ศุภาลัยแจงแผนปี 44 พลิกฟื้นสู่กำไร

ข่าวทั่วไป Wednesday March 7, 2001 08:50 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--7 มี.ค.--บมจ.ศุภาลัย
เน้นกลยุทธนำแปลงดีที่สุดของทุกโครงการขายในราคาลดพิเศษ เพื่อเพิ่มยอดขาย พร้อมทั้งปรับปรุงพัฒนาแบบบ้าน และการบริการ ชี้แนวโน้มตลาดอสังหาฯ ยังสดใส
นายประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน ) เปิดเผยถึงแผนการดำเนินงานในปี 2544 ว่า ในปีนี้บริษัทฯ มีภารกิจหลักคือ การพลิกฟื้นสู่กำไร โดยตั้งเป้าในการขายไว้โดยประมาณ 1,300 ล้านบาท จากการขายโครงการทั้งที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างและขาย รวมทั้งโครงการที่ก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้วรวม 11 โครงการ ได้แก่ โครงการศุภาลัยวิลล์ ทั้ง 2 ทำเล คือ รัชดาภิเษก และรัตนาธิเบศน์ โครงการศุภาลัยปาร์ค พหลโยธิน โครงการศุภาลัยเพลส สุขุมวิท 39 โครงการศุภาลัยบุรี รังสิต คลอง 4 โครงการศุภาลัยแกรนด์เลค สุวินทวงศ์ โครงการศุภาลัยธานี ลำลูกกา โครงการศุภาลัย ออร์คิดปาร์ค 1 และ 2 ภาษีเจริญ โครงการศุภาชัย แกรนด์ปาร์ค บางนา และโครงการบ้านศุภาลัย โครงการรับสร้างบ้านบนที่ดินของลูกค้า โดยคาดว่าจะมีบ้านที่ขายกับเช่าและส่งมอบให้ลูกค้าได้ในปีนี้ไม่น้อยกว่า 500 ยูนิต
สำหรับกลยุทธในด้านการตลาดและการขายจะเน้นในเรื่องการนำแปลงที่ดีที่สุดของทุกโครงการมาขาย ในราคาพิเศษ ซึ่งได้แก่แปลงติดทะเลสาบ ติดสวนและ/หรือติดถนนเมน และการเน้นขายส่ง (Whole Sale) สำหรับโครงการอาคารสูงให้แก่นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งพัฒนาโครงการและระบบการบริการลูกค้าเพื่อสร้างความประทับใจลูกค้า
นอกจากนั้นจากการสำรวจและวิจัยความต้องการของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ในปีนี้จึงมีการออกแบบและพัฒนาแบบบ้านใหม่โดยพัฒนาผลิตภัณฑ์ในสไตล์เน้นธรรมชาติและตรงความต้องการของตลาด โดยจะเน้นจุดขายหลักของบ้านศุภาลัยในเรื่องของประโยชน์ใช้สอย ความคุ้มค่า และความคงทนสวยงามในระยะยาว โดยในปีนี้มีการพัฒนาแบบบ้านใหม่จำนวน 6 แบบ ซึ่งมีทั้งบ้านขนาดเล็ก-กลาง-ใหญ่ โดยมีทั้งบ้านเดี่ยว บ้าแฝด ทาวน์เฮ้าส์ และอาคารชุด
ในด้านการก่อสร้าง บริษัทฯ ยังคงกระจายการสร้างบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ และอาคารสูง โดยมีทั้งสร้างตามการสั่งจองและสร้างก่อนเพื่อขายเพื่อรองรับความต้องการของตลาดที่หลากหลายขึ้น
สำหรับด้านการเงินนั้น ณ ปัจจุบันบริษัทฯ ได้ปรับโครงสร้างหนี้กับธนาคารและสถาบันการเงินต่าง ๆ แล้วเสร็จเป็นส่วนใหญ่ โดยคาดว่าจะสามารถปรับโครงสร้างหนี้แล้วเสร็จทั้งหมด 100% ได้ภายในต้นปีนี้ ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทสามารถพลิกฟื้นสู่กำไรได้ โดยได้ตั้งเป้าหมายในปี 2544 จะมียอดกำไรสุทธิหลังหักภาษีแล้วประมาณ 700 ล้านบาท
สำหรับผลประกอบการในปี 2543 บริษัทฯ และบริษัทในเครือมีรายได้รวม 917 ล้านบาท ซึ่งยังคงมีผลขาดทุน 490 ล้านบาท โดยในส่วนของบริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เองยังคงมีผลขาดทุน แต่บริษัทในเครือ อันได้แก่ บริษัท พรอพเพอร์ตี้ แมเนจเม้นต์ จำกัด ซึ่งบริหารงาน โรงแรม ศุภาลัย ป่าสัก รีสอร์ท และบริษัทหาดใหญ่นครินทร์ จำกัด ซึ่งพัฒนาโครงการศูนย์การค้าที่หาดใหญ่ มีผลกำไร
ทั้งนี้ นายประทีป ได้เปิดเผยปัจจัยและแนวโน้มของอสังหาริมทรัพย์ในปี 2544 ว่า ด้วย มาตรการลดหย่อนด้านภาษีธุรกิจเฉพาะ และค่าธรรมเนียมในการโอนกรรมสิทธิ์ซึ่งมีมูลค่ารวมเทียบเท่ากับส่วนลด 5.18% ของราคาซื้อ-ขาย จะหมดเวลาภายในสิ้นปีนี้ จะเป็นตัวกระตุ้นการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยของลูกค้าในครึ่งหลังของปี กอปรกับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้และเงินฝากที่ลดลงอีก 0.5% ในต้นปีนี้ ทั้ง ๆ ที่ยอดเงินฝากรวมของธนาคารยังคงเพิ่มขึ้นจะทำให้ผู้บริโภคหันมาซื้อบ้านและลงทุนในอสังหาริมทรัพย์มากขึ้น เพราะผลตอบแทนจากการเช่าในประเทศไทยจะได้ประมาณ 8% ต่อปีขึ้นไป ทั้งนี้ยังไม่รวมมูลค่าเพิ่มในอนาคต ซึ่งสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากมาก
"สำหรับอาคารสูงนั้นปริมาณอุปทานในตลาดได้ทยอยเริ่มลดลงอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งความต้องการในตลาดที่เพิ่มสูงขึ้นทำให้ราคมขายไม่ตกลงอย่างที่หลายคนได้ทำนายไว้ ในขณะเดียวกันราคาบ้านใหม่และอสังหาริมทรัพย์โดยรวมกลับมีราคาเพิ่มขึ้นประมาณ 5% ในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา ทั้งนี้เพราะราคาค่าก่อสร้างเพิ่มขึ้นมาโดยตลอด และคาดว่าปีหน้าราคาอสังหาริมทรัพย์จะเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 10% จากปีนี้ เนื่องมาจากเหตุผลต่าง ๆ ดังกล่าวข้างต้น "นายประทีป กล่าวในที่สุด--จบ--
-นห-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ