กรุงเทพฯ--21 ก.ย.--IR network
แม่ทัพหญิง บมจ.เอแอลที เทเลคอม หรือ ALT "ปรีญาภรณ์ ตั้งเผ่าศักดิ์"ใส่เกียร์เดินหน้านำสายสื่อสารลงดิน หลังโครงการพญาไท เสร็จเรียบร้อยตามแผน พร้อมลุยต่อโครงการ สุขุมวิท ระยะทาง 25 กิโลเมตร คาดแล้วเสร็จภายในปี-60 มั่นใจช่วยผลักดันรายได้และกำไรจากธุรกิจให้เช่าเติบโตอย่างแข็งแกร่งและมั่นคงในระยะยาว
นางปรีญาภรณ์ ตั้งเผ่าศักดิ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เอแอลที เทเลคอม จำกัด (มหาชน) (ALT) ผู้ประกอบธุรกิจโทรคมนาคมแบบครบวงจร เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการนำสายสื่อสารลงใต้ดินในโครงการพญาไท ระยะทาง 8 กิโลเมตร ตั้งแต่ พหลโยธินซอย 1ถึง สะพานหัวช้าง ได้ดำเนินการแล้วเสร็จเรียบร้อยแล้ว ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินโครงการสุขุมวิท เฟสต่อเนื่อง ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่ซอยสุขุมวิท 1 ถึงซอยสุขุมวิท 81 คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนตุลาคม 2560 นี้ และบริษัทฯ เตรียมพร้อมเดินหน้านำสายสื่อสารลงดินในโครงการตามแผนการนำสายไฟฟ้าลงใต้ดินของการไฟฟ้านครหลวง เป็นเฟสถัดไป
ทั้งนี้ บริษัทฯมีวัตถุประสงค์หลักที่จะช่วยผู้ประกอบการในธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคมประหยัดงบลงทุนในการนำสายสื่อสารลงดินด้วยตนเอง อีกทั้งความจุของจำนวนเส้นใยแก้วนำแสงมีจำนวนมากขึ้นเมื่อเทียบกับการใช้เทคโนโลยีแบบเดิม ทำให้สามารถรองรับความต้องการของผู้ประกอบการทุกราย ซึ่งบริษัทฯ เปิดให้เช่าทั้งในรูปแบบ MICRODUCT ขนาดความจุมีทั้งแบบ 72 cores และแบบ 144 cores และแบบ DARK FIBER (AIR-BLOWN FIBER) อีกด้วย
"เราได้ดำเนินการนำสายสื่อสารลงดินในเส้นพหลโยธิน, ประดิพัทธิ์ และพญาไท รวมระยะทาง 30.40 กม. และอยู่ระหว่างนำสายสื่อสารลงดินในเส้นสุขุมวิทอีกประมาณ 25 กิโลเมตร ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2560 ขณะเดียวกันได้มีผู้ประกอบการด้านโทรคมนาคมติดต่อเข้ามาเพื่อเช่าบริการแล้วจำนวน 2 รายและอยู่ระหว่างเจรจาอีกจำนวนหลายราย ทำให้เราเชื่อมั่นว่าจะเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ให้เติบโตอย่างต่อเนื่องและมั่นคงในอนาคต" นางปรีญาภรณ์ กล่าว
กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เอแอลที เทเลคอม จำกัด (มหาชน) (ALT) กล่าวอีกว่า โครงการนำสายสื่อสารลงดินถือเป็นอีกโครงการหนึ่งที่ช่วยสนับสนุนแผนยุทธศาสตร์ของ ALT โดยการมุ่งเน้นเพิ่มสัดส่วนรายได้และ/หรือผลกำไรของกิจการในธุรกิจที่มีรายได้ต่อเนื่อง (Recurring Income) คือลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคมเพื่อให้เช่า ทั้งโครงการที่ลงทุนเองโดยตรงและลงทุนผ่านบริษัทร่วมทุนหรือกิจการร่วมค้า โดยมีเป้าหมายที่จะเพิ่มสัดส่วนของโครงสร้างกำไรที่มาจากธุรกิจที่มีรายได้ต่อเนื่อง (Recurring Income) เป็นครึ่งหนึ่งของผลกำไรรวมภายใน 5 ปี คือปี 2563 และแสดงให้เห็นว่า ALT เดินหน้าตามแผนงานที่ตั้งเป้าหมายไว้อย่างมั่นคง