กรุงเทพฯ--15 ก.ย.--IR network
บิ๊กบอส "โฮ เรน ฮวา" ส่งสัญญาณแนวโน้มผลการดำเนินงานฝั่งธุรกิจแป้งมันสำปะหลัง ในช่วงครึ่งปีหลังเติบโตอย่างแข็งแกร่ง หลังขยายกำลังการผลิตของสินค้า High Valued-Added การเปิดดำเนินการของโรงไฟฟ้า และเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ เตรียมเปิดดำเนินการโรงงานในกัมพูชา-เวียดนาม รับรู้รายได้เต็มปีในปีหน้า มั่นใจช่วยผลักดันรายได้-กำไรเติบโตอย่างต่อเนื่อง
นายโฮ เรน ฮวา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการ บริษัท ไทยวา จำกัด (มหาชน) (TWPC) ผู้ผลิตและส่งออกผลิตภัณฑ์แป้งมันสำปะหลัง และผู้นำตลาด โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์วุ้นเส้นสดและวุ้นเส้นแห้งในประเทศไทย เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานฝั่งธุรกิจแป้งมันสำปะหลังในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าจะเติบโตกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากการขยายกำลังการผลิตของสินค้า High Valued-Added การเปิดดำเนินการของโรงไฟฟ้า และเป็นช่วงไฮซีซั่นของผลผลิตหัวมันสำปะหลังในประเทศไทย
"เราคาดว่าราคามันสำปะหลังจะมีการปรับตัวขึ้นในปลายปี ซึ่งจะส่งผลทำให้ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ เติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง เนื่องจากในไตรมาส 4 จะมีผลผลิตหัวมันสำปะหลังฤดูกาลใหม่ออกมา อีกทั้งราคาข้าวโพดซึ่งเป็นสินค้าทดแทนมันเส้นในประเทศจีนเริ่มมีการปรับราคาสูงขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการในบางอุตสาหกรรม เช่น เอทานอล เริ่มมีการหันกลับมาใช้มันเส้นเป็นวัตถุดิบเหมือนเดิม นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้มีการขยายกำลังการผลิตของสินค้ากลุ่ม High Valued-Added ซึ่งสามารถช่วยสนับสนุนยอดขายและกำไรของบริษัทฯ เพิ่มขึ้นอีกด้วย" นายโฮ เรน ฮวา กล่าว
ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ในกลุ่มมันสำปะหลังและธุรกิจอาหารมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง บริษัทฯ มีโรงงานในประเทศจำนวน 4 แห่ง และในประเทศเวียดนาม 2 แห่ง มีกำลังการผลิตแป้งมันสำปะหลังรวม 390,000 ตัน และกำลังการผลิตกลูโคสรวม 50,000 ตัน ซึ่งแบ่งเป็นสัดส่วนการส่งออกไปยังต่างประเทศประมาณ 79% ในประเทศ 21% ส่วนผลิตภัณฑ์ในกลุ่มอาหาร บริษัทฯ มีโรงงานในประเทศจำนวน 1 แห่ง มีกำลังการผลิตวุ้นเส้น 22,000 ตัน และกำลังการผลิตเส้นก๋วยเตี๋ยว 4,000 ตัน แบ่งเป็นสัดส่วนการส่งออกไปยังต่างประเทศประมาณ 6% ในประเทศ 94%
ส่วนความคืบหน้าโครงการโรงงานแห่งใหม่ที่ประเทศกัมพูชา ในนาม "บริษัท ทีดับบลิวพีซี อินเวสท์เมนท์ (กัมพูชา) จำกัด" เพื่อผลิตมันเส้น และแป้งมันสำปะหลัง และประเทศเวียดนาม ในนาม "บริษัท ไทยวาเวียดนาม จำกัด" เพื่อผลิตและจำหน่ายผลิตภัฑณ์อาหาร (วุ้นเส้นและอื่นๆ) ปัจจุบันได้อยู่ในระหว่างการดำเนินการก่อสร้างโรงงานตามแผน ซึ่งคาดว่าจะสามารถเปิดดำเนินการและรับรู้รายได้เต็มปีในปีหน้า บริษัทฯ คาดว่าจะเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ช่วยผลักดันผลการดำเนินงานของบริษัทให้สามารถเติบโตได้อย่างมั่นคง
สำหรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจสำหรับกลุ่มธุรกิจอาหาร บริษัทฯ ได้ขยายฐานลูกค้าผ่านทีม Vansales ภายในประเทศเพื่อเข้าถึงกลุ่มร้านค้าและร้านอาหารครอบคลุมทั่วประเทศ ทำให้ช่วงครึ่งปีแรกยอดขายกลุ่มธุรกิจอาหารผ่านทีม Vansales เติบโตถึง 34% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้ตั้งเป้าหมายจัดสรรงบลงทุนไว้ประมาณ 1,000-2,000 ล้านบาท เพื่อรองรับเป้าหมายการสร้างศักยภาพการเติบโตของธุรกิจให้แข็งแกร่ง และมั่งคงต่อไปในระยะยาวต่อไป