กรุงเทพฯ--29 ส.ค.--ปตท.
สานพลังความร่วมมือบริษัทในกลุ่ม ยกระดับการสนับสนุนกิจกรรมเพื่อสังคม (CSR) สู่การดำเนินธุรกิจเพื่อสังคม (Social Enterprise) โดยสร้างการมีส่วนร่วมและความเข้มแข็งให้แก่ชุมชน ผ่านการส่งเสริมการลงทุนเพื่อพัฒนาวิสาหกิจจากฐานราก
นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า วันนี้ (28 สิงหาคม 2560) บริษัทแกนหลัก (Flagship) ในกลุ่ม ปตท. จำนวน 7 บริษัท ได้ร่วมลงนามในพิธีลงนามสัญญาผู้ถือหุ้นเพื่อจัดตั้ง บริษัท สานพลัง วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด เพื่อสนับสนุนการดำเนินกิจการด้านวิสาหกิจเพื่อสังคม หรือ Social Enterprise ของ กลุ่ม ปตท. ร่วมแก้ไขปัญหาสังคม ชุมชน สิ่งแวดล้อม และส่งเสริมสนับสนุนการจ้างงานชุมชนในท้องถิ่น ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงส่งเสริมนโยบายภาครัฐที่ต้องการให้ภาคเอกชนและประชาชน ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศและแก้ไขปัญหาร่วมกัน ผ่านการส่งเสริมและพัฒนาวิสาหกิจเพื่อสังคมเพื่อสร้างความเข้มแข็งภายในประเทศ
บริษัท สานพลัง วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด ที่จะจัดตั้งขึ้นภายในเดือนกันยายน ศกนี้ มีทุนจดทะเบียนประมาณ 10 ล้านบาท โดยมี บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นร้อยละ 20 บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ร้อยละ 15 บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) ร้อยละ 15 บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ร้อยละ 15 บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) ร้อยละ 15 บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) ร้อยละ 10 และ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด ร้อยละ 10 ซึ่งบริษัทฯ จะดำเนินธุรกิจขายสินค้าหรือการให้บริการเพื่อสังคมแบบรวมศูนย์ร่วมกัน เพื่อให้เกิดการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ โดยกำไรที่เกิดขึ้นจากการดำเนินโครงการจะถูกจัดสรรนำไปสร้างโครงการวิสาหกิจเพื่อสังคมใหม่หรือใช้เพื่อประโยชน์ส่วนรวมต่อไป ทั้งนี้ โครงการวิสาหกิจเพื่อสังคมนำร่องของบริษัท สานพลัง วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด ได้แก่ โครงการคาเฟ่ อเมซอนสำหรับผู้ด้อยโอกาส โครงการจัดหาเมล็ดกาแฟจากชุมชนสำหรับร้านคาเฟ่อเมซอน ศูนย์พัฒนาศักยภาพเด็กก่อนประถมวัย เป็นต้น
"กลุ่ม ปตท. หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ความร่วมมือในการดำเนินงานในครั้งนี้ จะเป็นการดำเนินกิจการเพื่อสังคมที่สามารถสร้างผลลัพธ์ทางสังคมได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยมุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจและการลงทุนที่ให้สังคมและชุมชนมีส่วนร่วม (Inclusive Business) มากขึ้น เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้แก่ชุมชน ส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนอย่างยั่งยืน และเป็นการขับเคลื่อนกลุ่ม ปตท. ไปสู่การเป็นองค์กรแห่งความภาคภูมิใจของคนไทยทั้งประเทศต่อไป" นายเทวินทร์ กล่าวเสริม