กรุงเทพฯ--25 ส.ค.--ไอเดียเวิร์คส์คอมมิวนิเคชั่นส์
เดินหน้าเข้าสู่ปีที่ 2 สำหรับโครงการ "KFC Community Hero เป็นตัวจริงเพื่อสังคม" จัดโดย เคเอฟซี ประเทศไทย ที่จะช่วยค้นหาศักยภาพและความคิดสร้างสรรค์ที่มีอยู่ของนิสิตนักศึกษาทั่วประเทศ ได้รู้จักนำทรัพยากรที่มีอยู่รอบตัวใช้ให้เกิดประโยชน์ อีกทั้งตอกย้ำบทบาทของแบรนด์ในการสร้างแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่เป็นตัวจริงพร้อมขับเคลื่อนสังคมให้ดีขึ้น
ปีนี้ โครงการ "KFC Community Hero เป็นตัวจริงเพื่อสังคม" จัดขึ้นภายใต้แนวคิด "คิดให้ใช่..แล้วไปให้สุด" น.ส.ณิชารัศมิ์ อาชญาสิทธิวัตร ผู้จัดการฝ่ายการตลาด ส่วนบริหารแบรนด์และการสื่อสารการตลาด เคเอฟซี ประเทศไทย กล่าวว่า ทางเคเอฟซีได้มีกิจกรรม CSR เพื่อเด็กและเยาวชนไทยมาโดยตลอด เมื่อมีการพลิกบทบาทแบรนด์ใหม่ก็ต้องการขยายกิจกรรมไปในวงกว้างมากขึ้น จึงได้ริเริ่มโครงการ "KFC Community Hero เป็นตัวจริงเพื่อสังคม" ขึ้น สอดคล้องกับแนวคิด Always Original เป็นตัวจริง เพราะรู้ว่าเด็กไทย คนไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก มีความคิดสร้างสรรค์ ความรู้ความสามารถ แต่อาจขาดทักษะการต่อยอด
"เคเอฟซี จัดกิจกรรม CSR สร้างแรงบันดาลใจโดยดึงศักยภาพของนิสิตนักศึกษา ซึ่งถือเป็นกลุ่มเด็กช่วงปลายที่กำลังเติบโตเข้าสู่ผู้ใหญ่ จึงเป็นช่วงเวลาที่ดีที่เราจะปลูกจิตสำนึกหรือต้นกล้าเล็กๆ เข้าไปในชีวิต ระบบความคิดของเขา เติมเต็มความมั่นใจในเรื่องที่เด็กมีความสามารถ รวมถึงเสริมกระบวนการคิดที่ถูกต้องเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงแก่ชุมชน สังคมได้ โครงการดังกล่าว เน้นการสร้างแรงบันดาลใจเป็นฮีโร่ในชุมชน ซึ่งโครงการนี้ไม่จำเป็นที่ต้องเป็น CSR เต็มรูปแบบ แต่โครงการต้องสามารถสื่อสาร ทำให้สิ่งแวดล้อม หรือชุมชนเกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ซึ่งเคเอฟซีพร้อมสนับสนุน"
ปีที่ผ่านมา โครงการดังกล่าวได้รับการตอบรับดีมาก มีนิสิตนักศึกษาส่งแผนงานเข้าร่วมประมาณ 600-700 โครงงาน และพบว่าเด็กไทยยังมีกรอบข้อบังคับในเรื่องราวเดิมๆ ทั้งที่เด็กไทยมีศักยภาพแต่พวกเขาอาจขาดกระบวนการคิดต่อยอด ดังนั้น โครงการนี้จะมีการเชิญผู้เชี่ยวชาญมาให้ความรู้ สร้างแรงบันดาลใจ เห็นจากสิ่งที่จะทำมากขึ้น และแตกต่างด้วยวิธีการเดิมๆ เพิ่มเติมประสบการณ์ ปีนี้เราได้เพิ่มกระบวนการคิดและมีการทำเวิร์คช้อป ใน KFC Community Hero Camp เป็นเวลา 3 วัน 2 คืน ที่ไม่ใช่เพียงสร้างแรงบันดาลใจ จุดไฟวูบหนึ่งแล้วจบไป แต่จะพัดไฟให้เกิดการต่อยอดความยั่งยืนต่อไป
โครงการครั้งนี้ เริ่มจากการคิดให้ใช่ด้วยการส่งเสริมให้นิสิตนักศึกษา ค้นหาศักยภาพและความคิดของตนเอง นำสิ่งที่อยู่รอบตัวมาใช้ให้เกิดประโยชน์ รู้จักการแก้ไขปัญหาหรือความท้าทายในสังคมและผนวกเป็นแนวทางบรรเทาปัญหาในชุมชนให้ลดลงหรือหมดไป โดยมี ดร.ธีรพันธ์ โล่ห์ทองคำ อาจารย์และนักการตลาดชื่อดัง เป็นวิทยาการและที่ปรึกษาด้านการวางแผน น.ส.ปรีห์กมล จันทรนิจกร ผู้เชี่ยวชาญด้านกิจการเพื่อสังคม นำเสนอเรื่องราวสร้างแรงบันดาลใจจากทั่วโลก และไปให้สุด โดยนิสิตนักศึกษาจะได้ลงมือปฏิบัติจริงตามแผนที่วางไว้ โดยทางเคเอฟซีให้การสนับสนุนเงินทุนและเอื้อให้นิสิตนักศึกษาได้ใช้ทรัพยากรที่มีอยู่หลากหลายของเคเอฟซีเพื่อประโยชน์ของชุมชน
2 สาวจากรั้วมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒประสานมิตร (มศว.) เนย-น.ส.นัยยรินทร์ ชัยพัชรานนท์ และ อ๋อมแอ๋ม-น.ส.พลอยพรรณ จอมเมือง นิสิตชั้นปีที่ 3 คณะสังคมศาสตร์ กล่าวว่า ปีนี้เป็นปีแรกที่พวกเธอและเพื่อนอีก 2 คน ได้รวมทีมกันเพื่อเข้าร่วมโครงการดังกล่าว ซึ่งรู้จักโครงการจากที่ทางเคเอฟซีได้มาทำโรดโชว์ที่มหาวิทยาลัย และเกิดความสนใจ เพราะเคเอฟซีเป็นแบรนด์ที่รู้จัก และเท่าที่ทราบ เป็นการทำคิดโครงงานเพื่อแก้ปัญหาชุมชน สิ่งแวดล้อม หรือการอนุรักษ์วัฒนธรรมชุมชนท้องถิ่นของตนเอง ซึ่งขณะนี้ พวกเราก็มีแนวทาง แผนโครงงานที่วางๆเอาไว้อยู่ แต่ก็ต้องมาหารือกันอีกครั้งว่าจะทำในเรื่องไหนอย่างไร แต่ก็คงทำในเรื่องสภาพแวดล้อมในมหาวิทยาลัย ชุมชนที่พวกเราอยู่
"โครงการของเคเอฟซี เป็นกิจกรรมที่ดีมาก เพราะเป็นการเปิดโอกาสให้นิสิตนักศึกษา ได้เข้ามาแสดงศักยภาพ ความคิด และได้มาสร้างแรงบันดาลใจ กระตุ้นให้พวกเราอยากทำสิ่งดีๆ ตอบแทนสังคม เป็นการสร้างจิตสำนึกในการดูแล แก้ปัญหาชุมชน รวมถึงยังทำให้พวกเราได้เห็นมุมมอง เปิดโลกทัศน์การเรียนรู้จากวิทยากรชั้นนำ ที่ได้มาถ่ายทอดองค์ความรู้ต่างๆ ยิ่งพวกเราเรียนการตลาดก็สามารถนำไปใช้ต่อยอดในห้องเรียนได้ อยากให้ทางเคเอฟซีจัดกิจกรรมแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ"
เช่นเดียวกับ เชง-น.ส.อรตี พนาสุวรรณกุล และ ริว-นายสุรพศ วัฒนมัณฑนา นิสิตชั้นปีที่ 3 คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ช่วยกันเล่า เป็นปีแรกที่พวกเขาได้เข้าร่วมโครงการ ซึ่งทางอาจารย์ผู้สอนได้มาแนะนำโครงการดังกล่าว และเห็นว่าแบรนด์เคเอฟซีมี CSR ที่ดี อีกทั้งพวกเราก็มีเรียนในรายวิชา CSR เมื่อได้รับฟังคำแนะนำ ความรู้จากวิทยากรทำให้ได้รับองค์ความรู้ด้านการตลาด CSR มากมาย ที่สำคัญทำให้เกิดแรงบันดาลใจในการทำโครงงานเพื่อชุมชนมากขึ้น และครั้งนี้พวกเราก็มีความคิดจะรวมกลุ่มกันเพื่อเข้าร่วมกิจกรรม ส่งแผนงานเข้าร่วมโครงการดังกล่าว
"มีความจำเป็นอย่างมากที่หน่วยงานเอกชน และภาครัฐ เปิดเวทีให้นิสิตนักศึกษาคนรุ่นใหม่ ได้เข้ามาเรียนรู้ สัมผัสประสบการณ์นอกห้องเรียน ได้แสดงศักยภาพ ความคิด การทำงานเป็นทีม กระบวนการเรียนรู้ใหม่ๆ ยังปลูกฝังจิตสำนึกด้านสาธารณะ ร่วมแก้ปัญหา ทำประโยชน์เพื่อชุมชน และชุมชนมาก นอกจากนั้น ทำให้เด็กรุ่นใหม่ได้รู้จักมุมมองความคิด ศักยภาพของตนเอง ค้นหาตัวเจอว่าจะสามารถต่อยอดไอเดีย ความคิดของตนเองที่เป็นประโยชน์เพื่อผู้อื่นได้อย่างไรบ้าง อยากให้มีการจัดโครงการดังกล่าวตลอดไป" นิสิตจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวทิ้งท้าย
"KFC Community Hero เป็นตัวจริงเพื่อสังคม" เปิดรับสมัครนิสิตนักศึกษาทั่วประเทศที่มีอายุระหว่าง 17-25 ปีและกำลังศึกษาอยู่ในสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษา ปริญญาตรีหรือเทียบเท่า รวมทีมสมาชิก 2-4 คน โดยไม่จำกัดสาขา คณะและสถาบัน นำเสนอแผนงานพัฒนาชุมชนหรือสร้างการเปลี่ยนแปลงให้ดีขึ้นด้วยการหยิบยกปัญหาใกล้ตัวหรือที่เกิดขึ้นจริงในชุมชน พื้นที่ที่นิสิตนักศึกษามีความใกล้ชิด เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง โดยนิสิตนักศึกษาสามารถเลือกหัวข้อใดหัวข้อหนึ่ง ดังนี้ Passion for Food เกี่ยวข้องกับอาหารและโภชนาการ, Passion for Life เกี่ยวกับการดำเนินชีวิตในชุมชนอย่างมีเป้าหมาย และ Originality เกี่ยวกับเอกลักษณ์วัฒนธรรม หรือมรดกของชุมชนนั้นๆ ที่ควรค่าแก่การเก็บรักษาและสะท้อนรากเหง้าของชุมชน ซึ่งแผนงานที่นำเสนอต้องริเริ่มมากจากอินไซด์ ของกลุ่มเป้าหมาย เพื่อเข้าใจเชิงลึกลงในความคิด ความเชื่อ หรือค่านิยมที่เป็นที่มาของปัญหานั้นๆ และแผนงานต้องเชื่อมโยงกับการนำทรัพยากรของเคเอฟซีที่มีอยู่มาใช้ได้อย่างสร้างสรรค์ โดยทีมชนะเลิศจะได้รับรางวัลสำหรับการประกวดเป็นทุนการศึกษา โล่รางวัลพร้อมเกียรติบัตร บัตรกำนัลเคเอฟซี รวมมูลค่ากว่า 500,000 บาท พร้อมโอกาสเข้าร่วมฝึกงานกับเคเอฟซี ประเทศไทย กรอกใบสมัครได้ตั้งแต่บัดนี้ถึง 12 กันยายน 2560 ทาง www.kfcthailand.com หรือสอบถามเกี่ยวกับการสมัครและโครงการได้โดยตรงที่ Facebook 'KFC Community Hero'