กรุงเทพฯ--4 ก.ย.--Worklink PR
FTE พร้อมรุก CLMV มองโอกาสเติบโตสูง ประเดิมเจรจากัมพูชา เดินหน้าบุกตลาดเต็มที่ เผยกลยุทธ์เพิ่มเซลล์อัพยอดขาย เร่งเปิดสาขาระยองปีนี้ พร้อมรับรู้รายได้ทันที มั่นใจผลประกอบการทำนิวไฮ อัตรากำไรแจ่ม ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาด สัดส่วนงานโครงการเพิ่ม หนุนBacklog 450 ล้านบาท เดินหน้าประมูลงานต่อเนื่อง
นายทักษิณ ตันติไพจิตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไฟร์เทรดเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) (FTE) ผู้นำธุรกิจนำเข้าและจำหน่ายอุปกรณ์-ระบบดับเพลิงแบบครบวงจร บริการออกแบบ รับเหมาติดตั้ง ซ่อมแซม ตรวจสอบและบำรุงรักษาอุปกรณ์ดับเพลิง และงานระบบที่เกี่ยวข้องกับการดับเพลิง เปิดเผยว่า งานก่อสร้างในกลุ่มประเทศ CLMV มีแนวโน้มการขยายตัวเป็นอย่างมาก และมีความต้องการใช้ระบบ-อุปกรณ์ดับเพลิงเพิ่มขึ้นตาม ทั้งนี้บริษัทมีแผนเข้าไปรุกตลาดในกลุ่มประเทศดังกล่าว โดยเบื้องต้นได้มีการเข้าไปเปิดตลาดในประเทศกัมพูชา ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับเจ้าของโครงการหลายแห่ง คาดว่าจะมีข้อสรุปที่ชัดเจนในเร็วๆนี้
"ประเทศกัมพูชามีแผนก่อสร้างโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐานขนาดใหญ่จำนวนมาก ตามการพัฒนาเศรษฐกิจ ซึ่งมีความต้องการในการติดตั้งอุปกรณ์ดับเพลิงและระบบดับเพลิงที่ได้มาตรฐาน ควบคุมงานโดยวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ ถือเป็นโอกาสของบริษัทในการขยายธุรกิจไปยังประเทศเพื่อนบ้าน โดยรูปแบบการเข้ารับงาน มีความเป็นไปได้ทั้งการลงทุนเองหรือการร่วมมือกับพันธมิตรท้องถิ่น ซึ่งไม่ว่าจะดำเนินการในรูปแบบใด บริษัทก็มีความพร้อมที่จะเข้าดำเนินการครบทุกด้าน ทั้งด้านบุคลากร ความเชี่ยวชาญ รวมถึงบริษัทมีอุปกรณ์ดับเพลิงและระบบดับเพลิงครบวงจรที่ได้มาตรฐานสากล"นายทักษิณ กล่าว
สำหรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในช่วงที่เหลือของปีนี้ บริษัทมีแผนเพิ่มพนักงานขายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริการ ขยายฐานลูกค้ารายใหม่ และเร่งยอดขายให้เติบโตมากขึ้น นอกจากนี้จะทำการเปิดสำนักงานขายที่จังหวัดระยอง เพื่อให้บริษัทกระจายสินค้าได้สะดวกรวดเร็ว และให้บริการได้ใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น ซึ่งแผนการดำเนินงานดังกล่าวจะมีความชัดเจนภายในปีนี้
ทั้งนี้แผนการดำเนินงานดังกล่าวจะสามารถสร้างยอดขายเพิ่มขึ้นได้ทันที และส่งผลให้ผลประกอบการปีนี้ทำนิวไฮตามเป้าหมายที่วางไว้ อีกทั้งสามารถรักษาอัตรากำไรในเกณฑ์ดีอย่างต่อเนื่อง ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดอุปกรณ์ดับเพลิงครบวงจร
ปัจจุบัน FTE มีมูลค่างานในมือ (Backlog) อยู่ที่ 450 ล้านบาท แบ่งเป็นงานออกแบบติดตั้งระบบดับเพลิง 330 ล้านบาท งานจัดจำหน่าย 120 ล้านบาท คาดว่าจะรับรู้รายได้ในปีนี้ 60-70% และมีโครงการที่อยู่ระหว่างรอผลพิจารณางานออกแบบติดตั้งระบบดับเพลิงเพิ่มเติมอีก 10 โครงการ อีกทั้งยังเตรียมยื่นประมูลงานโครงการภาครัฐและภาคเอกชนอย่างต่อเนื่อง