กรุงเทพฯ--29 ส.ค.--ซีพีเอฟ
ทัพนักกีฬาทีมชาติไทย เปิดฉากลงแข่งขันลุ้นเหรียญทองกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วแม้ว่าพิธีเปิดศึกซีเกมส์ ครั้งที่ 29 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย จะมีขึ้นวันที่ 19 ส.ค.นี้ก็ตาม ซึ่งต้องบอกว่าขณะนี้นักกีฬาทุกคนพร้อมทั้งกำลังกายและกำลังใจเกินร้อย โดยมีเครือซีพีจัดเต็มสนับสนุนทั้งอาหารและการสื่อสาร
นักกีฬาไทยทุกคนลับฝีมือมาเต็มที่เพื่อเป้าหมายเพียงหนึ่งเดียวก็คือการครองตำแหน่ง "เจ้าเหรียญทอง" ในซีเกมส์ครั้งนี้ แต่อย่างไรก็ตามก่อนเปิดฉากแข่งขันอย่างเป็นทางการได้มีเสียงร้องทุกข์มาที่ "บิ๊กต้อม" ธนา ไชยประสิทธิ์ หัวหน้าคณะนักกีฬาไทย ว่านักกีฬาไทยชุดแรกที่เดินทางไปถึงประเทศมาเลเซีย และเข้าพักตามโรงแรมต่าง ๆ ที่เจ้าภาพจัดไว้ให้ เริ่มมีปัญหาเรื่องของอาหารแล้ว ซึ่งนักกีฬารับประทานได้ไม่มากนัก และต้องหาอาหารรับประทานเองบางส่วน
แน่นอนว่าปัญหาเหล่านี้ได้ถูกจัดการให้หมดไปในทันทีโดยความร่วมมือของ คณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) และบริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด ที่ดำเนินการจัดตั้ง "ไทยเฮ้าส์" เพื่อดูแลและอำนวยความสะดวกให้นักกีฬาไทยในเรื่องโภชนาการที่จะจัดทำอาหารปรุงสดไว้คอยบริการ รวมถึงด้านการแพทย์ วิทยาศาสตร์การกีฬา อีกทั้งยังมีรถรับส่งเพื่อเดินทางมารับประทานที่ครัวไทยเฮ้าส์และส่งอาหารด้วยกล่องเก็บความร้อนถึงที่ พร้อมระบุเวลาที่ต้องรับประทานภายในเวลาที่กำหนดด้วย
นายสกล วรรณพงษ์ ผู้ว่าการ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) กล่าวว่า "แผนเดิมไทยเฮาส์จะให้บริการตั้งแต่วันที่ 17 ส.ค. แต่เมื่อทราบเรื่องนี้ ตนจึงได้สั่งการให้ทีมประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ 10 คน และแม่ครัว 4 คนเดินทางไปมาเลเซียทันที ในวันที่ 15 ส.ค. เพื่อเปิดให้บริการด้านอาหารเป็นอันดับแรกก่อน โดยทันทีที่ไทยเฮ้าส์เปิดวันแรก เมนูที่ทุกคนจะได้กินแน่นอนคือ ไข่เจียว และผัดกะเพรา และจะปรับเปลี่ยนรายการอาหารเรื่อย ๆ ไป เพื่อเป็นการสนับสนุนด้านโภชนจิต นักกีฬาจะต้องมีความพร้อมทั้งทางกายที่แข็งแกร่ง และจิตใจที่เข้มแข็ง อาหารเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้นักกีฬามีสุขภาพกาย ใจที่ดีก่อนการแข่งขัน"
สำหรับวัตถุดิบต่างๆ ที่นำมาใช้ประกอบอาหารนั้นนับได้ว่าสดใหม่และถูกสุขอนามัยร้อยเปอร์เซ็นต์ โดย "เครือเจริญโภคภัณฑ์" ในฐานะผู้สนับสนุนด้านการอาหารให้แก่ทัพนักกีฬาไทย และเป็นผู้นำธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารในประเทศมาเลเซีย ได้เปิดโรงงานสายผลิตใหม่ในแดนเสือเหลืองเพื่อนักกีฬาไทยโดยเฉพาะ ซึ่งจะทำให้นักกีฬาได้ทานอาหารที่สดใหม่และมีเมนูที่หลากหลายทั้งเมนูที่มีรสชาติคุ้นเคยถูกปากและเมนูสุดพิเศษที่ผลิตในประเทศมาเลเซียรวมทั้งสิ้นถึง 11 เมนู นอกจากนี้ยังมีเมนูที่ส่งตรงจากประเทศไทยซึ่งเป็นอาหารพร้อมรับประทานที่ได้นำศักยภาพของแต่ละกลุ่มธุรกิจในเครืออย่าง บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่น ร้านอิ่มสะดวกของคนไทย มาผนึกกำลังร่วมกัน
ขณะเดียวกันในเรื่องของ "กำลังใจ" ก็หายห่วงเพราะก่อนการแข่งขัน บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้สนับสนุนด้านการสื่อสารให้แก่ทัพนักกีฬาไทย ได้มอบซิมโรมมิ่ง จากทรูมูฟ เอช ที่สามารถโทรออก รับสาย ส่งข้อความ และใช้ Non-Stop ดาต้าโรมมิ่งทั้ง 4G และ 3G ให้กับนักกีฬาทุกคนได้ใช้ตลอดการแข่งขันในประเทศมาเลเซีย เพื่อติดต่อสื่อสารกลับมาหาครอบครัว เพื่อน เพื่อรับกำลังใจก่อนลงชิงชัยสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติ
นอกจากนี้แฟนกีฬาไทย ยังสามารถร่วมส่งแรงใจเชียร์ทัพนักกีฬาไทยได้ผ่านทางแคมเปญ "ร่วมภูมิใจ ร่วมเชียร์ไทย ด้วยหัวใจนักสู้ #ทีมชาติไทย" ด้วยการส่งภาพและข้อความพร้อมพิมพ์ "ร่วมภูมิใจ ร่วมเชียร์ไทย ด้วยหัวใจนักสู้" และใส่แฮชแท็กคำว่า #ทีมชาติไทย ผ่านโซเชียลมีเดียทุกช่องทาง ซึ่งนักกีฬาทุกคนจะสามารถรับรู้พลังใจเหล่านี้ได้ทันท่วงทีแม้จะอยู่คนละประเทศก็ตาม
ด้าน นายขจร เจียรวนนท์ กรรมการบริหาร บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด กล่าวว่า "เครือเจริญโภคภัณฑ์ พร้อมด้วย บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน), บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) มีความยินดีและภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมสนับสนุนนักกีฬาทีมชาติไทยเข้าแข่งขันในรายการซีเกมส์ 2017 ซึ่งด้วยศักยภาพของเราในการเป็นผู้นำด้านธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและการสื่อสาร เชื่อว่านักกีฬาทุกคนจะไม่มีปัญหาในเรื่องอาหารและการติดต่อสื่อสารให้ต้องพะวง และจะทำให้มีสมาธิมุ่งทำหน้าที่และสร้างผลงานให้กับประเทศได้เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ โดยสุดท้ายนี้เราขอเป็นกำลังใจให้ทัพนักกีฬาไทย คว้าชัยชนะกลับมาให้คนไทยได้ชื่นชมตามที่ตั้งใจไว้"
เรียกได้ว่าขณะนี้นักกีฬาไทยทุกประเภทมีความพร้อมเกินร้อย และเชื่อว่าจะกวาดเหรียญทองมาให้คนไทยได้ชื่นมื่นเกินเป้าที่ตั้งไว้อย่างต่ำ 109 เหรียญทอง แน่นอน
ทั้งนี้เมนูอาหารในศึกซีเกมส์ 2017 ทั้ง 11 เมนู จาก "เครือเจริญโภคภัณฑ์" ประกอบด้วย เมนูส่งออกจากประเทศไทย : เกี๊ยวกุ้ง, เกี๊ยวกุ้งต้มยำ, บะหมี่เกี๊ยวกุ้ง และเมนูที่ผลิตในมาเลเซีย : ข้าวอบใบเตยมาเลเซียและแกงไก่, ผัดหมี่ทรงเครื่อง, กะเพราไก่, ข้าวไก่ย่างเทริยากิ, สปาเก็ตตี้ไก่สับ, ข้าวแกงเขียวหวานเนื้อ, อกไก่พริกไทยดำ, ไข่เจียวไก่สับ