กรุงเทพฯ--28 ส.ค.--บล.เอเชีย เวลท์
บล.เอเชีย เวลท์ คาดสัปดาห์นี้หุ้นไทยจะขยับขึ้นได้หลังปัจจัยทางการเมือง กรณีคดีจำนำข้าว คลี่คลายไปไม่มีความรุนแรง โดยยังคงต้องติดตามปัจจัยต่างประเทศทั้งการปฏิรูปภาษีและการขยายเพดานหนี้สาธารณะของรัฐบาลสหรัฐ ตลอดจนทิศทางนโยบายการเงินจาก Federal Reserve และธนาคารกลางที่สำคัญอื่น ๆ ต่อไป สำหรับ Trading Idea ประจำสัปดาห์นี้ แนะนำหุ้น BCH ราคาเป้าหมาย 16.10 บาท
นายวรุตม์ ศิวะศริยานนท์ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย เวลท์ จำกัด กล่าวว่า สัปดาห์นี้คาดว่า หุ้นไทยขยับขึ้นหลังจากอดีตนายกยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้เดินทางออกนอกประเทศแทนที่จะเข้ารับฟังคำพิพากษาคดีจำนำข้าว ทำให้ยุติความเป็นไปได้ในการเผชิญหน้าและการประท้วงที่อาจเกิดขึ้น รวมทั้งลดความร้อนแรงทางการเมืองที่อาจพุ่งขึ้นได้ไปด้วย
ด้านปัจจัยต่างประเทศ ยังไม่มีการส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในครั้งต่อไปตลอดจนการลดขนาดงบดุลของทั้ง ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Federal Reserve) และ ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) หลังจากที่นางเจเน็ต เยลเลน ประธาน Fed และนายมาริโอ ดรากี ประธาน ECB กล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมเศรษฐกิจประจำปีของ Fed ที่เมืองแจ็กสัน โฮล โดยไม่ได้กล่าวถึงนโยบายการเงิน และทิศทางการขึ้นหรือไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ Fed และ ECB สำหรับครั้งต่อไป ในคำปราศรัย เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ทำให้ตลาดยังไม่มีข้อมูลเพิ่มเติมอย่างที่คาดหวังกันไว้ก่อนหน้า
ขณะที่ทำเนียบขาวได้แถลงว่า สัปดาห์นี้ นายโดนัลด์ ทรัมป์ จะมุ่งเน้นเรื่องปฏิรูปภาษี และเพดานหนี้สาธารณะ ซึ่งน่าจะเป็นปัจจัยบวก อย่างไรก็ดี จะต้องติดตามว่าจะดำเนินการได้มากน้อยแค่ไหน
ด้านปัจจัยภายในประเทศกระทรวงการคลังและคณะกรรมการร่วม 3 สถาบันภาคเอกชน (กกร.) กำลังจะปรับขึ้นคาดการณ์ GDP สำหรับปีนี้ และอาจปีหน้าด้วย ซึ่งเป็นปัจจัยบวก
ด้านราคาน้ำมัน น่าจะปรับตัวขึ้น จากการที่พายุเฮอริเคน ฮาวี่ร์ ได้เพิ่มระดับความรุนแรงไประดับ 4 ส่งผลให้โรงกลั่นในสหรัฐฯ ปิดทำการโรงกลั่นนอกชายฝั่งสหรัฐฯ ซึ่งมีกำลังการผลิตรวม 10% ของกำลังการผลิตของสหรัฐฯ ซึ่งปัจจัยนี้ส่งผลบวกต่อราคาน้ำมันดิบและหุ้นพลังงาน
นายวรุตม์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับ Trading Idea สัปดาห์นี้ บล.เอเชีย เวลท์ แนะนำซื้อ BCH ของ บมจ. บางกอก เชน ฮอสปิทอล ราคาเป้าหมาย 16.10 บาท จากผลการดำเนินงานไตรมาส 2/60 ของบริษัทที่ออกมาค่อนข้างดี และการคาดการณ์ว่ากำไรจะเร่งตัวขึ้นไปอีกในช่วงครึ่งหลังของปี โดยที่ BCH รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 2/60 ที่ 172 ล้านบาท (+4% QoQ และ +10% YoY) แม้ว่าจะเป็นช่วงโลว์ซีซั่น แต่กำไรบริษัทสามารถเติบโตขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสก่อน (QoQ) ได้ ซึ่งสวนทางกับอุตสาหกรรม หนุนโดยรายได้จากกิจการโรงพยาบาลที่เพิ่มขึ้น และความสามารถในการทำกำไรที่เพิ่มขึ้นของโรงพยาบาลเวิลด์เมดิคัล
"เราคาดกำไรสุทธิบริษัทจะเร่งตัวขึ้นในครึ่งปีหลัง หนุนโดยช่วงไฮซีซั่น และอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญจากการปรับขึ้นค่าเหมาจ่ายจากสำนักงานประกันสังคม ซึ่งมีผลนับตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 2560 ที่ผ่านมา หนึ่งในการปรับขึ้น ได้แก่ การปรับเพิ่มค่าบริการทางการแพทย์เหมาจ่ายรายหัวต่อปีจาก 1,460 บาทเป็น 1,500 บาท ซึ่งจะส่งผลประโยชน์ต่อ BCH อย่างมากเนื่องจากบริษัทมีจำนวนผู้ประกันตนมากเกือบถึง 800,000 ราย
นอกจากนั้นแล้ว เราคาดโรงพยาบาลเวิลด์เมดิคัลจะเริ่มแสดง EBITDA เป็นบวกนับตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป หนุนโดยการออกกลยุทธ์ทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง เราคาดการณ์กำไรสุทธิ BCH จะเติบโตอย่างแข็งแกร่งที่ 13.4% ในปี 60 และ 20.1% ในปี 61 หุ้น BCH มีกำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 28 ส.ค. 2560 จึงแนะนำให้เข้าซื้อเมื่อราคาหุ้นอ่อนตัวอันเป็นผลจากการที่จะจ่ายเงินปันผล" นายวรุตม์ กล่าว
ด้านปัจจัยทางเทคนิค รูปแบบราคา (Price Pattern) ของ BCH ยังมีความแข็งแกร่งอย่างมากในแนวโน้มหลักที่เป็นแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) จากการเกิดทั้งสัญญาณซื้อรายวัน รายสัปดาห์ และรายเดือน เมื่อพิจารณารูปแบบราคาแล้ว BCH มีเป้าหมายถัดไปของการทำ New High อยู่ที่ 18 บาท ทั้งนี้ BCH มีจุด Stop Loss ระยะสั้น อยู่ที่ 13.50 บาท โดยมีแนวต้านที่ 14.70, 15.00, และ 15.20 บาท และแนวรับ 14.30, 14.10, และ 13.80 บาท