กรุงเทพฯ--9 พ.ค.--นิโอ ทาร์เก็ต
โครงการ 30 บาทจะมีส่วนผลักดันให้ตลาดเครื่องมือแพทย์เติบโต
สไตรเกอร์ ตั้งเป้าว่าจะโตขึ้น 50% มาที่ 200 ล้านบาท
บริษัท สไตรเกอร์เอเซียอาคเนย์ ซึ่งเป็นสาขาหนึ่งของ บริษัท สไตรเกอร์ บริษัทชั้นนำ 1 ใน 400 ราย ที่ Fortune ประกาศจัดสุดยอด 500 อันดับโลก เชื่อมั่นว่าประเทศไทยมีศักยภาพที่จะเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของภูมิภาคนี้ ทั้งนี้จากการเปิดเผยของ มร.สตีเฟ่น โค กรรมการผู้อำนวยการ
มร. โค กล่าวว่ารัฐบาลไทยได้พยายามที่จะทำหลายอย่างเพื่อสร้างเสริมสุขภาพของประชาชน เช่น โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค ขณะเดียวกันรัฐบาลยังได้สนับสนุนให้ประเทศเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพในภูมิภาคนี้ด้วย
“ที่ผ่านมาการส่งเสิรมจากภาครัฐบาล ผสมผสานกับแหล่งท่องเที่ยวที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้เรื่องดังกล่าวประสบความสำเร็จได้ด้วยดี
“อย่างไรก็ดียังมีองค์ประกอบอื่น ๆ อีก เช่น การเลือกตั้งที่รัฐบาลชุดเดิมได้กลับเข้ามาใหม่ ย่อมหมายถึงจะไม่เปลี่ยนแปลงนโยบายเดิม รวมทั้งเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนเงินต่างประเทศ และการขยายตัวของเศรษฐกิจด้วย
“ถึงแม้จะไม่นับรวมคนไข้ต่างชาติ จำนวนคนไทยที่ห่วงสุขภาพตัวเองมากขึ้น ถือเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างความต้องการสินค้าเทคโนโลยี่จากสไตเกอร์เพิ่มขึ้น ” มร.โค กล่าว
มร.โค กล่าวอีกว่าปัจจุบันประเทศไทยได้รับการมองว่าเป็นประเทศที่น่าสนใจเพราะขณะนี้ประเทศไทยกำลังตื่นตัวการให้บริการด้านสปา อีกทั้งแรงดึงดูดของตลาดท่องเที่ยวช่วงวันหยุด และการตื่นตัวด้านการให้บริการทางการแพทย์อย่างแพร่หลายในโครงข่ายโรงพยาบาลต่าง ๆ
มร.โค กล่าวว่าประเทศไทยมีชื่อเสียงอย่างมากในเรื่องการให้บริการ ซึ่งเป็นผลมาจากจิตที่มีความตั้งใจในการให้บริการที่ดีของคนไทย โดยเฉพาะในธุรกิจโรงพยาบาลเอกชน ทำให้บริการทางการแพทย์ของประเทศไทยอยู่ในระดับแนวหน้าเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคนี้
“แพทย์ไทยมีความสามารถสูง ยิ่งปริมาณคนไข้มากเท่าไร ก็เท่ากับเป็นการเพิ่มพูนประสบการณ์ให้กับคณะแพทย์ที่จะสามารถพัฒนาการให้บริการได้ดีกว่าหลาย ๆ ประเทศที่แพทย์เหล่านั้นมีจำนวนคนไข้น้อยกว่า ขณะเดียวกันแพทย์ไทยมีคุณภาพมากขึ้นเนื่องจากแพทย์จำนวนมากผ่านการศึกษาจากมหาวิทยาลัยชั้นนำทั้งในประเทศไทยไทยและต่างประเทศ รวมทั้งยังมีแพทย์อีกจำนวนมากที่เข้าร่วมในโครงการระดับโลกของสมาคมต่าง ๆ และยังมีอีกไม่น้อยที่ร่วมด้านการศึกษา/การวิจัยกับสถาบันต่าง ๆ ในต่างประเทศ หรือร่วมในการวิจัยพัฒนาบางกรณีที่เกี่ยวเนื่องกับเครื่องมือแพทย์อันทันสมัย“ มร.โค กล่าว
มร.โค กล่าวว่ารัฐบาลควรให้มีการฝึกอบรมอย่างต่อเนื่องให้กับบุคลากรทางการแพทย์ ทั้งระดับต่ำกว่าปริญญา ระดับปริญญา หรือสูงกว่านั้น
“เมื่อชาวตะวันตกมาท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ประเทศไทยต้องให้ความเชื่อมั่นได้ว่าระบบการรักษาพื้นฐานของประเทศในโรงพยาบาลต่าง ๆ มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งด้านงานสาธารณสุขก็จะต้องได้รับการพัฒนาไปควบคู่กับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ โดยเฉพาะชาวต่างชาติ รัฐบาลไทยจะต้องรักษาความเชื่อมั่นและความน่าสนใจของสาธารณสุขไทย” มร.โค กล่าว
มร.โค กล่าวเพิ่มเติมว่าภัยพิบัติสึนามิเมื่อเร็ว ๆ นี้ ได้ยกระดับความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยกับนานาประเทศให้มีความกระชับมากยิ่งขึ้น
“รัฐบาลควรทำงานอย่างรวดเร็วในการพลิกฟื้นพื้นที่ที่ได้รับภัยพิบัติเพื่อนำชีวิตของชุมชนกลับมาโดยเร็ว ความช่วยเหลือนี้ไม่เพียงแต่ไปถึงผู้ประสบภัยพิบัติเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุนทั่วโลกและยังส่งผลไปถึงธุรกิจท่องเที่ยวเชิงสุขภาพด้วย พร้อมกันนี้ ยังเป็นการสร้างชื่อเสียงไปทั่วโลกด้วย ยิ่งการลงทุนจากต่างชาติมากเท่าไร ก็เท่ากับเป็นการช่วยเหลือคนไทยมากเท่านั้น” มร.โค กล่าว
สไตรเกอร์ เป็นบริษัทจำหน่ายอุปกรณ์การแพทย์ชั้นนำ 1 ใน 400 ราย ที่ Fortune ประกาศจัดสุดยอดบริษัท 500 อันดับโลก โดยมียอดขายในปี 2547 มากกว่า 4.25 พันล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้ สไตรเกอร์ถูกจัดให้ใหญ่เป็นอันดับ 4 และมีการเติบโตเร็วที่สุดเป็นอันดับ 1 ในอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์
“เราเป็นบริษัทขายเครื่องมือแพทย์ที่มีการเติบโตอย่างมั่นคงและรวดเร็วที่สุด โดยมีอัตรากำไรเติมโตคงที่ประมาร 20%ต่อปี มานานกว่า 20 ปีแล้ว” มร.โค กล่าว
มร.โค ยังเชื่อว่าสไตรเกอร์ตั้งเป้ายอดขายที่ 200 ล้านบาทในปีนี้ ซึ่งหากสามารถทำได้ตามเป้าหมาย ก็จะเป็นการรักษาอัตราเติบโตที่สไตรเกอร์สามารถทำได้ในอดีตที่ประมาณ 30-50% ทุกปี ซึ่งประเทศไทยถือเป็นตลาดหลักในภูมิภาคนี้
ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ วิรัตน์ ตรีรานุรัตน์
Neo Target Company
Telephone: 02 631 2290-5
Fax: 02 234 6192-3--จบ--