กรุงเทพฯ--24 ส.ค.--กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จัดงานเกษตรไทยก้าวหน้า ภายใต้ร่มพระบารมี ณ สวนลุมพินี เมื่อวันที่ 16 - 20 สิงหาคม 2560 ที่ผ่านมา รวมการจัดงาน 5 วัน สามารถสรุปนักท่องเที่ยวได้กว่า 104,792 ราย เป็นชาวไทย 99,441 ราย และเป็นชาวต่างชาติ 5,351 รายมีรายได้ทะลักกว่า 24.55 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นรายได้เงินสดหมุนเวียนภายในงาน กว่า 16.73 ล้านบาท และมีการสั่งซื้อสินค้าโดยตรงจากเกษตรกรและผู้ประกอบการ รวมทั้งการเจรจาซื้อขายสินค้าในระยะยาวอีกกว่า 7.82 ล้านบาท ซึ่งโดยโซนที่จำหน่ายสินค้าสูงสุด แปลงใหญ่ สามารถจำหน่ายทุเรียนทรายขาว จาก จ.ปัตตานี ได้กว่า 1,000 ลูก รองลงมา เป็น โซน ตลาดเกษตรกร และโซนอาหาร ตามลำดับ
พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากการเปิดการจัดงานเกษตรไทยก้าวหน้า ภายใต้ร่มพระบารมี เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2560 โดยมี นายกรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นประธานในพิธีเปิดนั้น ได้รับเสียงชื่นชมจากประชาชนและเสียงตอบรับจากประชาชนชาวกรุงเทพเป็นจำนวนมาก ซึ่งสินค้าบางรายการที่กระทรวงเกษตรฯ คาดการณ์ไว้หมดก่อนและมียอดสั่งซื้อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เป็นเพราะ สินค้าที่นำมาจำหน่ายเป็นสินค้าที่มีคุณภาพดี ผู้บริโภคเกิดความมั่นใจในการซื้อสินค้า ที่มีคุณภาพ สามารถตรวจสอบแหล่งผลิตได้ เกษตรกรที่นำสินค้ามาจำหน่ายเกิดความมั่นใจที่จะขายสินค้ามากขึ้น นอกจากนี้ในโซนของการอบรมสังคมเมือง ในแต่ละวันก็มีประชาชนสนใจมารับความรู้กันอย่างมากมาย เนื่องจากหลักสูตรที่กระทรวงเกษตรฯ จัดทำ เป็นเรื่องใกล้ตัวและสามารพนำไปประยุกต์ใช้ได้จริง
นายสมชาย ชาญณรงค์กุล อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยเพิ่มเติมว่า "สินค้าที่นำมาจัดแสดงภายในงาน โดยเฉพาะผลไม้จาก กลุ่มเกษตรกรแปลงใหญ่ ขายดีทุกรายการ โดยเฉพาะ อโวคาโด กล้วย สัปปะรด ลำไย ต้องสั่งสินค้าจาก ต่างจังหวัดเข้ามาเพิ่มในวันสุดท้าย และขายหมดอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังมีสินค้าอื่นๆ ที่ได้รับความนิยม อาทิ โคขุนเนื้อจากกลุ่มสหกรณ์ ข้าวเหนียวเขาวง ก็ได้รับความนิยมมาก มีการสั่งซื้อเพิ่มเติม นอกจากการขายสินค้าภายในงาน ยังมีการแสดงนวัตกรรมจากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่สนใจในการซื้อนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะเหยื่อโปรโตซัวกำจัดหนูสำเร็จรูป จากกรมวิชาการเกษตร นวัตกรรมกระบวนการตรวจสอบเขื่อนดินถมทางธรณีฟิสิกส์ และนวัตกรรมการปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรยุค 4.0"
ทั้งนี้เสียงจากประชาชนส่วนใหญ่ พึงพอใจในการจัดงานเป็นอย่างมาก เพราะภายในงานมีหลากหลายกิจกรรม ทั้งการขายของดี มีคุณภาพ การให้ความรู้ การให้บริการทางการเกษตร มาซื้อของแถมยังได้ความรู้กลับบ้าน และแต่ละวันมีกิจกรรมที่แตกต่างกัน ทำให้อยากมาร่วมงานทุกวัน และอยากให้มีการจัดงานลักษณะนี้อีกในปีต่อๆ ไป