นนทบุรี--28 ก.ย.--อย.
เตือน ผู้ผลิต ร้านอาหาร ภัตตาคาร โรงแรม ผู้จำหน่าย ห้ามผลิต ใช้หรือจำหน่ายผลิตภัณฑ์แอลกอฮอล์อุ่นอาหารที่ทำจากเมทิลแอลกอฮอล์ เพราะเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค ทำให้ปวดศีรษะ ตาพร่า หากสูดดมในปริมาณมาก อาจทำให้เสียชีวิตได้ ถ้าตรวจพบจะดำเนินการตามกฎหมายทันที
น.พ.บุญชัย สมบูรณ์สุข รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า จากการนิเทศงานของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสุพรรณบุรี ในการออกเก็บตัวอย่างผลิตภัณฑ์แอลกอฮอล์อุ่นอาหารในท้องตลาด ร้านอาหาร ส่งให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ตรวจวิเคราะห์ และแจ้งมายังสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา พบว่า ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมีเมทิลแอลกอฮอล์ หรือเมทานอลผสมอยู่มากกว่า 1% เป็นจำนวนมาก ซึ่งจะเป็นอันตรายอย่างมากต่อผู้บริโภค เพราะหากสูดดมทั่วไป จะทำให้เกิดอาการปวดศีรษะ ตาพร่า แต่ถ้าสูดดมเข้าไปในปริมาณมาก อาจทำให้เสียชีวิตได้ โดยขณะนี้ทางจังหวัดอยู่ในระหว่างการดำเนินการต่อไปแล้ว ทั้งนี้ อย. ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบในการควบคุมวัตถุอันตรายทางสาธารณสุขตามพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 ได้มีประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง บัญชีรายชื่อวัตถุอันตราย (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2543 ห้ามผลิตภัณฑ์ที่ใช้เป็นเชื้อเพลิงในการประกอบหรืออุ่นอาหารทำจากเมทิลแอลกอฮอล์ โดยกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุ่นอาหารที่มีเมทิลแอลกอฮอล์หรือเมทานอลมากกว่า 1% โดยปริมาตร เป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 ซึ่งห้ามมิให้มีการผลิต นำเข้า ส่งออก หรือมีไว้ในครอบครอง หากฝ่าฝืนจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
การเลือกซื้อผลิตภัณฑ์อุ่นอาหารอาจพิจารณาได้จากฉลาก หากเป็นแอลกอฮอล์แข็ง จะต้องแสดงข้อความบนภาชนะบรรจุให้เป็นไปตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม กล่าวคือ มีเครื่องหมายและเลขที่ มอก.950-2533 มีข้อความว่า "แอลกอฮอล์แข็งสำหรับใช้เป็นเชื้อเพลิง" "ห้ามรับประทาน" นอกจากนี้มีชื่อผู้ผลิตหรือโรงงานที่ผลิต ข้อควรระวังหรือคำเตือน เช่น วัตถุไวไฟ เก็บให้พ้นมือเด็ก เก็บให้ห่างจากแหล่งให้ความร้อนและเปลวไฟ คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีใช้ การเก็บรักษา อายุการเก็บ น้ำหนักสุทธิ วันเดือนปีที่ผลิต รหัสรุ่นที่ผลิต เป็นต้น
จึงขอเตือนผู้ประกอบการ อย่าได้ฝ่าฝืนผลิตใช้ หรือจำหน่ายผลิตภัณฑ์อุ่นอาหารที่ทำจากเมทิลแอลกอฮอล์ เพราะจะเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค รวมทั้งเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายด้วย โดยขณะนี้ อย.มีการตรวจติดตามอย่างต่อเนื่อง หากตรวจพบจะดำเนินการตามกฎหมายทันที รองเลขาธิการฯ กล่าวในที่สุด--จบ--
-สส-