กรุงเทพฯ--4 ก.ย.--ทีเเอลเทรดวินด์
จุดเริ่มต้นความสำเร็จ
ปี 2555 คุณณิชชา เต็งประวัติ เล ประธานบริหารบริษัททีแอลเทรดวินด์ จากความตั้งใจที่อยากจะกลับมาทำงานที่บ้านเกิดจังหวัดสุรินทร์ ได้มองเห็นว่าภายในจังหวัดสุรินทร์ รวมทั้งพื้นที่ในภาคอีสานในหลายๆจังหวัดนั้นมีการทำนาบัวกันเป็นอย่างมากทั้งยังได้สัมผัสกับผู้ที่ประกอบอาชีพทำนาบัว จึงทำให้ทราบปัญหาที่ชาวนาบัวประสบอยู่ว่า ในการเก็บขายแต่เฉพาะบัวอ่อน ใบบัว ดอกบัว รากบัวและบัวสาย ทำให้ขายได้ไม่หมดและยังเก็บผลผลิตมาขายไม่ได้ทุกวัน ซึ่งทำให้เกิดความเสียหายทาง ผลผลิต ส่งผลให้เกิดปัญหาการว่างงานและคุณภาพชีวิตตกต่ำภายในชุมชน คุณ ณิชชา จึงได้หาแนวทางในการนำผลผลิตที่มีในชุมชนมาแปรรูปให้เกิดคุณค่า และมีราคามากขึ้น จนเกิดแนวคิดนำเม็ดบัวไปอบเพื่อทำเป็นลักษณะของขบเคี้ยว จากนั้นจึงได้คิดริเริ่มพัฒนาตัวผลิตภัณฑ์เม็ดบัวอบกรอบขึ้นมา ภายใต้ยี่ห้อ เม็ดบัวอบกรอบ "มาย" โดยเริ่มต้นจากสถานที่ผลิตขนาดเล็ก ไม่เข้าข่ายโรงงาน มีกลุ่มลูกค้าเล็กๆภายในจังหวัดสุรินทร์ เมื่อเริ่มทำการตลาดจึงทำให้เม็ดบัวอบกรอบมาย เริ่มแพร่ขยายตลาดกว้างขึ้น จนเป็นที่รู้จักกันทั่วประเทศ จึงได้เพิ่มกำลังการผลิตและจัดตั้งโรงงานเมื่อปี 2556 พัฒนาระบบการผลิตและเทคโนโลยีการผลิตให้มีมาตรฐานทันสมัย โดยมีทุนจดทะเบียนที่ 10 ล้านบาท
เม็ดบัวอบกรอบ มายได้รับเสียงตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี เป็นขนมขบเคี้ยวหรือของทานเล่นที่ดีต่อสุขภาพ ทานได้ทุกเพศทุกวัย ไม่มีวัตถุกันเสียและไม่ใส่สารปรุงแต่งใดๆ ยังคงอิงในรสที่เป็นธรรมชาติของเม็ดบัว เนื่องจากเม็ดบัวมีสรรพคุณล้นประโยชน์ เหมาะสำหรับเป็นของว่างและของขบเคี้ยวได้ทุกโอกาส อีกทั้งยังสามารถประยุกต์ทานคู่กับอาหารจานโปรดหรือเครื่องดื่มต่างๆได้อย่างลงตัว เช่น ทานคู่กับชา กาแฟ นมสด ไอศครีม หรือใส่ในอาหารต่างๆประเภทของทอด ยำ ส้มตำ ฯลฯ เพื่อช่วยเพิ่มรสชาติและสีสันของอาหารให้ดูน่าทานยิ่งขึ้น ส่วนเม็ดบัวที่นำมาอบกรอบนั้นคือบัวพันธุ์ "บัวหลวง" จะมีขนาดเม็ดใหญ่ มีรสชาติหวาน ซึ่งเหมาะกับการอบกรอบ นอกจากนี้แบรนด์มายยังมีผลิตภัณฑ์อื่นๆที่ทำมาจากส่วนอื่นๆของบัวด้วย เช่น ชาดีบัว ชาใบบัวและชารากบัว
มาตรฐาน / เกียรติยศ
ปัจจุบันเม็ดบัวอบกรอบมาย มีจำหน่ายในห้างสรรพสินค้า Modern-trade ทั่วประเทศ ร้านของฝาก และร้านสินค้าเพื่อสุขภาพทั่วประเทศ รวมทั้งการขายออนไลน์ ซึ่งธุรกิจเริ่มเติบโตอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันบริษัทพัฒนาระบบการผลิตและเทคโนโลยีการผลิตให้มีมาตรฐานทันสมัยมากขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคและตลาดโลก สินค้าของบริษัทได้รับการรับรองมาตรฐาน Codex GMP, Halal, Q-Mark ทำให้ได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภคและได้รับการการันตีคุณภาพจากหน่วยงานต่างๆ อาทิ เช่น รางวัลบุคคลตัวอย่างภาคธุรกิจแห่งปี 2016 ภาคธุรกิจเกษตรโดยมูลนิธิสภาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้รับการยกย่องว่าเป็น 1 ใน 50 ของฝากยอดเยี่ยมของโลก (Best 50 Gourmet Souvenirs From Around The World) จากนิตยสารท่องเที่ยวชื่อดังระดับโลก Conde Nast Traveler Magazine อีกทั้งยังได้รับคัดเลือกเป็นโรงงานต้นแบบการแปรรูปผลผลิตการเกษตรในโครงการปลูกพืชใช้น้ำน้อยหลังฤดูการทำนาของจังหวัดสุรินทร์ ได้รับเกียรติจากกรมวิชาการเกษตรเป็นตัวแทนกลุ่มสินค้าเกษตรที่แปรรูปจากบัว และได้รับคัดเลือกเข้าร่วมโครงการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมแปรรูปการเกษตรในภูมิภาคอีกด้วย
จากเม็ดบัวชนบทก้าวสู่ตลาดอาเซียน
เม็ดบัวอบกรอบมายเริ่มเจาะตลาดอาเซียน อย่างเช่น เวียดนาม มาเลเซีย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย โดยมีกำลังการผลิต ประมาณ 300 ตันต่อเดือน และในอนาคตจะมีการขยายตลาดเพิ่มมากขึ้น โดยตอนนี้กำลังเน้นที่กัมพูชาและมาเลเซีย สำหรับวิธีคิดสยายปีกธุรกิจในตลาดอาเซียนในแบบฉบับนักธุรกิจรุ่นใหม่อย่างคุณณิชชา เต็งประวัติ เล ประธานบริหารบริษัททีแอลเทรดวินด์ คุณณิชชาเป็นนักธุรกิจที่มีมุมมองของการทำธุรกิจในแบบนักสังคมศาสตร์ เขามองอย่างคนที่เข้าใจภูมิภาคนี้อย่างลึกซึ้ง เนื่องด้วยคุณณิชชาจบการศึกษาด้านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปริญญาโท เรียนสาขาภาษาเวียดนามและเวียดนามศึกษา และปัจจุบันกำลังเรียนภาษาทางการของกัมพูชา คุณณิชชากล่าวว่า " การขยายตลาดในอาเซียน เราต้องรู้จักผู้คน สังคม และวัฒนธรรมของเขาก่อน ต้องดูว่า เขาชอบอะไร ดำเนินชีวิตแบบไหน จะได้รู้ว่าต้องเจาะตลาดแบบไหน และสินค้าของเราเหมาะหรือไม่เหมาะ ขณะที่การพูดภาษาเดียวกับเขา สื่อสารด้วยภาษาของเขา เขาจะไว้เนื้อเชื่อใจเรา เราจะเข้าถึงเขาได้ง่าย เพราะความรู้สึกเหมือน เราคือคนบ้านเขา ไม่ใช่คนต่างชาติ"
จุดยืนของสินค้าที่ดี ต่อผู้คน สังคม และสิ่งแวดล้อม
อย่างไรก็ตาม คุณณิชชาได้กล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า "เหนือสิ่งอื่นใดการประสบความสำเร็จในธุรกิจนี้ไม่ใช่แค่เรื่องเงิน แต่เป็นเรื่องความสบายใจที่ได้เห็นรอยยิ้มของลูกค้า เห็นความสุข เห็นสิ่งดีๆ ที่เราหยิบยื่นให้เขา เห็นว่าเขาทานสินค้าเราแล้วมีประโยชน์ นี่คือความสุขที่เราได้จากการทำธุรกิจนี้ ขอแค่ให้ธุรกิจอยู่ได้ ไม่ขาดทุน มีการเติบโต โดยไม่มุ่งเอากำไรมากเกินไป โดยอยู่กันแบบ "ลูกค้าแฮปปี้ ธุรกิจมีความสุข" ที่สำคัญต้องไม่ลืมที่จะรู้จัก "คืนให้กับสังคม" ช่วยส่งเสริมการทำนาบัวของชาวบ้านในเขตพื้นที่ชนบท เพื่อสร้างระบบนิเวศน์ที่ดีต่อธรรมชาติ และสร้างรายได้ให้แก่พวกเขาในอนาคตอีกด้วย