ไทยออยล์ได้รับการประกาศเป็นสมาชิก Dow Jones Sustainability Indices ประจำปี 2560 และเป็นผู้นำด้านความยั่งยืนในกลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานระดับโลก

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday September 20, 2017 13:04 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--20 ก.ย.--ไทยออยล์ ได้รับการจัดอันดับเป็นผู้นำความยั่งยืนในระดับกลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานต่อเนื่องเป็นปีที่สี่ และเป็นบริษัทจดทะเบียนไทยรายแรกและรายเดียวของประเทศที่ได้รับการประเมินสูงสุดเป็นอันดับหนึ่งในด้านดังกล่าวจากการเปรียบเทียบกับบริษัทในอุตสาหกรรมพลังงานจำนวน 182 แห่งทั่วโลกที่ได้รับเชิญเข้าร่วมการประเมินในปี 2560 ประกาศให้เป็นสมาชิกของ DJSI ติดต่อกันห้าปีซ้อน เมื่อเร็วๆ นี้ Dow Jones Sustainability Indices หรือ DJSI ซึ่งเป็นดัชนีประเมินความยั่งยืนที่ได้รับการยอมรับระดับโลก ได้ประกาศให้บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) เป็นสมาชิกของ DJSI 2560 ต่อเนื่องเป็นปีที่ห้า และยังคงรักษาความเป็นผู้นำในกลุ่มอุตสาหกรรมพลังงาน (Energy Industry Group Leader) เป็นปีที่สี่ติดต่อกัน เมื่อเปรียบเทียบกับบริษัทจดทะเบียนทั่วโลกในกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกัน การดำเนินงานเพื่อความยั่งยืนของไทยออยล์ได้รับการยอมรับจากผู้ประเมิน ดังนี้ "กลุ่มไทยออยล์สามารถพิสูจน์ให้เห็นว่าในสภาวะการแข่งขันที่เข้มข้นและความผันผวนของราคาน้ำมันในตลาดโลก บริษัทยังคงสามารถรักษามาตรฐานความยั่งยืนด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมในระดับสูงได้ ด้วยความมุ่งมั่นต่อความยั่งยืน และผลการดำเนินการที่ดีของบริษัทโดยให้ความสำคัญต่อการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และการดูแลแรงงานส่งผลให้บริษัทสามารรักษาความเป็นผู้นำด้านความยั่งยืนไว้ได้ บริษัทยังเพิ่มความผูกพันกับชุมชนได้เป็นอย่างดีในระหว่างที่มีการดำเนินโครงการขยายในส่วนต่างๆ ซึ่งต้องระมัดระวังในการประเมิน และดูแลผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและกำหนดมาตรการป้องกันที่เหมาะสม การรักษาความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมแสดงให้เห็นถึงความยั่งยืนที่ยอดเยี่ยมของไทยออยล์อย่างต่อเนื่อง"นายอธิคม เติบศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า "บริษัทฯ กำหนดนโยบายและเป้าหมายการบริหารจัดการธุรกิจเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมกำหนดดัชนีชี้วัดที่ชัดเจน โดยมุ่งเน้นความสมดุลทั้ง 3 ด้านคือด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคม และด้านสิ่งแวดล้อม ภายใต้หลักธรรมาภิบาล และตอบสนองผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มด้วยความเป็นธรรมมาโดยตลอด ทำให้บริษัทฯ ได้รับการประเมินให้เป็นสมาชิกของ DJSI ในปี 2560 นี้ และยังได้รับคะแนนประเมินสูงสุดในกลุ่มอุตสาหกรรมพลังงาน (Energy Industry Group Leader) ต่อเนื่องเป็นปีที่สี่อีกด้วย ผลการประเมินของ DJSI ในปีนี้ เป็นเสมือนรางวัลแห่งความสำเร็จและความภาคภูมิใจของพนักงานทุกคน" นายอธิคม กล่าวเสริม"ความสำเร็จด้านเศรษฐกิจของไทยออยล์มาจากความมุ่งมั่นในการบริหารจัดการการกำกับดูแลกิจการองค์กรอย่างเป็นธรรม มีระบบ โปร่งใส ชัดเจนและสามารถตรวจสอบได้ โดยตั้งแต่ปี 2559 จนถึงปีนี้ไทยออยล์ยกระดับการกำกับดูแลกิจการตลอดสายโซ่อุปทานโดยส่งมอบนโยบายต่อต้านคอร์รัปชั่น รวมทั้งมาตรการและแนวปฏิบัติผ่านการสื่อสารและสร้างความเข้าใจในคู่มือกำกับดูแลกิจการและจรรยาบรรณธุรกิจแก่บริษัทในกลุ่มและคู่ค้า นอกจากนี้ได้ส่งเสริมการดำเนินงานตามนโยบายการจัดซื้อจัดจ้าง รวมถึงกฎระเบียบ ข้อกำหนดกลุ่มไทยออยล์อย่างเคร่งครัดต่อเนื่อง และเพื่อสนับสนุนการแข่งขันอย่างเสรีและมุ่งเน้นความโปร่งใสมากขึ้น " "นอกจากนี้ ไทยออยล์ยังประสบความสำเร็จในการประเมินในมิติของสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัย ในปีที่ผ่านมา เป็นปีที่บริษัท LABIX และ TOPSPP ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มไทยออยล์ เริ่มดำเนินการผลิต ซึ่งนับเป็นความท้าทายของไทยออยล์ในการรับมือกับสถานการณ์ด้านสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัย ซึ่งเป็นแรงผลักดันให้กลุ่มไทยออยล์ต้องดำเนินงานในรูปแบบแผนแม่บทด้านการจัดการสิ่งแวดล้อมเพื่อตอบสนองกับสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ตลอดจนปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตโดยการลงทุนที่เน้นกระบวนการผลิตและผลิตภัณฑ์ที่สะอาดมากขึ้น เช่น โครงการ Clean Fuel Project (CFP) ด้วยตระหนักถึง ภาระหน้าที่ในการเป็นส่วนหนึ่งของการเสริมสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญต่องานบริหารชุมชนรอบโรงกลั่น โดยมีกระบวนการบริหารจัดการเรื่องร้องเรียนที่มีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ดัชนีความพึงพอใจ (Community satisfaction) ของชุมชนรอบโรงกลั่นต่อการดำเนินงานของกลุ่มไทยออยล์อยุ่ในระดับสูง รวมทั้งการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และการดูแลพนักงานซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาองค์กรสู่ความสำเร็จในระยะยาว" นายอธิคม กล่าว "จากการได้รับการจัดอันดับให้เป็นผู้นำด้านความยั่งยืนในระดับกลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานต่อเนื่องเป็นปีที่สี่นั้น สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มของไทยออยล์ต่อประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจภายใต้วิกฤตเศรษฐกิจโลก โดยมุ่งสร้างประโยชน์สูงสุดแก่ผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มผ่านกรอบธรรมาภิบาลและการพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืนที่ได้กล่าวมาทั้งหมด" นายอธิคม กล่าวปิดท้าย Dow Jones Sustainability Indices หรือ DJSI เป็นดัชนีจัดอันดับผลการปฏิบัติงานด้านความยั่งยืนของบริษัท จดทะเบียนทั่วโลก โดยมี RobecoSAM Corporate Sustainability Assessment ผู้ให้คำปรึกษาด้านการลงทุน เป็นผู้ประเมินจัดอันดับ โดยมีเกณฑ์กำหนดว่า บริษัทที่จะเข้ารับการประเมินได้จะต้องเป็นบริษัทจดทะเบียน และมี Free Float Market Capitalization ใน Dow Jones Total Stock Market Index สูงสุด 2500 บริษัทแรก และกลุ่มบริษัทจดทะเบียนที่อยู่ในกลุ่มEmerging Markets สูงสุด 800 บริษัทแรก ตลอดจนกลุ่มอื่นๆ รวมทั้งสิ้น 3,538 บริษัททั่วโลก ทั้งนี้ RobecoSAM จะส่งแบบสอบถามตามประเภทอุตสาหกรรมมาให้บริษัทที่ได้รับเชิญ เพื่อตอบคำถามเชิงลึก พร้อมจัดส่งหลักฐานอ้างอิงและช่องทางการเปิดเผยสู่สาธารณะ เกี่ยวกับแผนงานและกลยุทธ์ วิธีการบริหารจัดการ เป้าหมาย ขั้นตอนการปฏิบัติงาน ตลอดจนผลการปฏิบัติงาน ที่ครอบคลุมทั้ง 3 ด้าน คือ เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และสังคม โดยไทยออยล์ได้รับเชิญเป็น 1 ใน 803 บริษัทในกลุ่ม Emerging Markets เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2560 และได้ตอบแบบสอบถามไปเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2560 โดยในปีเดียวกันนี้ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ได้รับคะแนนประเมินสูงสุดในกลุ่มอุตสาหกรรมพลังงาน (Energy Industry Group Leader) ประกอบด้วย อุตสาหกรรมถ่านหินและเชื้อเพลิงพลังงาน (Coal & Consumable Fuels) อุตสาหกรรมผลิตอุปกรณ์และให้บริการสำรวจและผลิตพลังงาน (Energy Equipment & Services) อุตสาหกรรมให้บริการคลังและขนส่งน้ำมันและก๊าซ (Oil & Gas Storage & Transportation) อุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซขั้นต้น (Oil & Gas Upstream and Integrated) และ อุตสาหกรรมกลั่นน้ำมันและก๊าซและการตลาด(Oil & Gas Refining & Marketing) โดยเมื่อเปรียบเทียบกับคะแนนทั้งสามมิติตั้งแต่ปี 2011 ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และสังคม พบว่าคะแนนในแต่ละด้านเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ