กรุงเทพฯ--30 ส.ค.--การบินไทย
เชื่อว่าใครก็ตามที่หลงใหลดนตรีคลาสสิก ศิลปะ ความงดงามแห่งศิลปะ และสถาปัตยกรรม ท่ามกลางบรรยากาศแสนโรแมนติก ต้องนึกถึง "เวียนนา" (Vienna) เมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศออสเตรีย อันขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองแสนสะอาดรายล้อมด้วยธรรมชาติและขุนเขา ทั้งยังได้รับการกล่าวขานว่าเป็นเมืองมีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดในโลกอีกด้วย นอกจากนั้น ในความเป็นเมืองสุดแสนโรแมนติกจึงเป็นฮันนีมูนเดสติเนชั่นในฝันของคู่รักนับล้านรอบโลก และนับเป็นข่าวดีสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยที่การบินลัดฟ้าไปเยือนเวียนนาไม่ได้ยุ่งยากอีกต่อไป เพราะ "การบินไทย" เปิดให้บริการเส้นทางบินตรงสู่เวียนนา เที่ยวบิน TG936/937 (4 เที่ยว/ สัปดาห์) จองบัตรโดยสารได้แล้วตั้งแต่วันนี้ที่ www.thaiairways.com ด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 29,415 บาท เที่ยวบินปฐมฤกษ์ เริ่ม 16 พ.ย.นี้
"การบินไทยได้เปิดเส้นทางบินใหม่ ไป-กลับ กรุงเทพฯ–เวียนนา โดยจะเริ่มให้บริการในวันที่ 16 พ.ย. 60 ทั้งนี้ เวียนนา ถือเป็นจุดบินใหม่ของการบินไทย ตั้งอยู่ในยุโรปกลางและเป็นประตูสู่ภูมิภาคยุโรป ซึ่งผู้โดยสารสามารถเชื่อมต่อการเดินทางสู่เมืองต่างๆ ในยุโรป และจากยุโรปเข้าสู่ประเทศไทยได้อย่างสะดวกสบาย ด้วยเครือข่ายการบินของการบินไทย"
เวียนนา เป็นเมืองหลวงของสาธารณรัฐออสเตรีย ที่มีวัฒนธรรมและความได้เปรียบของทำเลที่ตั้งของประเทศ ที่อยู่ท่ามกลางความสวยงามทางธรรมชาติที่รายล้อมด้วยขุนเขา มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย อาทิ พระราชวังเชินบรุนน์ พระราชวังฮอฟบวร์ก ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก และยังเป็นจุดกำเนิดขนมหวานอันเลื่องชื่อ คือ Sachertorte เป็นเค้กช็อกโกแลตโบราณสอดไส้แยมแอพริคอต นอกจากนี้ ยังได้รับสมญานามว่าเป็น "นครแห่งเสียงดนตรี" เพราะมีนักแต่งเพลงคลาสสิกชื่อดังจำนวนมาก ล้วนแล้วแต่พำนักและสร้างสรรค์เพลงจากที่นี่ทั้งนั้น
"เวียนนา" เป็นเมืองท่องเที่ยวอันโดดเด่นของยุโรป ที่มีเสน่ห์ดึงดูดใจให้น่าไปเยือนอย่างมาก เพราะจะได้มาสัมผัสกับความเพลิดเพลิน ความงดงาม และความโรแมนติกของเมืองเวียนนา ผ่านสถานที่ท่องเที่ยวอันมีชื่อเสียงที่มีอยู่มากมาย ทั้งยังได้รับเลือกให้เป็นเมืองน่าอยู่ที่สุดในโลกประจำปี 2009 จากผลการสำรวจของ Mercer สถาบันที่ปรึกษาการบริหารที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ในสหรัฐอเมริกา และยังนับเป็นเมืองมีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดในโลกแห่งปี 2014 อีกด้วย
สำหรับสถานที่ เมื่อมาเยือนเวียนนาแล้วไม่ควรพลาด สถานที่แรกต้องมาที่ พระราชวังมรดกโลก-พระราชวังเชินบรุนน์ (Schoenbrunn Palace) เป็นพระราชวังฤดูร้อนอันยิ่งใหญ่ของราชวงศ์ฮับส์บวร์ก สร้างขึ้นในปลายศตวรรษที่ 17 โดยพระนางมาเรียเทเรซ่า จักรพรรดินีแห่งจักรวรรดิโรมัน ตั้งพระทัยว่าจะสร้างพระราชวังแห่งนี้ ให้มีความงดงามไม่แพ้พระราชวังแวร์ซายส์ในกรุงปารีส ได้เที่ยวพระราชวังฤดูร้อนแล้ว ก็ต้องมาเที่ยวพระราชวังฤดูหนาวกันด้วย นั่นคือ พระราชวังฮอฟบวร์ก (Hofburg Palace) แต่เดิมวังแห่งนี้เป็นที่ประทับและที่ว่าราชการของจักรพรรดิในราชวงศ์ฮับส์บวร์กตั้งแต่พระองค์แรกจนถึงพระองค์สุดท้าย สืบเนื่องยาวนานกว่า 600 ปี ปัจจุบัน กลายมาเป็นพิพิธภัณฑ์แสดงสมบัติล้ำค่าของราชวงศ์
หลังจากได้ชมวังงามๆ กันแล้ว ควรไปเดินเที่ยวที่ จัตุรัสสเตฟาน (Stephansplatz) ซึ่งถือเป็นจุดศูนย์กลางของกรุงเวียนนา ผู้คนมากมายนิยมมาเดินเที่ยวที่จัตุรัสแห่งนี้ เพราะเป็นที่ตั้งของ มหาวิหารเซนต์สตีเฟน (St. Stephen) อันศักดิ์สิทธิ์ และถือเป็นสัญลักษณ์ของเมืองเวียนนา เป็นโบสถ์ที่สำคัญที่สุดของออสเตรีย สร้างขึ้นเมื่อ ปี ค.ศ.1137 เพื่ออุทิศแด่นักบุญสเตเฟน สร้างตามสถาปัตยกรรมยุโรปแบบโกธิคที่อ่อนช้อยงดงามมาก ตัวโบสถ์มีขนาดใหญ่ ทรงสูง มียอดปลายแหลมหลายยอด ส่วนที่โดดเด่นที่สุดของโบสถ์คือหอคอยทางทิศใต้ที่มีความสูงถึง 136.7 เมตร ใช้เวลาก่อสร้าง 75 ปี หากขึ้นมาบนหอคอยนี้ จะได้เห็นทิวทัศน์โดยรอบของเมืองเวียนนาที่แสนจะสวยงามจากย่านจัตุรัสสเตฟาน ควรเดินสบายๆ มาเที่ยวที่ ถนนคาร์นท์เนอร์ (Karntnerstrasse) กันต่อ ถนนสายนี้เป็นเส้นทางช้อปปิ้งสายสำคัญของเวียนนา มีห้างสรรพสินค้า ร้านค้า เรียงรายตลอดสองข้างทาง เรียกว่าถูกใจขาช้อปแน่นอน ไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้าแบรนด์ดัง เครื่องแก้วคริสตัลเจียระไน ของที่ระลึก และถ้าใครเป็นนักชิม ก็มีร้านอาหาร ร้านไอศกรีม และร้านกาแฟตำรับออสเตรียให้ได้อิ่มอร่อยอย่างจุใจ
เมื่อมาถึงเวียนนานครแห่งเสียงดนตรีทั้งทีจะไม่แวะ บ้านดนตรี (House of Music) ก็ถือว่าพลาด โดยเฉพาะคนที่รักดนตรีต้องปลื้ม เพราะมีเรื่องราวเกี่ยวกับดนตรีให้ศึกษา มีการให้ความรู้เรื่องเสียง ตั้งแต่ขั้นพื้นฐานไปจนถึงขั้นสูง ภายในบ้านดนตรียังได้จัดสรรพื้นที่เป็นห้องพิพิธภัณฑ์ทางดนตรีของเหล่าศิลปินชื่อก้องโลก ไม่ว่าจะเป็น บีโธเฟ่น (Ludwigvan Beethoven), โมสาร์ต (Wolfgang Amadeus Mozart),โยฮัน สเตราส (Johann Strauss) ฯลฯ และยังมีห้องจำลองเสียงต่างๆ ที่ถูกถ่ายทอดผ่านอุปกรณ์แปลกตา
จากนั้น หากอยากผ่อนคลายก็แวะไปเดินเล่นที่ สวนสาธารณะสตัดต์ปาร์ก (Stadtpark) สวนสาธารณะประจำเมืองเวียนนา ที่มีมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1862 ตามการออกแบบของผู้เชี่ยวชาญด้านภูมิสถาปัตย์ มีพื้นที่ขนาดใหญ่กว่า 65,000 ตร.ม. เป็นสถานที่ชาวเวียนนา นิยมมาเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจและใช้เป็นที่ออกกำลังกายท่ามกลางสวนอันร่มรื่นด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ เพลิดเพลินพักผ่อนภายในสวนอย่างสบายใจแล้ว หากนึกอยากสนุก ก็อาจจะแวะไป สวนสนุกพราเตอร์ (Prater) ซึ่งเป็นสวนสนุกที่ใหญ่ที่สุดของออสเตรีย ที่นี่มีเครื่องเล่นให้เลือกเล่นกันอย่างสนุกสนาน อาทิ บ้านผีสิง ม้าหมุน ลูกกลิ้งถาดรองแก้ว โรลเลอร์โคสเตอร์ คาสิโน ฯลฯ และยังมีชิงช้าสวรรค์ (Riesenrad) ขนาดยักษ์สูงกว่า 200 ฟุต เป็นชิงช้าสวรรค์เก่าแก่ที่อยู่คู่เวียนนามาตั้งแต่ ปีค.ศ.1879 หากขึ้นไปนั่งบนชิงช้าสวรรค์ บอกเลยว่า นี่คือการได้ชมวิวอันวิเศษสุดของเวียนนา
นอกจากนี้ เวียนนายังมีสถานที่น่าสนใจอื่นๆ อาทิ พิพิธภัณฑ์ศิลปะที่พระราชวังเบลเวอเดียร์ (Belvedere Palace) พิพิธภัณฑ์เคเอ็ชเอ็ม (KHM- Kunsthistorisches Museum) ที่เป็นพิพิธภัณฑ์อันดับต้นๆ ของโลก โบสถ์เซนต์ปีเตอร์ (St. Peter's Church) โบสถ์เก่าแก่ที่สุดของเวียนนา และโรงอุปรากรเวียนนา (Vienna State Opera) โรงอุปรากรเก่าแก่ประจำเมืองที่ยังเปิดทำการแสดงทุกวัน เป็นต้น
ด้วยความหลากหลายที่กล่าวมา เวียนนา จึงเป็นเมืองที่มีเสน่ห์ เปี่ยมด้วยความสุนทรีย์ ทั้งเสียงดนตรี ศิลปะ และความโรแมนติก ล้วนเป็นแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก
สำหรับผู้โดยสารคนไทยที่สนใจจะไปเยือน "เวียนนา" เมืองอันน่าหลวงใหล การบินไทย พร้อมแล้วที่จะให้บริการ บินไป-กลับ กรุงเทพฯ-เวียนนา สัปดาห์ละ 4 เที่ยวบิน ได้แก่ วันจันทร์ พฤหัสบดี เสาร์ และอาทิตย์ โดยมีรายละเอียด ดังนี้
- เส้นทางบิน กรุงเทพฯ – เวียนนา : TG936 เวลาออกเดินทาง 01.30 น. เวลาถึงที่หมาย 07.00 น.
- เส้นทางบิน เวียนนา – กรุงเทพฯ : TG937 เวลาออกเดินทาง 13.30 น. เวลาถึงที่หมาย 05.20 น. (ของวันรุ่งขึ้น)
ทั้งนี้ บินสบาย จองง่าย จ่ายสะดวก กับการบินไทย เพียงคลิก www.thaiairways.com