กรุงเทพฯ--14 ก.ย.--วินเทจ วิศวกรรม
บริษัท วินเทจ วิศวกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ VTE ได้ชี้แจงถึงผลดีที่บริษัทฯ จะได้รับจากการเพิ่มทุนทั้งแบบ PP และ RO ตามที่ได้รับมติอนุมัติเมื่อวันที่ 27 เมษายน 2560 ว่าการเพิ่มทุนในครั้งนี้จะช่วยให้บริษัทฯ มีสภาพคล่องทางการเงิน มีโครงสร้างเงินทุน ที่มีศักยภาพในการสร้างรายได้ในอนาคต โดยนายศุภศิษฏ์ โภคินจารุรัศมิ์ กรรมการบริหาร กล่าวว่าประการแรกคือ ราคาในการขายหุ้นเพิ่มทุนทั้ง PP ถือว่าราคาค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับราคาตลาด และ RO เป็นราคาที่สมเหตุสมผล
ประการที่สอง บริษัทฯ มีแผนในการลงทุนในโครงการรับเหมาก่อสร้างที่ดี ที่ก่อให้เกิดรายได้ในอนาคตเป็นการรองรับการเพิ่มทุนครั้งนี้ โดยมีโครงการที่บริษัทฯ รับเหมาก่อสร้างโรงไฟฟ้าจำนวน 2 โครงการ คือ โครงการ Minbu เป็นโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 220MW ที่เมืองมินบู ประเทศพม่า และโครงการ Biliran เป็นโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 25MW ที่เมืองบิริรัน ประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งเมื่อโครงการแล้วเสร็จจะสามารถสร้างรายได้และผลกำไรให้กับบริษัทฯ เป็นอย่างสูง และจะทำให้มูลค่าของบริษัทฯ สูงเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
ประการที่สาม บริษัทฯ เชื่อมั่นว่าจะสามารถลดความเสี่ยงที่เกิดจากความผันผวนในตลาดเงิน ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทฯ สามารถลดภาระหนี้สิน และดอกเบี้ยจากการกู้ยืมเงิน และสามารถลดค่าใช้จ่ายทางการเงินของบริษัทฯ ได้ เมื่อบริษัทฯ สามารถชำระหนี้สิน และมีเงินหมุนเวียนไปทำการดำเนินธุรกิจอย่างเพียงพอ ก็จะทำให้มีกำไรสะสมและมีความเป็นไปได้ที่จะมีการตอบแทนผู้ลงทุนกลับด้วยเงินปันผล
ประการที่สี่ ผลกระทบจากการ Dilution ในการเพิ่มทุนครั้งนี้ จะเกิดขึ้นน้อยมาก เนื่องจากการเพิ่มทุนครั้งนี้มีจำนวนหุ้นที่เพิ่มทุน PP เพียง 50 ล้านหุ้น และ RO ในสัดส่วน 25 หุ้นเดิมต่อ 4 หุ้นใหม่ (25:4) ในขณะที่จำนวนหุ้นรวมของบริษัทฯ มีจำนวนกว่า 1 พันล้านหุ้น
ซึ่งผู้ถือหุ้นสามารถจองซื้อและชำระค่าหุ้นสามัญเพิ่มทุนได้ระหว่างวันที่ 27 กันยายน - 3 ตุลาคม 2560 นี้