กรุงเทพฯ--28 ส.ค.--IR PLUS
บมจ.ฟลอยด์ หรือ FLOYD พร้อมเสนอขายหุ้นไอพีโอจำนวน 90 ล้านหุ้น หลังสำนักงาน ก.ล.ต.นับหนึ่งไฟลิ่ง คาดเทรด mai ภายในปีนี้ ชูจุดเด่นเป็นหนึ่งในผู้รับเหมาติดตั้งงานระบบไฟฟ้าและเครื่องกล และงานวิศวกรรมระบบสาธารณูปโภคประกอบอาคาร ซึ่งมีผลงานที่เป็นที่ยอมรับทั้งในเรื่องคุณภาพงานและการบริการ ด้วยทีมงานวิศวกรที่มีประสบการณ์และความชำนาญในธุรกิจที่ยาวนานมามากกว่า 29 ปี
นายสัมฤทธิ์ชัย ตั้งหะรัฐ กรรมการผู้จัดการฝ่ายวาณิชธนกิจ 5 บริษัทหลักทรัพย์เออีซี จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น บริษัท ฟลอยด์ จำกัด (มหาชน) หรือ FLOYD กล่าวว่า ปัจจุบัน FLOYD มีทุนจดทะเบียน 180 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 360 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท เรียกชำระแล้ว 270 ล้านบาท และจะเสนอขายหุ้นไอพีโอจำนวน 90 ล้านหุ้น หรือ 25% ของหุ้นที่ออกและเรียกชำระแล้วภายหลังการเสนอขายหุ้นไอพีโอ โดยคาดว่าจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ได้ภายในปี 2560 ภายใต้ชื่อหลักทรัพย์ "FLOYD"
ด้านนายทศพร จิตตวีระ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟลอยด์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หลังจาก ก.ล.ต.นับหนึ่งไฟลิ่ง นับเป็นสัญญาณที่ดีในการเดินหน้าตามแผนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งการระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ในครั้งนี้ จะช่วยให้บริษัทฯสามารถนำเงินทุนดังกล่าวไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนขยายกิจการเพื่อรองรับการเติบโตของกิจการ ในขณะที่เงินทุนอีกส่วนหนึ่งจะใช้ในการลงทุนก่อสร้างอาคารสำนักงานและศูนย์อบรม เพื่อเพิ่มศักยภาพและความสามารถของพนักงานในการให้บริการเพื่อรองรับการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต
ทั้งนี้ บริษัท ฟลอยด์ จำกัด (มหาชน) จดทะเบียนก่อตั้ง เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ.2531 โดยกลุ่มวิศวกรที่มีความชำนาญเฉพาะทางในการดำเนินธุรกิจรับเหมาติดตั้งงานระบบไฟฟ้าและเครื่องกลหรือที่รวมเรียกว่า MEP (Mechanical, Electrical and Plumbing Engineering) โดยขอบเขตการให้บริการของบริษัทฯ จะครอบคลุมตั้งแต่ งานรายละเอียดทางวิศวกรรม (Detailed Engineering) การจัดหาวัตถุดิบ (Procurement) และงานรับเหมาติดตั้งระบบไฟฟ้า ระบบสื่อสาร,ระบบสุขาภิบาลและระบบป้องกันอัคคีภัย และระบบปรับอากาศ (Construction) โดยมีลูกค้าหลักอยู่ใน กลุ่มห้างสรรพสินค้าและค้าปลีก กลุ่มอาคารห้องชุดเพื่อการพักอาศัย อาคารสำนักงาน กลุ่มโรงพยาบาล กลุ่มมหาวิทยาลัย และกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมเป็นต้น