงไปที่ชั้นล่างของตัวอาคาร แล้วขณะที่ลิฟต์กำลังลงนั่นเอง เขาก็มองหน้าผมแล้วถามว่า 'เคยแสดงหนังหรือหนังโฆษณา หรือเป็นนายแบบ หรือทำงานด้านนี้มาก่อนไหม' ผมตอบว่า ไม่ เขาก็เลยส่งนามบัตรให้ผมแล้วพูดว่า 'ถ้าคุณสนใจ ก็โทรหาผมนะ'"
"แล้วผมก็ไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้อีกเลยสักประมาณสองอาทิตย์ จนแม่ผมมาถามว่าผมได้โทรศัพท์ไปหาผู้ชายคนนั้นหรือเปล่า แม่บอกว่าอย่างน้อยผมก็น่าจะลองดูนะว่างานแบบนี้เป็นยังไงบ้าง มันอาจเป็นงานที่สนุก และผมอาจจะหาเงินได้ ผมก็เลยโทรศัพท์ไปหาเขา เขาให้ผมเข้าเรียนการแสดง แล้วก็จัดหาเอเยนต์ให้ผมคนหนึ่ง"
ถึงแม้ว่าเฮอร์นันเดซจะเคยแสดงภาพยนตร์ทีวี กับเคยรับบทเล็กๆ ในภาพยนตร์ฉายโรงมาแล้ว แต่ crazy/beautiful ก็ได้ชื่อว่าเป็นผลงานที่เป็นการแนะนำให้คนดูกลุ่มกว้างได้รู้จักเขา เคิร์สเตน ดันสต์กล่าวถึงดาราหนุ่มที่ร่วมจอกับเธอคนนี้ว่า "เขาเป็นมือโปร นี่เป็นบทนำบทแรกของเขา แต่เขาก็สามารถแสดงออกมาอย่างได้งดงามที่สุด เขาเป็นผู้ร่วมงานที่ดีมาก เป็นคนนิสัยดีจริงๆ เรามีซีนที่ต้องแนบชิดสนิทกันอยู่เยอะ และมันก็ดีทีเดียวที่ได้แสดงกับคนที่ฉันรู้สึกสบายใจเมื่ออยู่ด้วย เขาทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้นจริงๆ"
เฮอร์นันเดซเองก็รู้สึกชื่นชมในตัวเคิร์สเตนไม่ต่างกันเท่าไหร่ "เธอเป็นคนน่ารัก แล้วก็ติดดินมาก เธอแสดงภาพยนตร์มาเยอะ แล้วเธอก็รู้ว่าผมรู้สึกกดดันแค่ไหน แต่นับแต่วันแรก เธอก็พูดกับผมว่า 'ถ้ามีอะไรจะให้ฉันช่วยล่ะก็ คุณคงรู้นะว่าฉันต้องช่วยแน่' เธอดีกับผมจริงๆ คุณคงไม่คาดว่าจะเจอการปฏิบัติเช่นนั้นจากนักแสดงหญิงที่ผ่านงานมามากอย่างเคิร์สเตน เธอช่วยทำให้ผมหายกดดันไปเยอะ เธอเป็นเพื่อนร่วมงานที่ดีจริงๆ"
สำหรับบทสำคัญอย่างบทพ่อที่น่ารักแต่ห่างเหินของนิโคล ได้แก่สมาชิกสภาคองเกรส ทอม โอ๊คลีย์ ทางทีมผู้สร้างตัดสินใจเลือกนักแสดงระดับที่เคยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์มาแล้วอย่าง บรู๊ซ เดวิสัน ตามที่แมรี่ เจน อัฟแลนด์เล่า "สำหรับบทสำคัญอย่างบทที่ว่านี้ เราต้องการนักแสดงที่จะต้องดูน่าเชื่อที่สุดในฐานะที่เป็นพ่อของเคิร์สเตน ไม่ใช่แค่คนที่อายุเหมาะ แต่หน้าตาไม่ให้เป็นพ่อของเธอเลย ซึ่งบรู๊ซนี่แหละที่ดูเหมาะมาก เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นนักแสดงมีฝีมือ เป็นคนที่ฉันกับแฮร์รี่รู้จักมานานกว่า 30 ปี เขาเดินทางมาเพื่อพูดคุยกับเราเกี่ยวกับบทนี้ แล้วเขาก็ยินดีที่จะทดลองอ่านบทให้เราฟังด้วย ซึ่งก็ทำให้เห็นชัดขึ้นไปอีกว่าเขาเป็นคนที่เหมาะกับบทนี้มากจริงๆ"
ผู้กำกับสต็อคเวลล์ให้ความเห็นว่าเดวิสันนั้นมีลักษณะที่ดูลึกลับคล้ายๆ กับเคิร์สเตนอยู่ด้วย "ตัวละครของเขาที่เป็นสมาชิกสภาคองเกรสเป็นเหมือนพวกหลงทาง ซึ่งบรู๊ซก็สามารถแสดงลักษณะเช่นนั้นออกมาได้อย่างงดงาม มันเป็นบทที่เล่นยากนะ แต่เขาก็เล่นออกมาได้อย่างตรงไปตรงมา และดูไม่ต้องใช้ความพยายามอะไรมากมายเลย"
"ผมว่าความงามของบทภาพยนตร์เรื่องนี้มันอยู่ตรงที่ว่ามันได้สร้างความเชื่อมโยงที่สมจริงระหว่างความสัมพันธ์ที่มีปัญหาของคนสองคน คือพ่อกับลูกสาว" เดวิสันกล่าว "มันเป็นบทภาพยนตร์ที่น่าสนใจทีเดียว ผมเรียกมันว่าบทภาพยนตร์ตัว 'ซ' เพราะถ้าคุณคิดว่าเรื่องจะดำเนินไปแบบนี้ มันก็จะพลิกแฉลบไปทางซ้าย แล้วมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ ในชีวิตคนเรา มันทั้งน่าสนใจและเขียนขึ้นมาได้ดีมากทีเดียว"
"บรู๊ซเป็นคนฉลาด และเป็นนักแสดงที่ดีมาก" ผู้อำนวยการสร้างเฟฟเฟอร์ยืนยัน "เขามีความนับถือในตัวเคิร์สเตน และคุณก็จะเชื่อได้เลยว่าเขาเป็นพ่อของเธอ คุณจะเชื่อได้เลยว่าเขาเป็นคนที่เก็บความรู้สึกมากเมื่อเขาเลี้ยงดูลูกสาวคนนี้ให้เติบโตมา แล้วเขาก็ต้องมีปัญหากับเรื่องนี้ เพราะเขาเหมือนกับจะปิดกั้นตัวเองกับลูกสาว แล้วก็เริ่มต้นชีวิตตัวเองใหม่อีกครั้งกับลูกคนใหม่และภรรยาใหม่ เขาเล่นบทนี้ออกมาได้อย่างน่าเห็นใจ คุณไม่มีทางเกลียดขี้หน้าเขาได้ คุณจะมีอารมณ์ร่วมไปกับเขา ซึ่งฉันว่ามีนักแสดงไม่มากนักหรอกที่จะทำเช่นนั้นได้ มันแทบจะเป็นบทแบบตัวละครของเช็คสเปียร์ก็ว่าได้"
"สิ่งหนึ่งที่เราหวังจะให้คนดูมีปฏิกริยาด้วยในภาพยนตร์เรื่องนี้ก็คือ การพยายายามต่อสู้เพื่อทำให้ทุกอย่างออกมาถูกต้อง ไม่ว่าจะกับอดีตหรือปัจจุบัน คุณจะได้สามารถเดินหน้าต่อไปได้ และนั่นก็คือการดิ้นรนต่อสู้ของตัวละครในภาพยนตร์เรื่องนี้" ฟิล เฮย์ มือเขียนบทของภาพยนตร์เรื่องนี้กล่าว
แม็ตต์ แมนฟรีดี้ มือเขียนบทอีกคนหนึ่งของภาพยนตร์เรื่องนี้กล่าวเสริมว่า "อีกสิ่งหนึ่งที่เราหวังจะให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ทำให้คนดูได้คิดก็คือ จงอย่าหมดศรัทธาในตัวคนที่คุณรัก สำหรับผม นั่นแหละคือเรื่องที่ยิ่งใหญ่ที่สุด คาร์ลอสต้องพบกับการตัดสินใจเลือกที่สร้างความหนักใจให้กับเขา แต่ไม่ว่าคนอื่นจะพยายามทำให้เขาหมดศรัทธาในตัวนิโคลแค่ไหน เขาก็ไม่มีวันเป็นเช่นนั้น ถึงแม้ว่าเขาเคยคิดที่จะเลิกกับนิโคลเหมือนกัน แต่สุดท้ายเขาก็ไม่ทำ เพราะเขารู้ดีว่าภายในตัวเธอนั้นมันมีจิตวิญญาณที่ดีอยู่"
"ใช่เลย" เฮย์กล่าวทันที "ผมว่าถ้าจะให้พูดกันง่ายๆ ภาพยนตร์เรื่องนี้จะแสดงให้คุณเห็นว่าคุณสามารถที่จะส่งผลกระทบต่อชีวิตของคนอื่นได้ ว่าเขาหรือเธอคนนั้นจะอยู่ห่างไกลจากคุณเพียงใด แม้กระทั่งการนั่งฟังใครบางคน หรือการไปอยู่ที่นั่นเพื่อพวกเขา แค่นั้นคุณก็สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นกับพวกเขาได้แล้ว"
"เราตั้งใจที่จะสร้างภาพยนตร์สักเรื่องเพื่อคนในวัยนี้ เป็นภาพยนตร์ที่พูดถึงความรุนแรงของรักแรก" ผู้อำนวยการสร้างแมรี่ เจน อัฟแลนด์กล่าว "ฉันเชื่อว่าเราได้ทำสำเร็จแล้ว"
โลเกชั่น
crazy/beautiful ถ่ายทำกันตามโลเกชั่นทั้งในและรอบๆ ลอสแอนเจลิส ตั้งแต่ในย่านชุมชนคนรวยอย่างแปซิฟิก พาลิเซดส์ ไปจนถึงย่านชานเมืองที่ผสมผสานหลายวัฒนธรรมเข้าด้วยกันอย่างบอยล์ ไฮต์ส
แฮร์รี่และแมรี่ เจน อัฟแลนด์ได้สร้างเรื่องราวที่เกี่ยวกับคนต่างวัฒนธรรมโดยอิงข้อมูลจากโลกที่พวกเขารู้จักดี และประสบการณ์ที่พวกเขาเคยได้ร่วมงานกับหลวงพ่อเกร็ก บอยล์ บาทหลวงที่ทำงานกับพวกเด็กๆ ในย่านอีสต์แอลเอ
เพื่อช่วยยุติความรุนแรงในกลุ่มแก๊งค์เด็กวัยรุ่น หลวงพ่อบอยล์ได้เริ่มต้นโครงการที่เข้าถึงกลุ่มเด็กวัยรุ่น อย่างเช่น โครงการ Homeboy Indutries and Jobs For a Future ซึ่งเป็นโครงการที่ช่วยเหลือพวกเด็กวัยรุ่นเชื้อสายลาตินให้พ้นจากสภาพแวดล้อมของแก๊งค์มาเฟีย และเปลี่ยนแปลงชีวิตของพวกเขาให้ดีขึ้น
จากที่เคยว่าจ้างพวกเด็กวัยรุ่นเหล่านี้ที่มาทำงานในกองถ่าย เมื่อพวกเขายกกองมาถ่ายทำกันที่ลอสแอนเจลิส ซึ่งก็รวมถึงงานถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง crazy/beautiful ด้วย ทำให้พวกอัฟแลนด์ได้เห็นกับตาเลยว่าเด็กวัยรุ่นพวกนี้จะต้องพยายามอย่างหนักแค่ไหนที่จะทำชีวิตของพวกเขาให้ดีขึ้น ถ้าเพียงแต่ได้รับโอกาสที่มีคนหยิบยื่นมาให้
โลเกชั่นถือว่าเป็นองค์ประกอบที่สำคัญมากในการสร้างเสริมความสมจริงให้กับภาพยนตร์เรื่อง crazy/beautiful นี้ นิโคลกับคาร์ลอสได้พบกันในสถานที่แห่งหนึ่งของลอสแอนเจลิสที่ถือว่ามีสีสันและโด่งดังที่สุด นั่นก็คือย่านกลุ่มเด็กวัยรุ่นแถวท่าเรือซานตามอนิก้า ในแถบแคลิฟอร์เนียด้านใต้ แล้วเขากับเธอก็มาตกหลุมรักกันในทางเดิน ห้องเรียน และลานจอดรถของแปซิฟิก ไฮสกูล ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากชายหาด
บ้านหลังหนึ่งที่ตั้งอยู่บนริมผา และกำแพงเป็นกระจกทุกด้านทำให้มองเห็นวิวของมหาสมุทรแปซิฟิกถูกสมมติให้เป็นคฤหาสน์สุดหรูของนิโคลที่ตั้งอยู่ในย่านพาลิเซดส์ ในขณะที่บ้านเล็กๆ หลังหนึ่งในย่านไชน่าทาวน์ที่เมื่อมองออกไปทางหน้าต่างจะเห็นย่านดาวน์ทาวน์ของแอลเอก็ถูกสมมติให้เป็นบ้านของนูเนซที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นของเพื่อนและครอบครัว
ถนนหลายสายของบอยล์ไฮต์สต้องถูกปิดลงในช่วงกลางดึกเพื่อเป็นที่ถ่ายทำในฉากที่นิโคลได้เหยียบย่างเข้ามาในย่านที่พักของคาร์ลอส ที่มีหลายเชื้อชาติอาศัยอยู่ร่วมกันไม่ว่าจะเป็นคนลาติน คนอัฟริกัน อเมริกัน และคนเอเชีย ซึ่งดูต่างจากชีวิตในย่านที่มีแต่คนผิวขาวที่เธออาศัยอยู่
อย่างไรก็ดี แง่มุมอื่นๆ ของเรื่องราวของภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ยังอิงอยู่กับความเป็นจริง อย่างเช่น โครงการแลกเปลี่ยนนักเรียนที่ให้นักเรียนจากบอยล์ไฮต์สเดินทางมาเรียนที่แปซิฟิกไฮสกูล และการสนับสนุนของพวกนักการเมืองที่ให้นักเรียนสามารถเข้าเรียนในสถาบันแอนนาโพลิส เนวัล อะคาเดมี่
โค้ชทีมฟุตบอล ครูโรงเรียนไฮสกูล และภารโรงตัวจริงเสียงจริงได้รับเลือกให้มาแสดงภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วย นักเรียนที่เป็นพวกชนกลุ่มน้อยในอเมริกาจำนวนห้าคนจากจอห์นมาร์แชลล์ไฮสกูล ในย่านลอสเฟลิกซ์ ได้รับเลือกให้เข้ามาแสดงเป็นตัวละครที่มีบทพูด นักเรียนเหล่านี้เข้าเรียนในชั้นเรียนการแสดงที่จอห์น มาร์แชลล์ โดยครูที่สอนพวกเขาก็คือเควิน เคน โดยเคนได้เริ่มต้นเปิดสอนการแสดงเมื่อหกปีที่แล้ว ซึ่งในตอนนั้นมีนักเรียนเข้าเรียนเพียงแค่ 11 คนเท่านั้น แต่ปัจจุบัน เขาต้องสอนนักเรียนถึง 150 คน กับมีนักเรียนอีกจำนวนหนึ่งที่ยังคงลงชื่อรอคิวเพื่อเข้าเรียนต่อ
"เราแสดงมันทุกอย่างตั้งแต่บทละครของเช็คสเปียร์จนถึงละครเวทีคลาสิกของบรอดเวย์" เคนเล่า "แต่ชั้นเรียนนี้มันเป็นมากกว่าชั้นเรียนการแสดง เราสนับสนุนให้เด็กๆ เหล่านี้ได้พูดและเขียนเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในชีวิตของพวกเขา หัวข้อที่ได้อ่านมันน่ากลัวมาก มีตั้งแต่การฆ่าฟันกันในแก๊งค์ การใช้ยา การตั้งท้องตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่น ไปจนถึงการกระทำรุนแรงของพวกตำรวจ การเรียนแบบเวิร์กช็อปแบบนี้ก็คล้ายกับการบำบัดแบบกลุ่ม เป็นที่ที่พวกเขาสามารถมาระบายความรู้สึก เป็นแหล่งที่มอบกำลังใจ และสร้างความภาคภูมิในตัวเองให้เกิดขึ้น"
มีอยู่หลายครั้งที่โลกในภาพยนตร์เรื่อง crazy/beautiful นี้จะให้ความรู้สึกเหมือนเป็นอีกโลกหนึ่ง เป็นโลกที่สวยงามเกินจริง แต่ก็เป็นโลกที่ไม่มั่นคง ฉากภายในโรงเรียนไฮสกูลจะถูกนำเสนอออกมาด้วยแสงเงาที่อาจชวนขนลุกด้วยสีเขียวน้ำเงิน และเฟรมของภาพก็มักจะดูยุ่งเหยิงและมุมกล้องที่ดูประหลาด
"เฟรมที่เราใช้จะดูประหลาดๆ เล็กน้อย อาจจะเป็นภาพจากมุมเหนือศีรษะค่อนข้างเยอะ หรือไม่ก็เป็นภาพจากทิศใดทิศหนึ่ง" ผู้กำกับภาพ เชน เฮิร์ลบัตอธิบาย "เราต้องการให้ภาพออกมาดูไม่ค่อยมั่นคง เพราะพวกวัยรุ่นยังเป็นวัยที่ยังไม่ค่อยมั่นคงนัก เรายังถ่ายทำกันด้วยการคิดมุมกล้องกันสดๆ เพื่อสร้างความรู้สึกของโลกที่ทุกอย่างเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างปัจจุบันทันด่วน เป็นโลกที่พวกวัยรุ่นใช้ชีวิตอยู่ เป็นที่ที่พวกเขาสามารถทำทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกเขาต้องการ และไม่ต้องรับผิดชอบใดๆ"
ตรงกันข้ามกับบ้านของพ่อแม่ของนิโคลที่จะดูแข็งๆ ใช้สีขาว ดูสะอาด และอารมณ์เย็นชา ในฉากนี้ กล้องจะถูกตรึงติดให้อยู่กับที่ และทุกช็อตจะต้องเน้นกันที่โครงสร้าง ดูไร้อารมณ์ และเน้นกันที่ภาพสถาปัตยกรรม
ความรู้สึกอบอุ่นที่จะได้พบในภาพยนตร์เรื่องนี้จะพบได้ก็แต่ภายในบ้านของครอบครัวคาร์ลอสเท่านั้น ภายในบ้านหลังเล็กๆ ที่ดูซอมซ่อ ซึ่งตั้งอยู่ในถนนมืดๆ ที่ดูน่ากลัว กลับกลายเป็นโลกที่เปี่ยมไปด้วยความสบายใจ การช่วยเหลือค้ำจุน และความรักในครอบครัว
ลักษณะทั้งหมดที่กล่าวมานี้ปรากฏให้เห็นในการออกแบบเสื้อผ้าของตัวละครที่ต้องดูสมจริงไม่ต่างกัน คอสตูม ดีไซเนอร์ ซูซาน แมธีสัน ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องสไตล์การแต่งตัวของคนตามท้องถนน ออกตระเวณซื้อข้าวของเสื้อผ้าพร้อมกับพวกเด็กวัยรุ่นจริงๆ ทั้งหมดออกไปช็อปปิ้งตามร้านค้าในเมืองที่พวกเขาโปรดปราน ไม่ว่าจะเป็นร้านแผงลอยริมถนน ร้านเสื้อผ้าเก่าๆ หรือร้านขายเสื้อผ้าใช้แล้วที่อยู่ตามตรอกซอกซอย
สำหรับเสื้อผ้าทุกชิ้นที่อยู่ในตู้เสื้อผ้าของนิโคลนั้น แมธีสันต้องพยายามสร้างสรรค์งานที่จะนำเสนอให้เห็นถึงภาพลักษณ์ที่ดูมีศิลป์แต่เปี่ยมไปด้วยความทุกข์ใจของเธอ
"ทุกอย่างที่อยู่ในตู้เสื้อผ้าของเธอจะต้องผ่านการย้อมแล้วย้อมอีก หรือไม่ก็ต้องผ่านการตัดและเย็บปะ" แมธีสันอธิบาย "นิโคลกำลังแสดงความรู้สึกโกรธ เศร้า และโดดเดี่ยวของเธอออกมา ไม่เพียงแต่ในภาพถ่ายและในบทความของเธอเท่านั้น แต่ผ่านทางเสื้อผ้าที่เธอใส่ด้วย"
โดยหัวใจแล้ว crazy/beautiful ก็คือภาพยนตร์ที่แสดงให้เห็นว่ามันไม่สำคัญหรอกว่าคุณจะมีอะไรบ้างในชีวิตของคุณ แต่คุณมีใครต่างหาก นี่คือธีมที่ทำให้พวกอัฟแลนด์ทึ่งได้เสมอมา พวกอัฟแลนด์มีความชื่นชอบโปรเจ็กต์ที่พูดถึงสนามอารมณ์ของครอบครัว และทดสอบถึงความผูกพันที่แสนเปราะบางแต่ทรงพลานุภาพระหว่างพ่อแม่และลูก
"ฉันคิดว่านี่คือภาพยนตร์เรื่องหนึ่งที่พ่อแม่น่าจะได้ดูพร้อมกับลูกวัยรุ่นของพวกเขา เพราะมันมีเนื้อหามากมายที่ถูกสื่อออกไป" ผู้อำนวยการสร้างเฟฟเฟอร์กล่าว "สิ่งที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ต้องการสื่อออกไปก็คือเราในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ต้องรู้จักฟัง และวัยรุ่นก็ต้องรู้จักที่จะเปิดกว้าง เรียกว่าภาพยนตร์เรื่องนี้มีสื่อที่สำคัญสำหรับทุกคนจริงๆ"
ผู้กำกับจอห์น สต็อคเวลล์สรุปปิดท้ายว่า "ผมหวังว่าคนดูคงจะรู้สึกประทับใจและประหลาดใจกับความรักและความปวดร้าวของภาพยนตร์เรื่อง crazy/beautiful และพวกเขาคงจะสามารถเข้าใจในตัวละครที่ในตอนแรกอาจดูเหมือนไม่น่าจะเข้าใจได้ ผมว่าคนดูจะต้องได้พบกับการเดินทางที่ตลก น่าทึ่ง และมีพลังที่จะนำไปสู่การสามารถเยียวยาตัวเองได้ด้วย"
(ยังมีต่อ)

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ