บริษัท รับจ้างหลอน (ไม่) จำกัด กำหนดฉาย 7 ธันวาคม 2544

ข่าวทั่วไป Thursday October 11, 2001 11:41 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--11 ต.ค.--บัวนา วิสต้า อินเตอร์เนชั่นแนล
เนื้อเรื่องย่อ
เมื่อถึงเวลาขึ้นนอน เด็กๆ ทั่วโลกต่างรู้ดีว่า เมื่อพ่อแม่ของพวกเขาพาพวกเขาขึ้นเตียงนอน และปิดไฟมืดเมื่อไหร่ สัตว์ประหลาดที่ซ่อนตัวอยู่หลังประตูตู้เสื้อผ้าจะกระโดดออกมาทันที แต่สิ่งที่พวกเขาไม่เคยรู้เลยก็คือ ที่สัตว์ประหลาดเหล่านี้ต้องหลอกให้เด็กๆ กลัวไม่ใช่แค่เรื่องล้อเล่นส่วนตัว มันคือ "งาน" ของพวกสัตว์ประหลาดทั้งหลาย
มอนสโทรโพลิสคือบ้านของเหล่าประชากรสัตว์ประหลาดที่มีทุกรูปร่างและทุกขนาด แหล่งพลังงานหลักของพวกมันได้มาจากเสียงกรีดร้องของมนุษย์ และโรงงานที่ผลิตเสียงกรีดร้องขนาดใหญ่ที่สุด ก็คือ Monster, Inc. (หรือเอ็มไอ) ทีมสัตว์ประหลาดแถวหน้าของโรงงานจะเดินทางสู่โลกมนุษย์โดยผ่านประตูตู้เสื้อผ้าในยามค่ำคืน ก็เพื่อหลอกเด็กๆ ให้ตกใจกลัว และเก็บเสียงกรีดร้องของพวกเขาเอาไว้ ที่ทำให้งานนี้ยากมากขึ้นก็คือความจริงที่ว่า สัตว์ประหลาดเหล่านี้เชื่อว่าพวกเด็กๆ คือของมีพิษ และถ้าไปแตะโดนตัวเด็กเข้าจะนำมาซึ่งหายนะ
พนักงานที่เก่งที่สุดที่ Monster, Inc. ก็คือ เจมส์ พี ซัลลิแวน หรือซัลลีย์ สัตว์ประหลาดตัวสีเขียวอมฟ้าที่มีส่วนสูงแปดฟุต และมีจุดสีม่วง รวมถึงเขาบนหัว ผู้ช่วยสร้างเสียงกรีดร้องของซัลลีย์ ก็คือ สัตว์ประหลาดตาเดียวตัวสีเขียวที่ชื่อว่า ไมค์ วาโซว์สกี้ ที่เผอิญเป็นเพื่อนร่วมห้อง และเป็นเพื่อนซี้ของซัลลีย์ด้วย สำหรับคู่ซี้สองตัวนี้ ชีวิตมีความสุข ซัลลีย์อยู่ในยุครุ่งโรจน์ ปราศจากคู่แข่งใดๆ เว้นแต่เจ้ากิ้งก่าที่ชื่อว่า แรนดัลล์ บ็อกก์ส ผู้สร้างเสียงกรีดร้องได้เป็นอันดับสอง รองจากซัลลีย์ ขณะเดียวกันนั้น ความพยายามที่ไมค์พากเพียรจีบสาวที่ชื่อว่า ซีเลีย ซึ่งเป็นพนักงานต้อนรับของบริษัท เริ่มส่งผล เฮนรี่ เจ วอเตอร์นูส ประธานกรรมการบริหารของ Monster, Inc. ต้องเผชิญหน้ากับวิกฤตการณ์อันเนื่องมาจากความจริงที่ว่า พวกเด็กๆ เริ่มไม่กลัวอะไรง่ายๆ เหมือนแต่ก่อนอีกแล้ว
คืนหนึ่ง ซัลลีย์พบตัวเองยืนอยู่ที่ชั้นแห่งความกลัว และยังพบอีกว่า ประตูที่เปิดไปสู่ตู้เสื้อผ้าไม่ได้แปลงสภาพกลับไปเป็นท่อทางเดิน เมื่อเปิดประตูเพื่อสืบหาสาเหตุ ซัลลีย์ก็ต้องยอมรับว่า มีเด็กมนุษย์เพศหญิงคนหนึ่งหลุดรอดมายังโลกของเขาแล้ว ด้วยความเชื่อฝังหัวว่าเด็กๆ มีพิษ ซัลลีย์พยายามที่จะเอาชนะความกลัวของตัวเอง และจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย แต่กลับพบว่าสถานการณ์ยิ่งเลวร้ายขึ้น เขากับไมค์ต้องพาเด็กหญิงคนนั้น ซึ่งซัลลีย์ตั้งชื่อว่า บู กลับไปยังบ้านจนกว่าพวกเขาจะคิดหาทางออกได้ วันต่อมา พวกเขาจัดการปลอมแปลงบูให้กลายเป็นสัตว์ประหลาดตัวหนึ่ง และพาเธอไปยังโรงงานโดยหวังจะส่งเธอกลับบ้านได้อย่างปลอดภัย
ไมค์กับซัลลีย์ต้องเสี่ยงต่อความปลอดภัยของตัวเอง ขณะที่ต้องแข่งกับเวลาเพื่อส่งบูกลับไปยังโลกมนุษย์ ก่อนที่สัตว์ประหลาดตัวใดจะรู้ความจริงเข้า ทั้งซัลลีย์และไมค์ได้เข้าไปสะดุดแผนการขยายโรงงานผลิตโดยไม่รู้ตัว และพวกเขาต้องพบว่า พวกเขายืนอยู่ระหว่างการดำเนินงานตามแผนเข้าพอดี
ทีมผู้สร้างภาพยนตร์เรื่อง Toy Story ที่เคยคว้ารางวัลออสการ์มาแล้ว เปิดประตูนำไปสู่โลกอันสนุกสนานน่ารักน่าชังของเหล่าสัตว์ประหลาด และความอกสั่นขวัญหายที่สร้างเสียงหัวเราะให้เกิดขึ้นในภาพยนตร์เรื่องใหม่ของพวกเขา Monsters, Inc. การผจญภัยที่สร้างสรรค์จากคอมพิวเตอร์นี้คือภาพยนตร์เรื่องล่าสุดจากดิสนีย์/พิกซาร์ (ที่เคยสร้างความฮือฮากับภาพยนตร์แอนิเมชั่นอย่าง Toy Story, A Bug's Life และ Toy Story 2 มาแล้ว)ในความร่วมมือสร้างภาพยนตร์จำนวนห้าเรื่องของทั้งสองสตูดิโอ Monsters, Inc. ซึ่งได้เสียงพากย์จากนักแสดงที่มีความสามารถอย่าง จอห์น กู๊ดแมน, บิลลี่ คริสตัล, เจมส์ โคเบิร์น, เจนนิเฟอร์ ทิลลี่, สตีฟ บุสเซมี่, แมรี่ กิ๊บบ์ส, จอห์น แร็ตเซนเบอร์เกอร์ และบอนนี่ ฮันต์ นี่คือ ผลงานที่ทางวอลท์ ดิสนีย์ พิคเจอร์ ภูมิใจเสนอ จากผลงานการสร้างของบริษัทพิกซาร์ แอนิเมชั่น สตูดิโอ ฟิล์ม
Monsters, Inc. กำกับโดยแอนิเมเตอร์/นักแต่งเรื่องมือฉมังของพิกซาร์ที่ชื่อว่า พีท ด็อคเตอร์ ผู้เป็นหนึ่งในทีมงานที่สร้างเรื่องราวให้กับ Toy Story จนได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์มาแล้ว และยังทำหน้าที่เป็นซูเปอร์ไวซิ่ง แอนิเมเตอร์ให้กับภาพยนตร์ปี 1995 เรื่องดังกล่าวด้วย ผู้ที่เข้ามาช่วยให้ข้อมูลในเชิงสร้างสรรค์ตลอดงานสร้าง ก็คือ ผู้อำนวยการสร้างบริหาร จอห์น แลสเซตเตอร์ ผู้กำกับของภาพยนตร์ Toy Story ทั้งสองภาค และ A Bug's Life ซึ่งเป็นผู้คว้ารางวัลออสการ์ Special Achievement จาก Toy Story และยังเป็นผู้คว้ารางวัลออสการ์ในปี 1989 จากภาพยนตร์แอนิเมชั่นสั้นเรื่อง Tin Toy ด้วย แรนดี้ นิวแมน นักแต่งเพลง/ผู้ประพันธ์ดนตรีชื่อดังกลับมาเข้าร่วมทีมงานสร้างสรรค์กับพิกซาร์อีกครั้ง โดยได้นำความสามารถทางดนตรีอันหลากหลายและน่าประทับใจของเขามาทำดนตรีประกอบและเพลงประกอบเครดิตท้ายเรื่อง
โธมัส ชูมาเกอร์ ประธานของวอลท์ ดิสนีย์ ฟีเจอร์ แอนิเมชั่น ให้ความเห็นถึงการร่วมมือครั้งที่ 4 ระหว่างดิสนีย์กับพิกซาร์ว่า "Monsters, Inc. ถือเป็นความสำเร็จครั้งใหญ่อีกครั้งหนึ่งของพิกซาร์ แอนิเมชั่น สตูดิโอ และถือเป็นความสำเร็จของศิลปะการสร้างภาพยนตร์แอนิเมชั่นจากคอมพิวเตอร์ ภาพยนตร์เรื่องนี้คือผลงานที่ให้ความบันเทิงที่มาพร้อมกับตัวละครที่น่าประทับใจ และสถานการณ์ที่สนุกสนาน จึงถือได้ว่าพีท ด็อคเตอร์ได้เพิ่มผลงานการกำกับที่ประสบความสำเร็จเรื่องนี้เข้าไปในความสำเร็จที่ผ่านมาของเขาอีกครั้งหนึ่ง และภาพยนตร์เรื่องนี้ยังเผยให้เห็นถึงบุคลิกที่เป็นคนอ่อนโยน และมีอารมณ์ขันของเขาด้วย คนดูจะต้องรักในจินตนาการที่สนุกสนานเฮฮาของภาพยนตร์เรื่องนี้ และจะต้องจดจำมันไปอีกนานแสนนาน"
แลสเซตเตอร์กล่าวเสริมว่า "เพื่อสร้างภาพยนตร์ที่ให้ความบันเทิงและเป็นที่จดจำของคนดูได้จริงๆ คุณต้องบอกเล่าเรื่องราวที่ดี มีอารมณ์และอารมณ์ขันอยู่เยอะ คุณต้องมีตัวละครดีๆ ที่จะต้องคงอยู่ไปอีกนาน และคุณก็ต้องจับพวกเขาให้เข้าไปอยู่ในโลกที่สมจริงที่สุด คนดูชอบเมื่อพวกเขาได้เห็นสิ่งที่พวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อน แต่ก็ต้องอยู่ในขอบเขตที่พวกเขาจะสามารถเข้าใจได้ด้วย กับ Monsters, Inc. ความเป็นไปได้นั้นมีสูงมาตั้งแต่ต้น นี่คืออีกโลกหนึ่งที่ตั้งอยู่ในเมืองเล็กๆ ที่ดูคุ้นเคย แต่มันถูกนำเสนอออกมาในแบบที่คนดูอาจไม่เคยคิดมาก่อน พีทกับทีมของเขาได้สร้างผลงานที่น่าทึ่งที่มีตัวละครและมีความผูกพันขึ้นในภาพยนตร์เรื่องนี้ มันไม่เพียงแต่จะเป็นภาพยนตร์ที่ตลกมากเท่านั้น แต่ยังเพียบไปด้วยอารมณ์ซึ่งสร้างสรรค์และมอบชีวิตให้กับตัวละครเหล่านี้ที่ดูจะฉายรัศมีออกมาเกินกว่าบนจอด้วยซ้ำ"
ต้นกำเนิดของ Monsters, Inc. เกิดมาจากด็อคเตอร์ ซึ่งเคยมีการพูดคุยกับโปรดักชั่น ดีไซเนอร์ ฮาร์ลีย์ เจสซัพ และคนแต่งเรื่อง เจฟฟ์ พิดเจียน มาตั้งแต่ที่พวกเขาได้ประชุมกันในปี 1996 ด็อคเตอร์เล่าว่า "Toy Story เป็นเรื่องราวที่สนุกสนานและสร้างความประทับใจให้กับคนมากมาย เพราะพวกเขาสามารถอินไปกับเรื่องนี้ได้ ผมเริ่มคิดถึงเรื่องอื่นๆ ที่มันเป็นเรื่องที่สมจริงสมัยที่ผมยังเป็นเด็ก สิ่งหนึ่งที่ผมรู้ก็คือพวกสัตว์ประหลาดมีตัวตนอยู่จริง และมันอยู่ในตู้เสื้อผ้า โดยเฉพาะเมื่อตกตอนกลางคืน เสื้อผ้าของผมจะเปลี่ยนไปเป็นอย่างอื่น อย่างเช่น กลายเป็นงวง กรงเล็บ หรือตา เราเริ่มคิดว่ามันต้องมีเหตุผลอะไรสักอย่างที่ทำให้พวกสัตว์ประหลาดออกมาหลอกเด็กๆ และเราก็เริ่มต้นสร้างสีสันขึ้นจากความคิดนั้น"
เรื่องราวเกิดขึ้นในมอนสโทรโพลิส เมืองที่เป็นโรงงานที่พวกสัตว์ประหลาดทุกรูปทรงและทุกขนาดอาศัยอยู่ Monsters, Inc. เป็นการติดตามเรื่องราวการผจญภัยเพี้ยนๆ ของเจมส์ พี ซัลลิแวน (หรือที่ทุกคนรู้จักกันในชื่อ ซัลลีย์) กับเพื่อนซี้ที่เป็นทั้งเพื่อนร่วมบ้าน และเพื่อนร่วมงานที่ชื่อ ไมค์ วาโซว์สกี้ ทั้งคู่ทำงานอยู่ที่บริษัท Monster, Inc. โรงงานสร้างเสียงกรีดร้องที่ใหญ่ที่สุดในโลกแห่งสัตว์ประหลาด ที่ซึ่งซัลลีย์คือผู้ที่ทำให้เด็กกลัวได้มากที่สุด และไมค์ก็คือผู้ช่วยสร้างความหวาดกลัวที่มีความกระตือรือร้นสูงของซัลลีย์ แหล่งพลังงานหลักของโลกสัตว์ประหลาดนี้ก็คือเสียงกรีดร้องของพวกมนุษย์เด็กๆ ที่พวกเขาเก็บสะสมเอาไว้ ที่ Monster, Inc. ทีมผู้สร้างความหวาดกลัวชั้นแนวหน้าก็คือผู้รับผิดชอบในการรวบรวมแหล่งพลังงานธรรมชาติที่มีค่าชนิดนี้ พวกเด็กๆ ที่มีความเชื่อกันว่าจะเป็นพิษต่อพวกสัตว์ประหลาดคือสิ่งต้องห้ามมิให้นำเข้ามายังโลกมอนสโทรโพลิส แต่เมื่อเด็กหญิงตัวน้อยที่ชื่อว่า บู เกิดตามซัลลีย์กลับมายังโลกของพวกสัตว์ประหลาดโดยบังเอิญ นั่นทำให้ซัลลีย์พบว่าหน้าที่การงานของเขากำลังเผชิญกับการสั่นคลอน และชีวิตของเขาเองกำลังประสบกับความยุ่งเหยิง ซัลลีย์ ซึ่งได้รับความช่วยเหลือจากไมค์จึงต้องวางแผนเพื่อแก้ไขความผิดพลาดของเขา แต่แล้วทั้งสามชีวิตกลับต้องเผชิญกับความยุ่งยากและสิ่งไม่คาดฝันที่แม้แต่ความฝันอันโลดโผนที่สุดของพวกเขาก็ยังมิอาจเทียบได้
ด็อคเตอร์ ในฐานะผู้กำกับ เป็นผู้นำในการสร้างเรื่องราวที่กลายมาเป็นภาพยนตร์ Monsters, Inc. ตลอดระยะเวลาสี่ปีที่ผ่านมา และยังทำหน้าที่ดูแลควบคุมทีมงานสร้างสรรค์ทุกฝ่ายของภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วย ผู้ที่เข้ามาช่วยงานด็อคเตอร์ ก็คือ ผู้กำกับร่วม ลี อังริช ผู้กำกับร่วมของภาพยนตร์แอนิเมชั่น Toy Story 2 ผู้เคยทำหน้าที่เป็นซูเปอร์ไวเซอร์ เอดิเตอร์ให้กับภาพยนตร์แอนิเมชั่นเรื่อง Toy Story และ A Bug's Life และเดวิด ซิลเวอร์แมน ซึ่งเป็นหนึ่งในทีมสร้างสรรค์หลักของแอนิเมชั่น The Simpsons ด้วย Monsters, Inc. อำนวยการสร้างโดยดาร์ล่า แอนเดอร์สัน ซึ่งทำงานอยู่กับพิกซาร์มานานกว่าเก้าปี โดยก่อนหน้านี้เคยทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยการสร้างให้กับภาพยนตร์แอนิเมชั่นปี 1998 อย่าง A Bug's Life ด้วย
ที่เข้ามาทำหน้าที่ผู้อำนวยการสร้างบริหารร่วมกับจอห์น แลสเซตเตอร์ ก็คือ แอนดรูว์ สแตนตัน ผู้เคยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์บทภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจาก Toy Story มาแล้ว และยังทำหน้าที่เขียนบทให้กับ A Bug's Life (ซึ่งเขาทำหน้าที่ผู้กำกับร่วม) และ Toy Story 2 ด้วย สแตนตันยังทำหน้าที่เขียนบทให้กับภาพยนตร์แอนิเมชั่นเรื่อง Monsters, Inc. ร่วมกับแดน เจอร์สัน เรื่องราวต้นแบบนั้นเป็นฝีมือของพีท ด็อคเตอร์, จิลล์ คัลตัน, เจฟฟ์ พิดเจียน และราล์ฟ อิงเกิลสตัน ในขณะที่บ็อบ ปีเตอร์สันทำหน้าที่เป็นหัวหน้าทีมสร้างเรื่องให้กับภาพยนตร์เรื่องนี้ และยังทำหน้าที่เป็นผู้ให้เสียงพากย์แก่ผู้จัดการของพวกสัตว์ประหลาดที่ชื่อว่า รอซ
Monsters, Inc. คือการนำเทคโนโลยีด้านคอมพิวเตอร์แอนิเมชั่นที่ทันสมัยที่สุดของพิกซาร์มาใช้ โดยตัวภาพยนตร์เรื่องนี้ใช้พลังงานคอมพิวเตอร์ไปถึง 2.5 ล้านเรนเดอร์มาร์ก (เป็นหน่วยวัดพลังงานคอมพิวเตอร์) ซึ่งแต่เดิม ภาพยนตร์แอนิเมชั่นอย่าง Toy Story 2 ใช้ไปแค่เกือบๆ 1.1 ล้านเรนเดอร์มาร์ก หนึ่งในความสำเร็จทางด้านเทคนิคที่น่าประทับใจของภาพยนตร์เรื่อง Monsters, Inc. ก็คือ การสร้างเส้นขนและเส้นผม ซึ่งมีแสงเงา ความหนาแน่น การให้แสง และการเคลื่อนไหวที่ประกอบกันเป็นภาพที่สมจริง ซึ่งเป็นสิ่งที่ทีมงานนำมาใช้ได้เกิดประโยชน์ที่สุดในการสร้างขนของซัลลีย์ที่มีเกือบๆ 3 ล้านเส้น และในการสร้างผมและหางเปียของบูด้วย โปรแกรมที่เรียกกันว่า "ดีพ ชาโดว์อิ้ง" (Deep Shadowing) ถูกคิดสร้างขึ้นที่พิกซาร์เพื่อให้เส้นขนเกือบทุกเส้นมีความเงาในตัวมันเอง และช่วยเพิ่มภาพให้มีความสมจริงมากขึ้นด้วย ไมเคิล ฟ่ง และสตีฟ เมย์คือผู้นำช่างเทคนิคที่รับผิดชอบในการค้นคว้า และสร้างสรรค์โปรแกรมการสร้างเส้นขนและเส้นผม นักวิทยาศาสตร์อาวุโส เดวิด บารัฟฟ์ และแอนดี้ วิตกิ้น ได้สร้างระบบไดนามิคส์ ซิสเต็ม (ซึ่งประกอบไปด้วยรหัสคอมพิวเตอร์เป็นพันๆ เส้น) เพื่อสร้างการพลิ้วไหวของเส้นผมแต่ละเส้น แอนิเมเตอร์จะต้องทำงานควบคู่ไปกับโมเดลตัวละครที่อาจจะมีขนไม่มากนัก ซึ่งเส้นขนจะถูกสร้างเพิ่มเติมเข้าไปภายหลัง ควบคู่ไปกับการเคลื่อนไหวที่เหมือนจริงโดยฝีมือของเทคนิคัล ไดเร็กเตอร์ (ยังมีต่อ)

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ