กรุงเทพฯ--15 ก.ย.--IR PLUS
ICN หุ้นไอพีโอน้องใหม่ตัวล่าสุดเข้า mai โชว์ฟอร์มแรงสุด ปิดเทรดวันแรก 4.62 บาท ราคาพุ่งกว่า 151% จากราคาไอพีโอ 1.84 บาท วอลุ่มกระฉูดกว่า 2,912.11 ล้านบาท "มนชัย มณีไพโรจน์" ยิ้มรับกระแสจากนักลงทุนให้ความสนใจ คาดเป็นผลจากศักยภาพธุรกิจเติบโตจากนโยบายภาครัฐหนุน บวกความสัมพันธ์ที่เหนียวแน่นกับภาคเอกชนและรัฐวิสาหกิจ มั่นใจ ในช่วงต่อจากนี้โชว์ฟอร์มโดดเด่นไม่ทำให้ผิดหวัง พร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจด้วยเม็ดเงินที่ได้จากการระดมทุนอย่างคุ้มค่าและยึดหลักบรรษัทภิบาล ด้าน "สมภพ กีระสุนทรพงษ์" กรรมการผู้อำนวยการ บล. ฟินันเซีย ไซรัส เผย การตอบรับจากนักลงทุนอย่างล้นหลามครั้งนี้ สะท้อนความเชื่อมั่นธุรกิจ ในฐานะหุ้น Growth Stock ที่โตอย่างก้าวกระโดด ส่วนผลงานปีนี้ส่อแววสวยตามคาด
นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน)ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ของ บริษัท อินฟอร์เมชั่น แอนด์ คอมมิวนิเคชั่น เน็ทเวิร์คส จำกัด (มหาชน) หรือ ICN เปิดเผยว่า รู้สึกพอใจเป็นอย่างยิ่งกับผลตอบรับการซื้อขายหุ้นเป็นวันแรกของ ICN ในเปิดการซื้อขายที่ 4.52 บาท และปิดการซื้อขายที่ 4.62 บาท ราคาหุ้นพุ่งกว่า 151% จากราคาไอพีโอหุ้นละ 1.84 บาทต่อหุ้น แรงสุดของหุ้นน้องใหม่ไอพีโอที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาถึงปัจจุบัน ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการกำหนดราคาไอพีโอที่เหมาะสม ประกอบกับปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง รวมถึงศักยภาพในการเติบโตในอนาคตอย่างก้าวกระโดด และเชื่อว่า ICN จะยังได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง
ด้านนายมนชัย มณีไพโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท อินฟอร์เมชั่น แอนด์ คอมมิวนิเคชั่นเน็ทเวิร์คส จำกัด (มหาชน) หรือ ICN เปิดเผยถึง ราคาหุ้นในการซื้อขายเป็นวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) กลุ่มเทคโนโลยี ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนอย่างน่าประทับใจ เป็นการตอกย้ำความเชื่อมั่นของนักลงทุนและผู้ถือหุ้นที่มีต่อบริษัทฯ เราพร้อมที่จะพัฒนาศักยภาพและการเติบโตต่อไปในอนาคต ไม่ทำให้นักลงทุนและผู้ถือหุ้นผิดหวัง สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ จะนำไปใช้อย่างคุ้มค่าและยึดหลักธรรมาภิบาล บริษัทฯ จะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนการดำเนินงาน เพื่อรับงานประมูลที่มีขนาดใหญ่ขึ้น และจะทำให้หนี้สินต่อทุน(D/E) ลดลงเหลือประมาณ 0.7 เท่า จากปัจจุบันอยู่ที่ 1.2 เท่า ทั้งนี้
ทั้งนี้ การซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ของบริษัทฯ วันแรก เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2560 เปิดการซื้อขายที่ระดับราคา 4.52 บาท ก่อนปรับขึ้นไปสูงสุดของวันที่ 5.10 บาท และปิดที่ระดับราคา 4.62 บาท มูลค่าการซื้อขายประมาณ 2,912.11 ล้านบาท