กรุงเทพฯ--31 ส.ค.--IR PLUS
ICN ผู้ให้บริการรับเหมาวางระบบ ควง FSS ที่ปรึกษาทางการเงินและแกนนำการเสนอขายหลักทรัพย์ โรดโชว์ให้ข้อมูลนักลงทุนวันที่ 31 ส.ค. 60 ที่กรุงเทพฯ ตอกย้ำปัจจัยพื้นฐานธุรกิจแกร่ง "มนชัย มณีไพโรจน์" ซีอีโอ เผย ICN มีศักยภาพการเติบโตสูง จากงานในมือที่รอรับรู้รายได้แน่นอนในปีนี้ หนุนผลงานครึ่งปีหลังและสิ้นปี 60 โดดเด่น "สมภพ กีระสุนทรพงษ์" ที่ปรึกษาทางการเงินมือฉมัง ตอกย้ำความเชื่อมั่น หลัง ICN ระดมทุน 120 ล้านหุ้น เงินที่ได้นำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนรองรับการเข้าประมูลงานโครงการขนาดใหญ่เพิ่ม ดันผลงานปี 60 และในอีก 3 ปีข้างหน้าให้แรงต่อเนื่องอีก เตรียมสรุปราคาเสนอขายสัปดาห์หน้าและเดินหน้าเข้าจดทะเบียนในตลาด mai ภายในเดือน ก.ย.นี้ ได้ตามแผน
นายมนชัย มณีไพโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินฟอร์เมชั่น แอนด์ คอมมิวนิเคชั่น เน็ทเวิร์คส จำกัด (มหาชน) หรือ ICN เปิดเผยว่า บริษัทฯ นำเสนอข้อมูลแก่นักลงทุนทั่วไป (โรดโชว์) ที่จังหวัดกรุงเทพฯ ร่วมกับบริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย ในวันนี้ (วันที่ 31 สิงหาคม 2560) เพื่อแนะนำข้อมูลธุรกิจ ในฐานะผู้ให้บริการงานวางระบบ (System Integrator) ที่ครบวงจร ทั้งการวางระบบสื่อสารโทรคมนาคมที่มีความเชี่ยวชาญ รวมทั้งงานก่อสร้าง และวางระบบไฟฟ้า นอกจากนี้ ยังเป็นผู้จำหน่ายอุปกรณ์และให้บริการบำรุงรักษาโครงข่าย โดย ICN ได้รับความเชื่อมั่นจากทั้ง Supplier ที่เป็นผู้ผลิตชั้นนำของโลก ไม่ว่าจะเป็น Nokia Alcatel-Lucent และ Huawei รวมทั้งลูกค้ารัฐบาลและเอกชนรายใหญ่ โดยแผนการเข้ามาระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ครั้งนี้ จะยิ่งเสริมความแข็งแกร่ง เพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน และสามารถเข้าประมูลงานโครงการขนาดใหญ่เพิ่มขึ้นในอนาคต
สำหรับแนวโน้มผลประกอบการงวดครึ่งปีหลังของปี 2560 (ก.ค.-ธ.ค. 2560) คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องจากงวดครึ่งปีแรก ที่มีรายได้รวม 377.49 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 115.02 จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่ 175.56 ล้านบาท กำไรสุทธิอยู่ที่ 23.63 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 318.23 จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่ 5.65 ล้านบาท โดยผลงานครึ่งปีแรก 2560 ออกมาใกล้เคียงกับกำไรทั้งปี 2559 ซึ่งมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 27.11 ล้านบาท ขณะที่รายได้รวมอยู่ที่ 570.96 ล้านบาท ภาพรวมธุรกิจในปี 2560 คาดว่าจะเติบโตอย่างโดดเด่นเมื่อเมื่อเทียบกับปี 2559 สำหรับ อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนผู้ถือหุ้น (D/E) ในงวดครึ่งแรกของปี 2560 อยู่ที่ 1.23 เท่า และอัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) อยู่ที่ร้อยละ 23.40 สะท้อนความสามารถของทีมผู้บริหารที่มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจ
นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ ICN กล่าวว่า บริษัทฯ ได้รับอนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2560 และคาดว่าจะสามารถเสนอขายหุ้นและเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในหมวดเทคโนโลยี ภายในเดือนกันยายน โดยการนำเสนอข้อมูลต่อนักลงทุน (โรดโชว์) ในครั้งนี้ เพื่อให้นักลงทุนมีความเข้าใจในธุรกิจ เห็นถึงศักยภาพการเติบโตของบริษัทฯ ที่มีความแข็งแกร่ง จากทีมผู้บริหารที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์มากว่า 25 ปี รวมทั้งมีความสัมพันธ์อันดีกับพันธมิตรเจ้าของผลิตภัณฑ์แบรนด์ชั้นนำของโลก และลูกค้าซึ่งเป็นผู้ให้บริการโทรคมนาคมระดับประเทศทั้งภาครัฐบาลและเอกชน ส่งผลให้ผลประกอบการในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ICN มีการเติบโตอย่างโดดเด่น และเชื่อมั่นว่าจะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง การเข้าถึงแหล่งเงินทุนภายหลังเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) จะยิ่งช่วยสนับสนุนให้บริษัทฯ มีความสามารถในการเข้าประมูลงานโครงการขนาดใหญ่เพิ่มขึ้น สอดรับกับแผนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นโยบายภาครัฐบาลในเรื่องของ Digital Economy ซึ่งจะทำให้ ICN เป็นอีกหนึ่งบริษัทจดทะเบียนที่น่าจับตามอง และมีแนวโน้มการเติบโตสูง จึงเชื่อมั่นว่า ICN จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน
โดยบริษัทฯ เตรียมกำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ พร้อมทั้ง แต่งตั้งบริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย รวมทั้ง ผู้ร่วมรับประกันการจำหน่าย ในสัปดาห์หน้า ก่อนจะเปิดให้จองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุน และคาดว่าจะสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ได้ภายในกลางเดือนกันยายน
สำหรับแผนการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน (IPO) ของ ICN ครั้งนี้จำนวน 120 ล้านหุ้น คิดเป็นร้อยละ 26.67 ของจำนวนหุ้นที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้น โดยกำหนดสัดส่วนการเสนอขายต่อประชาชนทั่วไป 108 ล้านหุ้น และเสนอขายต่อคณะกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานบริษัทฯ 12 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท เงินที่ได้จากการระดมทุนจะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการขยายธุรกิจ