กรุงเทพฯ--4 ก.ย.--กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา หารือข้อราชการร่วมกับ นายมินท์ ทวย (Dr. Myint Wtwe) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขและการกีฬาแห่งสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา และเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ประจำประเทศไทย พร้อมด้วยคณะผู้แทนจากเมียนมา ในประเด็นเกี่ยวกับการขับเคลื่อนความร่วมมือด้านกีฬาของสองฝ่าย เนื่องในโอกาสที่นายมินท์ ทวย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขฯ เมียนมา เดินทางเยือนประเทศไทย เพื่อร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ว่าด้วยความร่วมมือด้านกีฬา ระหว่างกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาแห่งราชอาณาจักรไทย และกระทรวงสาธารณสุขและการกีฬาแห่งสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ในวันจันทร์ที่ ๔ กันยายน ๒๕๖๐ ณ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยการหารือดังกล่าวทั้งสองฝ่ายได้ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการกีฬาเพื่อการท่องเที่ยวร่วมกัน (Sport Tourism) เน้นส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชนท้องถิ่นในการเป็นเจ้าบ้านที่ดีเพื่อต้อนรับคณะนักกีฬาจากเมียนมา รวมถึงส่งเสริมให้เยาวชนรุ่นใหม่
หันมาใส่ใจต่อสุขภาพด้วยการออกกำลังกาย ตลอดจนการจัดงานแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติเพื่อเชื่อมสัมพันธ์ฉันพี่น้องระหว่างกันในประเทศสมาชิกอาเซียนอย่าง ASEAN School Games เป็นต้น ทั้งนี้ รัฐมนตรีกอบกาญจน์ฯ ได้ถือโอกาสการร่วมลงนามของทั้งสองฝ่ายในครั้งนี้ กล่าวแสดงความยินดีต่อรัฐมนตรีกีฬาเมียนมาที่นักกีฬาเมียนมาที่ได้รับรางวัลจากการแข่งขันกีฬา SEA GAMES ที่เพิ่งเสร็จสิ้นไป พร้อมกล่าวเชิญชวนฝ่ายเมียนมาเพื่อเข้าร่วมงาน Sport Accord Convention 2018 ที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพในช่วงเดือนเมษายน ๒๕๖๑
ภายหลังการหารือร่วมกันของทั้งสองฝ่าย รัฐมนตรีกอบกาญจน์ฯ ได้ร่วมลงนาม MOU กีฬากับนายมินท์ ทวย รัฐมนตรีกีฬาเมียนมา โดยมีนายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และนายอู มินท์ ตาน เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ประจำประเทศไทย ร่วมเป็นสักขีพยานการลงนามครั้งนี้ โดยสาระสำคัญของ MOU กีฬา กล่าวถึงการแลกเปลี่ยนโครงการ/กิจกรรมด้านการกีฬาระหว่างเยาวชนสองประเทศ การส่งเสริมการกีฬาระหว่างกัน การแลกเปลี่ยนสารสนเทศด้านการกีฬา และการพัฒนาบุคคลด้านการกีฬาร่วมกัน
ท้ายนี้ รัฐมนตรีทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนของที่ระลึกและถ่ายรูปร่วมกัน โดยรัฐมนตรีทั้งสองฝ่ายต่างให้คำมั่นที่จะส่งเสริมความร่วมมือด้านการกีฬาระหว่างกันให้เกิดประโยชน์สูงสุดร่วมกันของทั้งสองฝ่าย และเพื่อความผาสุกอย่างยั่งยืนของประชาชนทั้งสองประเทศสืบต่อไป