ฟิทช์คงอันดับเครดิตบริษัทบริหารสินทรัพย์กรุงเทพพาณิชย์ที่ 'AA-(tha)’ และให้อันดับเครดิตหุ้นกู้

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday August 25, 2017 14:39 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--25 ส.ค.--ฟิทช์ เรทติ้งส์ บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว (National Long-Term Rating) ของบริษัทบริหารสินทรัพย์กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BAM ที่ 'AA-(tha)' แนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบ พร้อมกันนี้ ฟิทช์ประกาศให้อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวที่ 'AA-(tha)' แก่หุ้นกู้ ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันของ BAM มูลค่ารวมไม่เกิน 1.5 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้บริษัทมีสิทธิที่จะเสนอขายหุ้นกู้เพิ่มเติมได้อีก 2 พันล้านบาท โดยหุ้นกู้ดังกล่าวจะแบ่งเสนอขายเป็นชุดและจะมีอายุไม่เกิน 10 ปี วัตถุประสงค์ของการออกหุ้นกู้คือเพื่อใช้ในการดำเนินงานทั่วไปของบริษัทและชำระคืนเงินกู้ยืม สำหรับรายละเอียดของอันดับเครดิตทั้งหมดได้แสดงไว้ในส่วนท้าย ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต อันดับเครดิตภายในประเทศของ BAM มีปัจจัยในการพิจารณามาจากการสนับสนุนจากภาครัฐ เนื่องจาก BAM มีสถานะเป็นรัฐวิสาหกิจ โดยมีกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (ซึ่งเป็นหน่วยงานของธนาคารแห่งประเทศไทย) เป็นผู้ถือหุ้นทั้งหมดในบริษัท BAM ก่อตั้งขึ้นในปี 2541 เพื่อบริหารหนี้ด้อยคุณภาพที่เกิดขึ้นจากวิกฤตการณ์ทางการเงิน และได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐอย่างต่อเนื่อง ผ่านสิทธิประโยชน์ในด้านกฎเกณฑ์ เช่น การให้ตราสารหนี้ของบริษัทสามารถนับเป็นสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องของธนาคารพาณิชย์ได้และการได้รับการยกเว้นภาษี ซึ่งเป็นปัจจัยที่มีส่วนช่วยสนับสนุนความสามารถในการระดมเงินกู้ยืมและผลการดำเนินงานของบริษัท BAM มีบทบาทที่สำคัญต่อระบบสถาบันการเงินไทยในฐานะที่เป็นองค์กรบริหารหนี้ด้อยคุณภาพที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศ BAM มีผลการดำเนินงานที่ดีและมีกำไรสม่ำเสมอมาอย่างต่อเนื่อง แนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบนั้นสะท้อนถึงแผนการลดสัดส่วนการถือหุ้นใน BAM ของกองทุนฟื้นฟูฯ โดยการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ฟิทช์เชื่อว่าแผนการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์มีแนวโน้มที่จะแล้วเสร็จมากขึ้นในระยะปานกลาง เนื่องจากกระบวนการในการเตรียมความพร้อมในการเข้าจดทะเบียนของ BAM ที่เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2557 ได้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้วเป็นส่วนใหญ่ แม้ว่ารายละเอียดของแผนการดังกล่าวและระยะเวลายังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน แต่อย่างไรก็ตามแผนการลดสัดส่วนการถือหุ้นดังกล่าวสะท้อนว่าภาครัฐไม่ได้มอง BAM ในฐานะองค์กรหลักของรัฐในระยะยาว นอกจากนี้ยังมีความเป็นไปได้ที่ BAM อาจจะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ในด้านกฎเกณฑ์อีกต่อไปหลังจากการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิและไม่มีหลักประกันของ BAM ได้รับการจัดอันดับเครดิตให้อยู่ในระดับเดียวกันกับอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของบริษัท เนื่องจากหุ้นกู้ดังกล่าวเป็นภาระผูกพันที่ไม่ด้อยสิทธิและไม่มีหลักประกันของบริษัท ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต การเปลี่ยนแปลงในโครงสร้างผู้ถือหุ้นน่าจะส่งผลกระทบในเชิงลบต่ออันดับเครดิตของ BAM โดยระดับของการเปลี่ยนแปลงในอันดับเครดิตจะขึ้นอยู่กับระดับความสัมพันธ์ของบริษัทกับภาครัฐและสัดส่วนการถือหุ้นของภาครัฐในอนาคต การลดสัดส่วนการถือหุ้นของภาครัฐลงไปต่ำกว่า 50% และการยกเลิกสิทธิประโยชน์ในด้านกฎเกณฑ์อาจส่งผลให้อันดับเครดิตถูกปรับลดอับดับลงหลายอันดับ และปัจจัยในการพิจารณาอันดับเครดิตจะขึ้นอยู่กับระดับหนี้สินและฐานะทางการเงินโดยรวมของบริษัทในอนาคตด้วย การยกเลิกแผนการลดสัดส่วนการถือหุ้นใน BAM และสัญญาณที่บ่งชี้ว่าภาครัฐจะยังคงให้การสนับสนุนในระยะยาว โดยการคงสัดส่วนการถือหุ้นใน BAM ไว้ในระดับเดิม รวมทั้งการคงผลประโยชน์ในด้านกฎเกณฑ์ที่เอื้ออำนวยต่อบริษัท อาจส่งผลให้แนวโน้มอันดับเครดิตถูกปรับเป็นมีเสถียรภาพและมีการทบทวนอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวใหม่ การเปลี่ยนแปลงของอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ BAM น่าจะส่งผลกระทบในทิศทางเดียวกันต่ออันดับเครดิตของหุ้นกู้ รายละเอียดทั้งหมดของอันดับเครดิตมีดังต่อไปนี้: - อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวคงอันดับเครดิตที่ 'AA-(tha)' แนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบ - อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นคงอันดับเครดิตที่ 'F1+(tha)' - อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิไม่มีหลักประกัน คงอันดับเครดิตที่ 'AA-(tha)' - อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิไม่มีหลักประกัน ให้อันดับเครดิตที่ 'AA-(tha)'

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ